บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

SPCG เผยผลประกอบการ 9 เดือน กำไรสุทธิร่วง 51% หลัง Adder หมดอายุ ฉุดรายได้ธุรกิจ Solar Farm วูบ ขณะที่ธุรกิจ Solar Roof ยังคงเติบโตได้ดี แต่ไม่สามารถชดเชยผลกระทบจาก Solar Farm ได้ บริษัทฯ ยังเผชิญผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น

ผลประกอบการที่น่าจับตา

งวด 3 เดือน: รายได้รวม 449.5 ล้านบาท (+23%) กำไรสุทธิ 72.7 ล้านบาท (+3%) จากปีก่อน การเติบโตมาจากธุรกิจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof)

งวด 9 เดือน: รายได้รวม 1,372.4 ล้านบาท (-14%) กำไรสุทธิ 305.5 ล้านบาท (-51%) จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการสิ้นสุด Adder ของธุรกิจ Solar Farm และผลขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์

ธุรกิจ Solar Farm รายได้ลดลงจากอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) และจำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายได้ลดลง ในขณะที่ธุรกิจ Solar Roof รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก สะท้อนการเติบโตของตลาด

นอกจากนี้ เหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อ Solar Power (สุรินทร์ 2) มูลค่า 9.2 ล้านบาท

ข้อสังเกตและวิเคราะห์

ผลกระทบ Adder: การสิ้นสุด Adder ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ โดยอัตรากำไรขั้นต้นงวด 9 เดือนลดลงจาก 51% เหลือ 36%

Solar Roof พระเอกตัวจริง: ธุรกิจ Solar Roof เป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของรายได้ แม้จะไม่สามารถชดเชยผลกระทบจาก Solar Farm ได้ทั้งหมด

การบริหารจัดการเงินสด: บริษัทมีการบริหารจัดการเงินสดโดยการลงทุนในกองทุนรวมตลาดเงินระยะสั้น และมีการจ่ายเงินปันผลจำนวน 1,260.9 ล้านบาท

คดีความ: บริษัทยังอยู่ระหว่างการยื่นฟ้องศาลยุติธรรม (ศาลแพ่ง) เรียกค่าเสียหายจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)

สรุป

SPCG เผชิญความท้าทายจากการสิ้นสุด Adder ในธุรกิจ Solar Farm ส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Solar Roof ยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญ บริษัทฯ ยังคงต้องบริหารจัดการต้นทุนและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อรักษาระดับผลกำไรในอนาคต