PLT Oppday Q3/2568: พีรพัฒน์ มารีน เดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ, ปรับกลยุทธ์รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว

P/E 9.52 YIELD 4.92 ราคา 0.61 (0.00%)

PLT Oppday Q3/2568: พีรพัฒน์ มารีน เดินหน้าขยายตลาดต่างประเทศ, ปรับกลยุทธ์รับมือเศรษฐกิจชะลอตัว

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

ภาพรวมผลประกอบการของ PLT ใน Q2/2568 พบว่าธุรกิจยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่มีปัจจัยที่ทำให้ต้องปรับประมาณการรายได้ลดลงเล็กน้อย โดยมีทั้งผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบดังนี้:

  1. **เชิงบวก:**

    การเติบโตของรายได้จากกองเรือต่างประเทศ (International Fleet) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (+70% YoY) แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการขยายตลาดในเอเชีย

    การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้บริษัทรักษา Net Profit Margin ได้ในระดับ 6-8%

  2. **เชิงลบ:**

    ปริมาณการขนส่งในประเทศ (Domestic Fleet) ลดลง 6% จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและผลกระทบจาก Trade War

    การปรับลดราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั๊ม ส่งผลกระทบต่อรายได้ของกองเรือในประเทศ

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้บริษัทปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ (Revenue Growth) ลงเหลือ 12% จากเดิมที่ตั้งไว้ 15%

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

PLT มองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งมีความต้องการใช้เรือขนส่งขนาดเล็ก (SGC) อย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์ที่ใช้ในการคว้าโอกาสนี้คือการเช่าเรือ (Chartering) เพื่อทดสอบตลาดและลดความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจซื้อเรือ (Acquire Asset) จริง

บริษัทมีแผนที่จะขยายกองเรือในเอเชีย โดยเน้นเรือขนาด 3,500 CBM และ 5,000 CBM ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

ความเสี่ยงหลักที่ PLT กำลังเผชิญคือสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณการขนส่งและการใช้ก๊าซ LPG

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น Trade War และการแข่งขันในตลาดขนส่ง

บริษัทตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้และบริหารจัดการธุรกิจอย่างระมัดระวัง (Conservative) โดยเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

PLT ใช้กลยุทธ์หลากหลายในการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยง:

  1. การปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ เพื่อลดการพึ่งพิงตลาดในประเทศ
  2. การใช้กลยุทธ์เช่าเรือ (Chartering) เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
  3. การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาระดับผลกำไร
  4. การกระจายฐานลูกค้า (Diversify Customer Base) เพื่อลดผลกระทบจากการสูญเสียลูกค้ารายใดรายหนึ่ง
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

PLT มองว่าธุรกิจยังมีแนวโน้มเติบโตได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ

บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเป็น 30% ในอนาคต

PLT ยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและรักษาความสามารถในการแข่งขัน

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):** **[เริ่ม Q&A นาทีที่ 42:05]**
  1. **หัวข้อ: ธุรกิจปีหน้าและเป้ารายได้จากต่างประเทศ**
    • **คำถาม:** ธุรกิจในปีหน้าจะเป็นอย่างไร และรายได้จากต่างประเทศที่คาดว่าจะเพิ่ม 30% ภายในปีหน้า จะเป็นไปได้ในปีไหน?
    • **คำตอบ:**

      แม้เศรษฐกิจในประเทศยังไม่เติบโตมากนัก แต่ต่างประเทศยังมีโอกาสเติบโต PLT มีเรือในต่างประเทศเพิ่มเป็น 3 ลำแล้ว ทำให้รายได้ปีหน้าเพิ่มขึ้น มีโอกาสที่สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะใกล้เคียง 30% หากรับรู้รายได้เต็มปี และจะมีรายได้จากเรือใหม่ในปี 2570 เพิ่มขึ้นอีก

  2. **หัวข้อ: แผนเช่า/ซื้อเรือ และงบลงทุน**
    • **คำถาม:** แผนเช่ากองเรือก่อนแล้วค่อยซื้อ มีงบลงทุนประมาณเท่าไร?
    • **คำตอบ:**

      การเช่าเรือเป็น Asset Light Model ทำให้ไม่มีต้นทุนมากนัก PLT ทำสัญญา Time Charter กับเจ้าของเรือที่มี Connection และปล่อยเช่าต่อให้ Trader รายใหญ่ โดยมี Margin ประมาณ 16-20% (ปัจจุบัน 18%) ซึ่ง PLT คาดว่าจะกด Margin ให้เพิ่มขึ้นได้อีก ค่าใช้จ่ายต่างๆ (ค่าคนเรือ, ซ่อมเรือ) เป็นความรับผิดชอบของเจ้าของเรือ

