บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
GABLE โชว์ผลงาน Q3/2568 ทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ พร้อมอัปเดตกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง
P/E 7.65 YIELD 8.39 ราคา 3.22 (0.00%)
GABLE โชว์ผลงาน Q3/2568 ทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ พร้อมอัปเดตกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง
สวัสดีครับท่านนักลงทุนและสื่อมวลชนทุกท่าน วันนี้เป็นการประชุม Oppday ประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ของบริษัท เจเบิล จำกัด มหาชน (GABLE) โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมให้ข้อมูล คือ คุณรวิรัตน์ สัจจวโรดม ประธานบริหารสายงานการเงินและกลยุทธ์ และคุณคมสัน อรรถพลพิทักษ์ ผู้ดูแลงานนักลงทุนสัมพันธ์และพัฒนาความยั่งยืน
วันนี้จะมีการสรุปผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา เล่าถึงความสำเร็จของ GABLE ด้านการพัฒนาความยั่งยืน (ESG) และอัปเดตกลยุทธ์ในช่วงครึ่งปีหลัง
ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568
ไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมาถือเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดไตรมาสหนึ่งของบริษัท โดยเฉพาะในส่วนของ Bottom Line หรือกำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิ ซึ่งถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2566
ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงการเป็น Tech Enabler ของ GABLE ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถรับรู้และขยายธุรกิจได้ ทั้งในส่วนของลูกค้าเองและ GABLE เอง
รายได้จากการขายและบริการเติบโตเพิ่มขึ้น ทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและเทียบกับปีก่อน โดยมี 4 ธุรกิจหลักขับเคลื่อน:
ทุกธุรกิจมีการเติบโตขึ้น ทำให้การเติบโตของบริษัทเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง
รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่งผลดีต่อกำไรขั้นต้นของบริษัท ซึ่งเพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาส 3 ปีที่แล้ว และ 17% จากไตรมาส 2 อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 21.6% จาก 19.9% ในไตรมาส 3 ปีก่อน และ 20.4% ในไตรมาส 2
กลยุทธ์ของบริษัทในปีนี้คือการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้ลดลง มาอยู่ที่ 13.1% จาก 14.7% ใน Q3 ปีก่อน และ 14.6% ใน Q2
ผลของกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น, อัตรากำไรที่เพิ่มขึ้น, และค่าใช้จ่ายบริหารต่อรายได้ที่ลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นสูงสุดหลังเข้าตลาด โดยอยู่ที่ 116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108% จากไตรมาส 3 ปีก่อน และ 44% จากไตรมาส 2 ทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 4% ในไตรมาส 3 ปีก่อน เป็น 7.2% และดีกว่าไตรมาส 2 ปีนี้ที่ 5.5%
บริษัทรักษาการมีวินัยทางการเงิน โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนเลย และมีเงินสดในมือมากกว่า 900 ล้านบาท แสดงถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจ
รายได้ของไตรมาส 3 ปีนี้อาจไม่สูงเท่าไตรมาส 2 ปีที่แล้ว เนื่องจากไตรมาส 2 ปีที่แล้วมีโครงการ Hardware ขนาดใหญ่ (Big Deal) มูลค่า 700 ล้านบาท แต่กำไรขั้นต้นในไตรมาส 3 ปีนี้สูงกว่าไตรมาส 2 ปีที่แล้วประมาณ 10% แสดงว่า GABLE มุ่งเน้นการเพิ่มอัตรากำไรให้กับนักลงทุน
โดยปกติกำไรสุทธิของปีจะสูงที่สุดในไตรมาสที่ 4 แต่ไตรมาสที่ 3 ปีนี้มีกำไรขั้นต้นสูงใกล้เคียงกับไตรมาสที่ 4 ปีที่แล้ว สะท้อนว่าธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มมีการเติบโตและ Synergy กัน มีการร่วมมือกับพันธมิตร เช่น กลุ่มบริษัท R2 และ Tiness ทำให้เกิด Synergy ในเรื่องของลูกค้า, Product, Solution และการบริการ ทำให้ GABLE เติบโตจากภายใน
