บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: CPAXT โชว์ผลงานไตรมาสแรกปี 68 กำไรสุทธิโต 6.5% ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ หนุนโดยธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกที่แข็งแกร่ง

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวม 129,950 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 2,643 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 6.5% การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากการเติบโตของรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสาขาใหม่และยอดขายนอกร้าน (Omni Channel) รวมถึงการเติบโตของยอดขายกลุ่มสินค้าอาหารสดและสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ

ผลการดำเนินงานที่โดดเด่น: รายได้และกำไรเติบโตต่อเนื่อง หนุนโดยธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก

รายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น 2.9% โดยกลุ่มธุรกิจค้าส่งเติบโต 3.1% และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเติบโต 2.7% ที่น่าสนใจคือ อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายเพิ่มขึ้นจาก 14.1% เป็น 14.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดประเภทผลตอบแทนจากการสนับสนุนการขายร่วมกับคู่ค้าของธุรกิจแม็คโครประเทศไทย และการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจค้าส่งจากมูลค่าเพิ่มจากการผนึกกำลังหลังการควบบริษัท แม้ว่าต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารจะเพิ่มขึ้น 1.4% แต่สัดส่วนต่อรายได้รวมปรับตัวดีขึ้น แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนของบริษัทฯ

งบดุลและกระแสเงินสด: ฐานะการเงินมั่นคง พร้อมรับมือความท้าทาย

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 CPAXT มีสินทรัพย์รวม 539,893 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.2% จากสิ้นปี 2567 ในขณะที่หนี้สินรวมอยู่ที่ 238,563 ล้านบาท ลดลง 3.8% ส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่ที่ 301,330 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9% ด้านกระแสเงินสด บริษัทฯ มีเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน 4,103 ล้านบาท เงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน 4,178 ล้านบาท และเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมจัดหาเงิน 6,084 ล้านบาท

โอกาสและความท้าทาย: มุ่งเน้น Omni Channel และรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจ

CPAXT ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ Omni Channel และการสร้างศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางชุมชน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการนำเสนอสินค้าคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า รวมถึงสินค้าทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตระหนักถึงความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจและรับมือกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น การกีดกันทางการค้า มาตรการภาษีระหว่างประเทศ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และอัตราเงินเฟ้อ