บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

Oppday GLOBAL ไตรมาส 3/66 เอาจริงเรื่องนอกบ้าน

 Global ไตรมาส 3 / 66

สมชื่อ GLOBAL จากอัพเดทล่าสุดมีการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านเราแล้วหลายสาขา จนแอบตกใจว่า! พาร์ทเนอร์ของเค้าเก่งมาก

สาขาในไทยปัจจุบันสาขารวมมี 80 สาขา และ ปีหน้าที่ 84 จบปี 2568 รวมแล้วจะมีสาขาทั้งหมด 101 สาขา  สาขาเดิมมีการปรับปรุงใหม่ให้มันดูทันสมัยขึ้นมีการติดแอร์เข้าไปเพราะว่าอากาศค่อนข้างที่จะร้อนมากทำให้ลูกค้าไม่ได้รับความสะดวก ติดโซลาร์รูฟเฉลี่ยสาขาละ 1 เมกะวัตต์ประหยัดค่าค่าใช้จ่ายไปได้ปีละ 200 ถึง 300 ล้านบาท 

ขยายศูนย์กระจายสินค้าเพิ่มอีกประมาณ 35,000 ตารางเมตร  เพื่อรอง รับยอดขายจากสาขาสาขาใหม่ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นและยังเป็นการจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ที่กัมพูชามีทั้งหมดสองสาขาเป็นการลงทุนเองของตัวบริษัทมีพัฒนาการที่ดีโดยสาขาที่สองคาดว่าจะเปิดตัวเป็นทางการในช่วงต้นปี 2567 

ที่ประเทศลาวถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องค่าเงินที่อ่อนกว่าสกุลไทยอยู่มากแต่ผลการดำเนินงานก็ยังดีอย่างต่อเนื่องเป็นการลงทุนกับพาร์ทเนอร์รวมทั้งหมดมี 7 สาขาและปีหน้าคาดว่าน่าจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขามีอัตรากำไรอยู่ประมาณ 8 ถึง 9% 

ที่ประเทศพม่านั้นมีทั้งหมด 12 สาขามีปัจจัยเรื่องของความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองมีบางพื้นที่ที่ยังมีมีการสู้รบกันอยู่บริษัทใดมีการชะลอการเปิดสาขาเพิ่มแต่พื้นที่ของบริษัทที่เปิดให้บริการอยู่นั้นไม่ได้รับผลกระทบเพราะอยู่ในกรอบของเมืองหลวงเป็นหลัก 

ที่ประเทศอินโดนีเซียมีทั้งหมด 12 สาขาทำร่วมกับทางบริษัทเอสซีซีโดยมีแผนจะเปิดปี 2567 อีกสองถึงสามสาขา  

ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากกัมพูชาอยู่ประมาณหนึ่งถึง 2%  ส่วนที่พม่าเองถือสัดส่วนประมาณ 30% ได้สัดส่วนกำไรออกมาประมาณซัก 60 ถึง 70 ล้านบาท

บริษัทมองว่าเฮ้าส์แบนด์ของตัวเองมีจำนวนเยอะกว่าคู่แข่งเป็นสินค้านำเข้าประมาณ 90% มีระยะเวลาในการผลิตและส่งยาวนานส่งผลให้การหมุนเวียนของสินค้าช้าลง   ในขณะที่ระยะเวลาในการจ่ายคืนเจ้าหนี้ ที่เร็วกว่าคู่แข่งขันเพราะมีสภาพคล่องดี และ ด้วยการชำระที่เร็วขึ้นก็สามารถเจรจาต้นทุนได้ดีขึ้น บริษัทเองมีความพยายามที่จะตั้งเป้าสัดส่วนสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ปี 2567 ได้อยู่ 25% และดันขึ้นถึง 30% ในอนาคต  

การขยายไปที่ฟิลิปปินส์ระหว่างการพูดคุยมองว่าอัตรากำไรข้างต้นแข่งขันได้อยู่ประมาณ 30% บริษัทไม่มีแผนลงทุนสาขาขนาดเล็ก   สัดส่วนยอดขายเหล็กประมาณ 15% ของยอดขายรวม 

อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากสินค้าเฮ้าส์แบนด์แล้วยังได้ประโยชน์จากค่าขนส่งที่ลดลงด้วย  โดยมีอัตรากำไรข้างต้นอยู่ที่ประมาณ 25.7%

ค่าใช้จ่ายในการให้บริการอยู่ที่ 19% มาจากการขยายสาขาที่เพิ่มขึ้นและค่าไฟที่เพิ่มขึ้น 

โดยโดยรวมอัตรากำไรสุทธิลดลงปัจจุบันอยู่ที่ 7.2% จากเดิมประมาณแปดถึง 9% โดยมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก

ปัจจุบันการเงินแข็งแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยมีหนี้สินหรือจีอีอยู่ที่ 0.64   และมีกระแสเงินสดรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง