บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ

FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิ JPARK ใน Q3/25 ที่ 11 ล้านบาท ลดลง 40% q-q และ 21% y-y เนื่องจากการรับรู้รายได้งานบริการที่จอดรถของโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีการเลื่อนไปรับรู้ใน Q4/25 แทน

วิเคราะห์ผลประกอบการและประมาณการ

FSSIA ปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2568-2570 ลง 13-14% โดยคาดว่ากำไรปกติปี 2568 จะลดลง 16% y-y แต่จะฟื้นตัว 14.5% y-y ในปี 2569 จากโครงการอาคารที่จอดรถและพื้นที่เช่าการค้าศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกที่จะเปิดดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 2569

แนวโน้มกำไรใน Q4/25 คาดว่าจะฟื้นตัวจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจ CIPS ที่เพิ่มขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่ากำไรจะอยู่ที่ 19 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้งานบริการติดตั้งที่จอดรถของ รฟม. ประมาณ 40% ของมูลค่างานทั้งหมด 116 ล้านบาท

การปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-2570 สะท้อนถึงงาน CIPS ที่ต่ำกว่าคาดจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้บริษัทฯ ยังคงเป้าจำนวนที่จอดรถปี 2568 เท่าเดิมที่ 35,000 ช่องจอด

ข้อสังเกตและปัจจัยขับเคลื่อน

FSSIA มองว่าราคาหุ้นที่ปรับลงอย่างต่อเนื่องสะท้อนผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด และกำไรปกติปี 2568 ที่ชะลอลง แต่จะฟื้นตัวในปี 2569 จากโครงการที่จอดรถศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โดยมี downside จำกัด

บริษัทฯ ตั้งเป้าจำนวนช่องจอดปี 2569 เป็น 36,000 ช่องจอด ลดลงจากปี 2568 ที่ 40,000 ช่องจอด จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เพิ่มขึ้น

รายได้จากการให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบที่จอดรถมีความต้องการสูงในตลาดปัจจุบัน และโครงการอาคารที่จอดรถศูนย์การแพทย์กาญจนาฯ (ศาลายา) 1,000 ช่องจอด และพื้นที่เช่า 4,000 ตร.ม. คาดว่าจะเปิดดำเนินการใน Q3/26

สรุปคำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA ปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2569 ที่ 4 บาท (เดิม 4.60 บาท) และคงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยมองว่าราคาหุ้นมี upside เปิดกว้างจากศักยภาพในการฟื้นตัวของกำไรในปี 2569

ทั้งนี้ FSSIA ใช้วิธี DCF ในการประเมินมูลค่าหุ้น เนื่องจาก Business Model ของธุรกิจการให้บริการพื้นที่จอดรถเป็นธุรกิจที่มีรายได้สม่ำเสมอ และมีสัญญาเช่าระยะยาว