บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: กำไรทะยาน, สินเชื่อโต, NPL คุมอยู่

ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2568 สุดปัง! กำไรสุทธิพุ่ง 9.5% แตะ 1,013.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า หนุนจาก NIM ที่แข็งแกร่ง 7.6% พร้อมกับการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ขณะที่ NPLs ratio ลดลงเล็กน้อย และ NPL Coverage ratio ยังคงอยู่ในระดับสูงถึง 156.6%

ผลประกอบการ: กำไรโตเด่น สินเชื่อขยายตัว

ธนาคารไทยเครดิตมีการเติบโตของเงินให้สินเชื่ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อธุรกิจไมโครเอสเอ็มอี สินเชื่อที่ใช้บ้านเป็นหลักประกัน และสินเชื่อบุคคล นอกจากนี้ ยังมีกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมสำหรับสินทรัพย์ทางการเงิน และรายได้ค้างรับจากเงินชดเชย FIDF ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม รายได้ดอกเบี้ยจากรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินลดลง ตามแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธปท.

กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการขยายสินเชื่อ และกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงิน โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ในขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น 7.3% เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อ

เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เงินให้สินเชื่อขยายตัว 3.5% และ 8.9% จากสิ้นปี 2567 โดย NIM คงที่อยู่ที่ 7.6% ส่วน Gross NPLs ratio ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 4.2% และ NPL Coverage ratio อยู่ในระดับสูงที่ 156.6%

ข้อสังเกต: ความเสี่ยงที่ต้องจับตา

ความเสี่ยงหลักที่ต้องจับตามองคือ การขยายตัวของสินเชื่อที่อาจทำให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างระมัดระวังและมี NPL Coverage ratio ในระดับสูง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยลดผลกระทบจากความเสี่ยงดังกล่าวได้

สรุป: อนาคตสดใส ยังมีโอกาสเติบโต

ปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อรายได้และกำไรของธนาคารคือ NIM, การขยายตัวของสินเชื่อ, NPL, และ Coverage Ratio การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แต่ก็ทำให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ธนาคารมีการจัดการความเสี่ยงโดยการตั้งสำรองในระดับสูง และมี Coverage Ratio ที่แข็งแกร่ง ธนาคารมีความแข็งแกร่งในการรับมือกับความท้าทายต่างๆ และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง