บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
NICE CALL (NCP) กำไรพุ่ง 37.83% จากธุรกิจบริการหนุน!
P/E 8.51 YIELD 7.23 ราคา 0.94 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: NCP โชว์ผลงาน 9 เดือน ปี 68 กำไรสุทธิโต 37.83% จากรายได้บริการที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด มุ่งเน้นขยายตลาดบริการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง
บมจ. ไนซ์ คอล (NCP) ประกาศผลประกอบการงวด 9 เดือน สิ้นสุด 30 กันยายน 2568 กวาดรายได้รวม 141.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.50% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การเติบโตของรายได้จากธุรกิจให้บริการ โดยเฉพาะบริการเพิ่มยอดขายสินค้า (Upselling & Cross Selling) และบริการบริหารพนักงานขายเฉพาะเจาะจง (Dedicated Telesale Outsourcing) ที่เติบโตถึง 156.36% คิดเป็นมูลค่า 22.89 ล้านบาท
ผลการดำเนินงาน: รายได้บริการโตแรง หนุนกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิพุ่ง
ถึงแม้ว่ารายได้จากการขายจะลดลง 12.03% คิดเป็น 14.24 ล้านบาท เนื่องจากการปรับกลยุทธ์เน้นขยายตลาดบริการ แต่ NCP สามารถทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 14.39% คิดเป็น 94.22 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 37.83% คิดเป็น 15.74 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของรายได้จากบริการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า โดยอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 61.91% เป็น 66.49% นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนขายได้ดี โดยต้นทุนขายสินค้าลดลง 10.14% จากการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าแบรนด์ของตนเอง (House Brand) ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า
ข้อสังเกต: สินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อยจากการจ่ายปันผล แต่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง
ในส่วนของฐานะการเงิน สินทรัพย์รวมลดลง 0.69% คิดเป็น 215.98 ล้านบาท เนื่องจากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในขณะที่หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น 13.01% คิดเป็น 43.44 ล้านบาท โดยรายการหนี้สินหลัก ได้แก่ เจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่นและภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย อย่างไรก็ตาม ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลง 3.63% คิดเป็น 172.54 ล้านบาท จากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเช่นกัน โดยรวมแล้ว ฐานะการเงินของ NCP ยังคงแข็งแกร่ง
สรุป: NCP เดินหน้าขยายธุรกิจบริการ สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
โดยสรุป NCP มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในงวด 9 เดือน ปี 2568 โดยเฉพาะการเติบโตของรายได้จากธุรกิจบริการ ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการขยายตลาดบริการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง แม้ว่ารายได้จากการขายจะลดลง แต่ NCP สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ฐานะการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าสินทรัพย์รวมและส่วนของผู้ถือหุ้นจะลดลงเล็กน้อยจากการจ่ายเงินปันผล