บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
AAV ขาดทุนหนัก! ไตรมาส 3/68 กำไรหด นักท่องเที่ยวจีนวูบ
P/E 13.76 YIELD 0.00 ราคา 1.16 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: AAV เผชิญความท้าทายจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง ฉุดกำไรไตรมาส 3 ร่วงหนัก แม้พยายามเน้นตลาดในประเทศและคุมต้นทุน
บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2568 รายได้รวมลดลง 35% เหลือ 9,929.7 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 874.7 ล้านบาท จากที่เคยกำไร 3,446.4 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นตลาดสำคัญ
สถานการณ์และผลกระทบ: นักท่องเที่ยวจีนหาย ตลาดในประเทศช่วยพยุง
ในไตรมาส 3/2568 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7.4 ล้านคน ลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตลาดระยะไกล เช่น ยุโรปและอเมริกา จะยังเติบโตได้ดีก็ตาม ไทยแอร์เอเชีย (TAA) เพิ่มปริมาณที่นั่ง 9% เป็น 5.9 ล้านที่นั่ง แต่มีผู้โดยสารรวม 4.7 ล้านคน ลดลง 3% อัตราการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 80% ลดลงจาก 90% ในปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ตลาดภายในประเทศ TAA เพิ่มปริมาณที่นั่ง 19% และเปิดเส้นทางบินใหม่ 3 เส้นทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ
วิเคราะห์เจาะลึก: รายได้หด ต้นทุนเพิ่ม ภาระหนี้สินยังทรงตัว
รายได้จากการขายและบริการลดลง 15% จากจำนวนผู้โดยสารและค่าโดยสารเฉลี่ยที่ลดลง รายได้จากบริการเสริมลดลง 17% แม้ว่าต้นทุนขายและบริการจะลดลง 2% จากประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและต้นทุนน้ำมันที่ลดลง รวมถึงค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่ลดลง 12% ตามราคาน้ำมันที่ลดลง แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารกลับเพิ่มขึ้น 14% จากค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายให้ OTA สูงขึ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 สินทรัพย์รวมของ AAV อยู่ที่ 79,149.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากสิ้นปี 2567 หนี้สินรวมอยู่ที่ 67,043.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวมสุทธิอยู่ที่ 0.6 เท่า
มองไปข้างหน้า: คาดหวัง Q4 ฟื้นตัว แต่ยังห่วงตลาดจีน
AAV คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2568 จะฟื้นตัวได้ดีจากความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อการฟื้นตัวของตลาดจีน โดยสรุป AAV ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน แต่ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดภายในประเทศและบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทคาดหวังว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นในไตรมาส 4 จากปัจจัยฤดูกาลและการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