https://aio.panphol.com/assets/images/community/5073_2BEA83.png

GLAND กำไรไตรมาส 1 โต 22% ทะลุ 106 ล้านบาท! ธุรกิจเช่าพื้นที่ค้าปลีกหนุน

P/E 0.00 YIELD 0.00 ราคา 0.00 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ: GLAND โชว์ผลงานไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิ 106 ล้านบาท โต 22% จากปีก่อนหน้า ธุรกิจเช่าพื้นที่ค้าปลีกหนุน

บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวม 424 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตนี้มาจากธุรกิจให้เช่าและบริการ โดยเฉพาะการปล่อยเช่าพื้นที่ค้าปลีกในโครงการที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าตลาดอาคารสำนักงานยังคงมีความท้าทาย แต่บริษัทฯ สามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและอัตราการปรับเพิ่มค่าเช่าได้สูงกว่าปีก่อนหน้าเล็กน้อย

สถานการณ์เศรษฐกิจ: ปัจจัยภายนอกกดดัน แต่ GLAND ยังคงเติบโต

เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 ขยายตัวเล็กน้อย โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกและภาคอุตสาหกรรมการผลิต ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวมีสัญญาณชะลอตัว รวมถึงการลงทุนภาคเอกชนที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ สภาวะหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง กำลังซื้อที่พักอาศัยที่ลดลง นโยบายภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าต่างๆ รวมถึงสภาวะตลาดอาคารสำนักงานที่ยังเผชิญความท้าทาย ล้วนเป็นปัจจัยกดดันต่อการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ตาม GLAND ยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้

ผลการดำเนินงาน: ควบคุมต้นทุนอยู่หมัด หนุนกำไรสุทธิโต

บริษัทฯ มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการบริหารจำนวน 171 ล้านบาท ลดลง 1% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการลดลงของต้นทุนและค่าใช้จ่ายของโครงการนิรติดอนเมืองที่สอดคล้องกับรายได้การโอนโครงการที่ลดลง นอกจากนี้ บริษัทฯ สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ กำไรสุทธิของบริษัทฯ ในไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 106 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า โดยหลักมาจากกำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากการบริหารโครงสร้างเงินทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

สินทรัพย์และหนี้สิน: บริหารจัดการหนี้สินได้ดี

บริษัทฯ มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 จำนวน 6,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 3.66% ต่อปี ต่ำกว่า ณ สิ้นปีก่อนหน้าที่ 3.87% ต่อปี ในขณะที่อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.37 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับระดับ ณ สิ้นปีก่อน โดยอัตราส่วนดังกล่าวยังต่ำกว่านโยบายของบริษัทฯ ที่ 1 เท่า และต่ำกว่าระดับเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ (Debt covenant) ที่ 3 เท่า

โพสต์ล่าสุด