Backlog และโอกาสทางธุรกิจ
ณ เดือนกันยายน 2568 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 1,400 ล้านบาท และมีเวลาอีก 2-3 เดือนในไตรมาสที่ 4 เพื่อเพิ่ม Backlog ให้มากขึ้น
สำหรับปี 2569 บริษัทมี Backlog ที่ Secure แล้วประมาณ 2,700 ล้านบาท และหลังจากปีนั้นมี Backlog อีกประมาณ 2,100 ล้านบาท
Backlog ของ GABLE เริ่มมีในส่วนของ Business Application ซึ่งเข้าลงทุนเมื่อปีที่แล้ว โดย Business Application มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของรายได้และ Backlog รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าปกติ ทำให้กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิของ GABLE เพิ่มขึ้น
รูปแบบการเติบโตของ Backlog มีการไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ จากประมาณ 4,000 ล้านบาท เป็น 6,175 ล้านบาท ณ สิ้นปีที่แล้ว ซึ่งเป็น All Time High และบริษัทมีการ Synergy ภายในกลุ่มบริษัท, Synergy กับลูกค้า, และเกิดความเชื่อมั่นในกลุ่มบริษัท ทำให้ Backlog มีการไต่ระดับที่เพิ่มขึ้น และ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 เองก็ถือว่าเป็น Backlog ที่อยู่ในระดับที่สูง ใกล้เคียงระดับ All Time High ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีนี้
นอกจากการเติบโตของรายได้ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยรวมรายได้เติบโต 16% ในไตรมาสที่ 3 ปีนี้เทียบกับปีก่อน สะท้อนมาที่ Gross Profit Margin ที่ดีขึ้นและกำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของ Q3 ปีนี้และเทียบกับ 9 เดือนของปีที่แล้ว
ส่วนของรายได้ที่การเติบโตมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น, กำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น, และค่าใช้จ่ายบริหารที่ควบคุมได้ ทำให้ Operating Profit และ EBITDA ดีขึ้น และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในช่วงเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้ว
หากไม่มี Big Deal ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปีที่แล้ว บริษัทจะเติบโตเพิ่มขึ้น 18% เทียบกับ 9 เดือนของปีที่แล้ว และอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ 19.7% ใน 9 เดือนของปีนี้ จาก 17.5% ในช่วง 9 เดือนปีที่แล้ว แสดงว่า GABLE ให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไร
สัดส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Revenue) เทียบกับรายได้อยู่ที่ประมาณ 50% ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน ทำให้บริษัทสามารถวางแผนรองรับการบริการต่างๆ ที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น และลดความผันผวนในส่วนของรายได้ของบริษัท
เป้าหมายรายได้ของปี 2568 เทียบกับปีที่แล้ว หากไม่รวม Big Deal ของปีที่แล้ว จะเติบโตเพิ่มขึ้น 5-15% ในส่วนของรายได้ประจำก็จะทำได้ประมาณ 50% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ประมาณ 19.5-20.5% เทียบกับปีที่แล้วอยู่ที่ 18.5% ส่วนอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อรายได้จะยังคงบริหารอยู่ที่ประมาณ 14% และ Backlog ที่ทำได้ดีขึ้นตลอดมาหลังจากการเข้าตลาดหลักทรัพย์
ESG และกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง
คุณรวิรัตน์ได้กล่าวถึงความสำเร็จด้าน ESG โดย GABLE ได้รับการประเมินผลการกำกับดูแลกิจการที่ดีเลิศ (Excellent CG Scoring) จาก IOD และได้รับคัดเลือกให้เป็นรายชื่อหุ้นยั่งยืน Thailand Sustainability Investment (THSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
กลยุทธ์ของบริษัทในปีนี้ยังคงเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่:
