บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ASPS มอง SCC ยังมีปัจจัยลบกดดัน แต่การปรับตัวจะช่วยให้แข็งแกร่งขึ้นในระยะยาว ให้ราคาเป้าหมาย 210 บาท

Highlight สำคัญ: SCC ขาดทุนสุทธิ 512 ล้านบาทในไตรมาส 4/67

SCC รายงานผลประกอบการปี 2567 กำไรสุทธิ 6,342 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 24 ปี โดยในไตรมาส 4/67 ขาดทุนสุทธิ 512 ล้านบาท ถูกกดดันจากธุรกิจปิโตรเคมีที่ขาดทุนหนัก รวมถึงธุรกิจ SCGP (ไทย) ที่ขาดทุนเป็นครั้งแรกนับแต่เข้าจดทะเบียนใน SET

ธุรกิจปิโตรเคมีฉุดผลงาน

ASPS ระบุว่า ธุรกิจปิโตรเคมีเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดผลการดำเนินงานของ SCC โดยมีผลขาดทุนสูงถึง 3,403 ล้านบาท จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์หลัก (Spread) HOPE-Naphtha และ PP ที่อยู่ในระดับต่ำมาก นอกจากนี้ ยังมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้นจากโรงงานปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ (LSP) ที่เวียดนาม หลังเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนตุลาคม 2567

ขณะที่ธุรกิจซีเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างมีปัญหาด้านอุปสงค์ที่ฟื้นตัวได้ไม่มาก โดยเฉพาะความต้องการจากภาคครัวเรือน รวมถึงมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการปรับโครงสร้างองค์กร

ASPS มองทิศทางธุรกิจระยะสั้นยังเผชิญปัจจัยลบ

ASPS ประเมินว่าทิศทางธุรกิจของ SCC ในระยะสั้นยังต้องเผชิญกับหลายปัจจัยลบ โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่อยู่ในช่วงวัฏจักรขาลงยาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวหลายเรื่องเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว แม้ต้องใช้เวลาจึงจะเห็นผล แต่จะทำให้ SCC มีความแข็งแกร่งขึ้นในระยะยาว

ASPS ให้น้ำหนักลงทุน "เท่าตลาด" และประเมินราคาเหมาะสมของ SCC ที่ 210 บาท โดยมีวิธีคิดจากประมาณการตัวเลขทางการเงินที่สำคัญดังนี้

• กำไรสุทธิปี 2568F: 10,124 ล้านบาท
• EPS ปี 2568F: 8.44 บาท/หุ้น
• PER: 18.19 เท่า
• Dividend Yield: 2.61%