บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
KBANK: คุณภาพสินทรัพย์แกร่ง ROE สู่เลขสองหลัก หยวนต้าคงคำแนะนำ "ซื้อ"
P/E 9.08 YIELD 6.29 ราคา 191.00 (0.00%)
KBANK ยังมีศักยภาพเติบโตระยะยาว จากการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์และเป้าหมาย ROE ที่ชัดเจน โบรกเกอร์หยวนต้าคงคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมราคาเป้าหมาย 190 บาท มองเป็น Top Pick กลุ่มธนาคาร
ไฮไลท์สำคัญ: KBANK แกร่งเกินคาด
KBANK หุ้นธนาคารใหญ่ที่น่าสนใจในระยะยาว จากการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง กลไกบริหารหนี้เสียที่เข้มแข็ง และนโยบาย ESG ที่โดดเด่น แม้ผลดำเนินงานระยะสั้นอาจชะลอตัวตามภาวะดอกเบี้ยขาลง แต่หยวนต้ายังคงมองเห็นโอกาสเติบโตในระยะกลาง-ยาว
เจาะลึกเนื้อหา: ศักยภาพเติบโตที่ซ่อนอยู่
หยวนต้าคาดการณ์กำไรสุทธิ 3Q25 ของ KBANK ที่ 12,100 ล้านบาท เติบโต 1.1% YoY แต่ลดลง 3.1% QoQ จากรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลง แม้จะมีการตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลงก็ตาม อย่างไรก็ตาม คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2025 ที่ 49,292 ล้านบาท โต 1.4% YoY และปี 2026 ที่ 50,726 ล้านบาท โต 2.9% YoY หนุนจากการตั้งสำรองที่ทยอยลดลงและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
KBANK ตั้งเป้าหมาย ROE สู่ระดับเลข 2 หลัก ด้วยแผน "3+1P" โดยเน้นการยกระดับประสิทธิภาพด้านสินเชื่อ ขยายธุรกิจที่สร้างรายได้ค่าธรรมเนียม เสริมความแข็งแกร่งให้กับช่องทางต่างๆ และลงทุนเพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่ในระยะกลาง-ยาว
นอกจากนี้ KBANK ยังมี ความโดดเด่นด้าน ESG โดยได้รับการประเมิน Yuanta ESG Rating ในระดับ AAA จากการสนับสนุนสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับโครงการด้าน ESG และการมีนโยบายเกี่ยวกับ Cyber Security ที่เข้มแข็ง
ข้อสังเกต: จุดเด่นที่น่าสนใจ
แม้ผลดำเนินงานอาจไม่ได้เติบโตหวือหวา แต่ KBANK มีจุดเด่นด้านเงินปันผล หลังปรับเป้าหมาย Div. Payout Ratio เป็น 50-60% คาดเงินปันผลจากกำไรสุทธิ 2H25 จะอยู่ที่ 10.2 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Div. Yield 6.1% และคาดปันผลปี 2026 อีกหุ้นละ 12.5 บาท คิดเป็น Div. Yield 7.3%
หยวนต้ายังมองเห็น โอกาสที่ KBANK จะดำเนินนโยบายเพิ่มผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม เช่น การซื้อหุ้นคืนหรือปันผลพิเศษ เนื่องจากเงินกองทุนยังสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ
สรุป: คงคำแนะนำ "ซื้อ"
หยวนต้าคงคำแนะนำ "ซื้อ" KBANK พร้อมราคาเป้าหมาย 190 บาท อิง Prospective PBV ที่ 0.7 เท่า มองเป็น Top Pick ของกลุ่มธนาคาร ด้วยศักยภาพเติบโตในระยะยาว คุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง และผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าดึงดูด
ความเสี่ยงที่สำคัญ: การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย, ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระเงินของลูกหนี้ และความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามนโยบายของหน่วยงานกำกับดูแล