โดยในส่วนของการปรับปรุง Foundation จะโฟกัสที่การเพิ่ม Productivity per Staff หรือ Revenue per Staff ให้สูงขึ้น โดยมี Metric ชี้วัดที่สำคัญคือ Gross Profit Margin
ในส่วนของ Current Business ที่เป็นธุรกิจ IT Infrastructure มี 5 Portfolio หลัก ได้แก่ Data Center, Cloud Modernization, Cyber Security, Data Analytics, และ Manage Tech Service รวมถึง Software Platform ที่เป็น Big Data Software Platform โดยมีการเติบโตในแทบทุก Portfolio และเติบโตขึ้นกว่า 15% Year on Year
ปัจจัยที่ผลักดันสำคัญคือการ Upselling และ Cross-sell ได้มากขึ้นในกลุ่มฐานลูกค้า และเทคโนโลยี Trend ที่สำคัญใน 3 ปีข้างหน้าคือ Data Center และ Cloud โดยลูกค้า Enterprise มีการขยับขยายจาก On-Premise มาเป็น Hybrid Environment มากขึ้น ทำให้ GABLE สามารถ Support ลูกค้าได้แบบ End-to-End ด้วย Holistic Service ตั้งแต่การ Migrate ขึ้น Cloud Environment, Architect Environment, Application Modernization, Manage Service on Cloud, และ Cloud Security
นอกจากนี้ Trend ที่สำคัญอีกส่วนหนึ่งคือ Cyber Security โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมาของ AI ทำให้ Cyber Threat ในปีนี้มีความรุนแรงมากขึ้น Enterprise ต่างๆ จึงมีการลงทุนในส่วนของ Cyber Security มากขึ้น ซึ่ง GABLE ก็มีทีม Cyber Security Service ที่สามารถ Support ลูกค้าได้
ในส่วนของ New Business ตั้งแต่การ Acquire Route 2 Solutions มา ทำให้มี Portfolio ของ Business Application เกิดขึ้น และปีนี้จะมีการรับรู้รายได้ของ Route 2 Solutions เต็มปี รวมถึงตัวบริษัทเองก็มีการเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ Portfolio ของ New Business เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สูงถึง 29.7% Year on Year
สรุป
โดยสรุป GABLE มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ปี 2568 โดยมีกำไรสุทธิสูงสุดตั้งแต่เข้าตลาดหลักทรัพย์ และมี Backlog ที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในการเติบโตอย่างยั่งยืนและรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
**ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):**
*** #### **Q&A Session [เริ่มใน นาทีที่ 27:58]** **Q:** สาเหตุที่รายได้และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะใน Q3 เกิดจากอะไร? **A:**- รายได้ทั้ง 4 ธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทดีขึ้นทุกกลุ่ม
- มีการ Synergy ทั้งในเรื่องของ Cross-sell และ Up-sell
- มีการ Synergy กันค่อนข้างจะเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อน และมีการนำเสนอ Product หรือบริการของทั้ง R2 ไปยังกลุ่มของ Gable เองก็ตาม
- นำ Product ของที่ทางกลุ่ม Gable มีความแข็งแกร่ง ไป Synergy กับลูกค้าของกลุ่ม R2 หรือว่าจะเป็น Tiness ที่เป็น Partnership ของทาง Gable เช่นเดียวกัน
- บริษัทเรามีการเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว สะท้อนวันที่ 1
- บริษัทเรามีการปรับจริงๆตั้งแต่ต้นปีแล้วแหละ เรามีการอยู่ใน 1 ในกลยุทธ์นะครับ ที่เรามีการลดเรื่องของต้นทุนการบริหาร
- เรื่องของการปรับโครงสร้างองค์กรในช่วงไตรมาสที่ 1 ทำให้ธุรกิจเราเนี่ยที่สามารถเพิ่มอัตรากำไร ที่จะเพิ่มขึ้น
- การที่เราเนี่ยเป็นบริษัทที่เราเนี่ยไม่มีเงินกู้จากสถาบันการเงิน ณ ช่วงไตรมาสที่ 3 เลย (Gable)
- สามารถที่จะรองรับความผันผวน เราก็มีกระแสเงินสดในมือเนี่ยมากกว่า 900 ล้าน ตอนนี้ก็สะท้อนให้ว่า (Gable) เรา เราไม่ได้หยุดแค่เรื่องของการพัฒนาเรื่องของ แค่รายได้หรือกำไร
- เราก็พยายามจะ Synergy หรือหา Partnership ใหม่ๆ ที่เข้ามาเพิ่ม สินค้าบริการของกลุ่มบริษัท
- ความสำเร็จในเรื่องของ นอกจากเรื่องของทางการเงิน อย่างที่คุณรวิรัตน์ได้เรียนไปว่า หนึ่งในเรื่องของ (ESG) ที่เราให้ความสำคัญ ก็คือเรื่องของ (Governance)