https://aio.panphol.com/assets/images/community/2059_489E2E.png

PRM กำไรปี 67 โต 18.2% จากธุรกิจหลัก! ทะยานรับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้น-คุมเข้มสิ่งแวดล้อม

P/E 6.33 YIELD 7.99 ราคา 6.30 (0.00%)

พริมา มารีน โชว์ผลงานปี 67 สุดแกร่ง กำไรพุ่ง แม้มีปัจจัยกดดัน

ไฮไลท์สำคัญ: กำไรสุทธิโตเด่น แม้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM ประกาศผลประกอบการปี 2567 สุดแข็งแกร่ง ทำกำไรสุทธิ 2,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากปีก่อน แม้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น หากไม่รวมกำไรจากการขายเรือในปี 2566 กำไรสุทธิปี 2567 จะเติบโตถึง 18.2% สะท้อนศักยภาพการเติบโตจากธุรกิจหลัก

ผลงานรายไตรมาส: Q4 รายได้เพิ่ม แต่กำไรสุทธิลดเล็กน้อย

ในไตรมาส 4/2567 PRM มีรายได้จากการให้บริการ 2,170.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แต่กำไรสุทธิอยู่ที่ 494.3 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น

ธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมี (PCT) เติบโต จากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้น แต่กำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/2567 ลดลงเล็กน้อยเนื่องจากมีเรือเข้าซ่อมบำรุงตามแผนจำนวนมาก

ธุรกิจเรือสนับสนุนงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมกลางทะเล (Offshore Support Vessel: OSV) ผลการดำเนินงานปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการให้บริการเรือ OSV เพิ่มขึ้น 3 ลำ

ธุรกิจตัวแทนสายเดินเรือและออกของ (SAS) การเพิ่มขึ้นของรายได้ กำไรขั้นต้น เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของ บจก. ส่.ซี.ซิปปิ้ง แอนด์ เซอร์วิส (S.C.Shipping and Service Co.,Ltd. : SCS)

โอกาสและความเสี่ยง: ท่องเที่ยวฟื้นหนุน-คุมเข้มสิ่งแวดล้อมดัน FSU

PRM ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและการขยายฐานลูกค้าไปยังต่างประเทศ ช่วยหนุนธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปและเคมีให้เติบโต นอกจากนี้ กฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นยังส่งผลดีต่อธุรกิจเรือกักเก็บและผสมน้ำมันกลางทะเล (FSU) เนื่องจากความต้องการใช้ FSU เพื่อกักเก็บและผสมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) เพิ่มสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ และการแข่งขันในอุตสาหกรรม

สรุป: PRM ยังน่าสนใจ แต่ต้องจับตาความเสี่ยง

โดยรวมแล้ว PRM มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2567 และมีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยความเสี่ยงและโอกาสอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน และการแข่งขันที่สูงในอุตสาหกรรม

อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) เพิ่มขึ้นเป็น 0.96 เท่า แสดงให้เห็นถึงการใช้ leverage ที่เพิ่มขึ้นเพื่อขยายธุรกิจ แต่บริษัทยังคงมีความสามารถในการชำระหนี้ได้

โพสต์ล่าสุด