  3. **หัวข้อ: รายได้ทั้งปี**
    • **คำถาม:** รายได้ทั้งปีเติบโตเป็นอย่างไร?
    • **คำตอบ:**

      จากเดิมตั้งเป้าเติบโต 15% แต่ด้วยยอดในประเทศลดลงและราคาน้ำมันหน้าปั๊มลดลง ทำให้คาดว่าจะเติบโต 12% เนื่องจากรายได้จะอิงตามราคาน้ำมันหน้าปั๊ม แต่ต้นทุนก็จะลดลงด้วย ซึ่งในไตรมาส 4 มีแนวโน้มที่จะกลับตัวดีขึ้น (Rebound) แต่อย่างไรก็ตาม ต้อง Monitor Q4 ก่อน

  4. **หัวข้อ: Business Model, Margin และค่าใช้จ่าย**
    • **คำถาม:**

      Business Model ที่เช่าเรือมาแล้วปล่อยเช่าต่อ ส่วนต่าง Margin ที่บริษัทได้ประมาณกี่เปอร์เซ็นต์ และค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงใครรับผิดชอบ?

    • **คำตอบ:**

      โมเดลคือ Time Charter, Time Charter ส่วนต่าง Margin อยู่ที่ 16-20% ปัจจุบันอยู่ที่ 18% ค่าใช้จ่ายต่างๆ เจ้าของเรือเป็นคนรับผิดชอบ โมเดลนี้มีความเสี่ยงน้อยและเติบโตได้ แต่ก็ต้องมีเรือเป็นของตัวเองด้วย จึงต้องมีทั้งเช่าและซื้อ

  5. **หัวข้อ: Demand การขนส่งทางเรือ/รถ ในและต่างประเทศ**
    • **คำถาม:** Demand ความต้องการการขนส่งทางเรือและทางรถในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างไรบ้าง ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้และปี 2569?
    • **คำตอบ:**

      Demand ต่างประเทศยังคึกคัก ลูกค้า Trader ยังต้องการใช้เรือเล็กเพื่อเทรด Olofin โดยจะหาที่ซื้อถูกๆ แล้วไปขายแพงขึ้น อีกทั้ง Trade War ทำให้ Activity ในเอเชียเพิ่มขึ้น ส่วนในประเทศยังคงมอง Q4 เป็นหลัก หากตัวเลขเริ่ม Rebound ก็จะมองว่า Q3 แย่ที่สุดแล้ว แต่ก็จะใช้เรือให้ดีที่สุด, Minimize ต้นทุน และ Utilize เรือให้เหมาะสม

  6. **หัวข้อ: ส่วนแบ่งทางการตลาด**
    • **คำถาม:** สัดส่วนส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอย่างไร และมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มหรือไม่?
    • **คำตอบ:**

      สัดส่วน BU ปัจจุบัน: ในประเทศ 65%, ต่างประเทศ 24%, ทางรถที่เหลือ ในปีหน้าจะขยายทางเรือมากขึ้น Market Share ในประเทศ: ปตท. 70%, WP 100% (สยามแก๊สมีเรือตัวเอง), Atlas (2Q ที่ผ่านมาวิ่ง Spot ให้) ตั้งเป้าหมายที่จะกระจายพอร์ตลูกค้ามากขึ้น และ Market Share ในประเทศที่กินอยู่ประมาณ 70%

  7. **หัวข้อ: แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2569**
    • **คำถาม:** หากปี 2569 แนวโน้มเศรษฐกิจมีอัตราแย่ลง แนวโน้มรายได้ของ PLT จะเป็นอย่างไรและมีกลยุทธ์อย่างไร?
    • **คำตอบ:**

      หากเศรษฐกิจในประเทศแย่ลง (ต่างประเทศคงที่) ต้องดูว่าลดจากอะไร หากตกภาพรวมก็จะเน้นขยายต่างประเทศมากขึ้น, ลดจำนวนเรือให้เหมาะสม, รายได้ลด Cost ลด แต่ถ้าตกจากลูกค้ารายใดรายหนึ่ง ก็ต้องกระจายพอร์ตลูกค้า หาลูกค้าใหม่ๆ ถามลูกค้ารายหลักว่าความจำเป็นในการใช้เรือมีหรือไม่ ถ้าไม่ถึงก็ถอนเรือมาให้ลูกค้ารายอื่น เพื่อ Serve การใช้แก๊สในประเทศให้คุ้มค่าที่สุด

  • วราวุฒิ ฉิมตะวัน (ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร)
  • กนกอร เลิศวีระจิตต์ชัย (ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน)

สรุปโดยรวม, PLT ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยใช้กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและปรับตัวตามสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด