บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

NVD เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กำไรสุทธิลดลงเหลือ 17 ล้านบาท จาก 22 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้รายได้รวมจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% เป็น 322 ล้านบาท แต่สถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวและการแข่งขันสูงในตลาดอสังหาฯ ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน

ผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว:

บริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายในการซื้อหรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง 2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 เนื่องจากการลดลงของการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอาคารชุด บันยันทรี เรสซิเดนท์ รีเวอร์ไซด์ ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง

นอกจากนี้ รายได้จากสัญญาก่อสร้างก็ลดลงถึง 52% เนื่องจากการลดสัดส่วนสัญญาก่อสร้างกับลูกค้าภายนอก และหันมาใช้ความสามารถในการผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปเพื่อพัฒนาโครงการภายในบริษัทเอง

การบริหารจัดการและหนี้สิน:

บริษัทมุ่งเน้นการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อเพิ่มอัตรากำไรให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและประมาณการรายได้ แม้ต้นทุนขายจะเพิ่มขึ้น 9% ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงเป็น 32% จาก 40% ในไตรมาส 1/2567 แต่บริษัทก็ยังคงดำรงอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินได้ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดสิทธิในการออกหุ้นกู้และเงื่อนไขในการกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงิน

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 สินทรัพย์รวมของบริษัทอยู่ที่ 14,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 9,497 ล้านบาท ลดลง 4% จากสิ้นปี 2567 ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 1.95 เท่า เป็น 1.73 เท่า

สรุปและแนวโน้ม:

แม้ผลประกอบการในไตรมาส 1/2568 จะไม่สดใสเท่าปีก่อน แต่ NVD ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ เนอวานา แอทเวิร์ค กรุงเทพกรีฑา ที่คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ปลายปี 2568 และการขายปิดโครงการ เดอะโมส อิสรภาพ ได้เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มทุนจดทะเบียนโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน