บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SC Asset กำไร Q4/67 ทรุด! Krungsri Securities หั่นเป้าเหลือ 3 บาท แต่ยังแนะนำ "ซื้อ"
P/E 5.82 YIELD 6.90 ราคา 2.32 (3.57%)
ไฮไลท์สำคัญ: Krungsri Securities ปรับลดประมาณการ SC Asset
Krungsri Securities คาดการณ์กำไรสุทธิของ SC Asset (SC) ในไตรมาส 4/2567 จะอยู่ที่ 591 ล้านบาท ลดลง 31% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้จะเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ Krungsri Securities จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567-2568 ลงเฉลี่ย 11% มาอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (ลดลง 27% y-y) และ 2.0 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11% y-y) ตามลำดับ
รายละเอียดผลประกอบการและปัจจัยกระทบ
การลดลงของกำไรสุทธิ y-y ในไตรมาส 4/2567 คาดว่ามาจาก 1) รายได้ที่ลดลง 34% y-y ทั้งในกลุ่ม low-rise และ condo และ 2) % GPM ที่ลดลง 250 bps y-y มาอยู่ที่ 28.3% เนื่องจากการใช้ price promotion ที่มากในการระบาย stock โดยเฉพาะในกลุ่ม low-rise สำหรับปี 2567 คาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ลดลง 27% y-y จากรายได้ที่ลดลง 17% y-y และ % GPM ที่ลดลง 240 bps y-y มาอยู่ที่ 29.8%
Krungsri Securities คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 1/2568 จะเพิ่มขึ้น y-y จากฐานที่ต่ำ แต่มีโอกาสลดลงเล็กน้อย q-q โดยรวมยังคงเป็นกำไรที่ค่อนข้างสูงเนื่องจากมี backlog ของ condo โครงการใหม่เข้ามาโอน อย่างไรก็ตาม ได้ปรับลดกำไรสุทธิปี 2568 ลง 11% มาอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11% y-y) ตามแนวโน้ม % GPM ที่ต่ำกว่าคาดการณ์เดิม
คำแนะนำและราคาเป้าหมาย
Krungsri Securities ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568 ลง 6% มาอยู่ที่ 3.0 บาท (PER target 6.4x) แต่ยังคงคำแนะนำ "Buy" โดยให้น้ำหนักกับเรื่องราวระยะยาวเกี่ยวกับแผนธุรกิจที่ aggressive ในอีก 3 ปีข้างหน้า ทั้งในส่วนของ residential และการขยายสู่ธุรกิจใหม่เพื่อสร้าง new S-curve ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตและสม่ำเสมอขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นต้นไป
ข้อสังเกตและปัจจัยที่ต้องติดตาม
Krungsri Securities มองว่าประเด็น downside risk มาจาก % GPM ปี 2568 ที่อาจต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 30.6% โดยทุกๆ 50 bps ที่ลดลง จะกระทบต่อกำไรสุทธิปี 2568 ประมาณ 5% อย่างไรก็ตาม มองว่าช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เป็นต้นไป น่าสนใจจากธุรกิจใหม่ทั้ง hotel และ warehouse ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตต่อเนื่องและสม่ำเสมอขึ้น และมีโอกาสเป็น new S-curve ในระยะถัดไป ในขณะที่ธุรกิจหลัก residential ยังมีโอกาสเติบโตจากการเพิ่ม market share