TMT Steel: วิเคราะห์ผลประกอบการ Q2/2568 และเจาะลึกโอกาสในครึ่งปีหลัง!

P/E 34.00 YIELD 1.80 ราคา 2.78 (0.00%)

TMT Steel: วิเคราะห์ผลประกอบการ Q2/2568 และเจาะลึกโอกาสในครึ่งปีหลัง!

สวัสดีค่ะ ทุกท่านที่กำลังรับชม Oppday ของบริษัท TMT สตีล จำกัด มหาชน หรือ TMT นะคะ ดิฉัน พริมานุช สัตย์สิรินทร์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรค่ะ สำหรับในวันนี้จะเป็นการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท และสรุปผลการดำเนินงานที่สำคัญในไตรมาสที่ 2 และในครึ่งปีแรกของปีนี้ และในวันนี้เราก็ได้เรียนเชิญคุณ ปิยวัฒน์ ลี้พูนทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่าย Procurement มาร่วมพูดคุยและให้ข้อมูลในเอาท์ลุคช่วงครึ่งปีหลังกับเราด้วยค่ะ

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

เพื่อให้ทุกท่านได้รู้จักกับ TMT เพิ่มเติม ดิฉันขอเชิญทุกท่านรับชมวิดีโอแนะนำบริษัทก่อน โดยสรุปได้ดังนี้:

  • TMT ทำหน้าที่เป็นผู้กระจายสินค้าเหล็กออกไปสู่ตลาด
  • มีฐานลูกค้าอยู่ในหลากหลายธุรกิจ ทำให้เข้าถึงตลาดได้
  • ลูกค้าอยู่ในภาคการผลิต การก่อสร้าง และผู้จัดจำหน่าย

หัวใจสำคัญคือการขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์หลัก 3 เรื่อง:

  • ความสะดวก คล่องตัว และยืดหยุ่นในการทำธุรกิจร่วมกัน
  • การมีสินค้าเหล็กที่ครบถ้วน เพียงพอ และหลากหลาย
  • ความมั่นคง ต่อเนื่อง และตรงต่อเวลาในการส่งมอบสินค้า

โซลูชั่นที่ส่งมอบคุณค่าให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเหล็ก:

  • Inventory Management Solution: บริหารการหมุนเวียนสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการลูกค้า
  • Product Solution: บริการแบบ Integrated Steel Service Center ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย
  • Logistics Solution: วางแผนและส่งมอบสินค้าตามความต้องการ ด้วยรูปแบบที่คล่องตัวและตรงเวลา

นอกจากนี้ ยังมี Red Rock Co Digital Platform ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการทำธุรกิจ

สัดส่วนของตัวผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้าหลัก:

  • ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเอง (เหล็กโครงสร้างขึ้นรูปเย็น, ท่อเหล็ก, ตัดและแปรรูปเหล็กแผ่น): 85%
  • ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาเพื่อจำหน่าย (เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน): 15%

สัดส่วนปริมาณขายตามกลุ่มลูกค้าหลัก:

  • ธุรกิจจัดจำหน่าย: 54%
  • กลุ่มก่อสร้าง: 23%
  • โรงงานผู้ผลิต: 20%
  • อื่นๆ: 3%

ในช่วงครึ่งปีแรก มีปริมาณขาย 394,127 ตัน

ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 และครึ่งปีแรกของปีนี้:

  • การบริโภคเหล็กสำเร็จรูปของไทยในครึ่งปีแรก: 8.9 ล้านตัน (ขยายตัว 9%)
  • เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน: 2.4 ล้านตัน (ขยายตัว 2.8%) คิดเป็น 27% ของการบริโภคเหล็กโดยรวม
  • ปริมาณขายในไตรมาสที่ 2: 193,249 ตัน (QonQ ลดลง 3.8%, YoY ดีขึ้น 7.4%)
  • ปริมาณขายครึ่งปีแรก: 394,127 ตัน (YoY เติบโต 6.5%)

รายได้จากการขาย:

  • ไตรมาสที่ 2: 4,297 ล้านบาท (QonQ ลดลง 4.8%, YoY ลดลง 9.3%)
  • ครึ่งปีแรก: 8,814 ล้านบาท (YoY ลดลง 9.5%)

กำไร:

  • ไตรมาสที่ 2: กำไรขั้นต้น 273 ล้านบาท (QonQ ลดลง 10.4%, YoY เพิ่มขึ้น 3%) อัตรากำไรขั้นต้น 6.35%
  • ครึ่งปีแรก: กำไรขั้นต้น 577 ล้านบาท (ลดลง 0.5%) อัตรากำไรขั้นต้น 6.55%
  • ไตรมาสที่ 2: กำไรสุทธิ 29 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 0.68% (QonQ ลดลง 51%, YoY ลดลง 29.5%)
  • ครึ่งปีแรก: กำไรสุทธิ 89 ล้านบาท (ลดลง 28%) อัตรากำไรสุทธิ 1%

อื่นๆ:

  • กำไรต่อหุ้น: 10 สตางค์ต่อหุ้น
  • อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น: 1.82 เท่า
  • ROA: 0.49%
  • ROE: 1.39%

นโยบายการจัดการ:

  • การจัดเก็บสินค้า: 45-60 วัน (ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 45 วัน)
  • การบริหารลูกหนี้: อายุเฉลี่ยไม่เกิน 60 วัน (ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 56 วัน)

ส่วนแบ่งการตลาด:

  • Consumption ของ Hot Rolled Coil ใน segment เดียวกับ TMT: 1.6 ล้านตัน (เติบโต 22.5%)
  • ปริมาณขาย Hot Rolled Coil ของ TMT เพิ่มขึ้น 7.8%
  • Market Share ของ TMT: 22% ในครึ่งปีแรก

โครงการติดตั้งเครื่องผลิตท่อเหล็กขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี Flexible Forming ได้เริ่มการผลิตแล้ว

ESG Performance:

  • ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 1,884 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • ได้รับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียวระดับ 5 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม
  • ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 20% จากปีฐาน (ปี 2561)

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

แนวโน้มทิศทางราคาเหล็กในครึ่งปีหลัง (โดยคุณปิยวัฒน์):

  • ติดตามแนวโน้มจากประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุด
  • ราคาเหล็กจากจีนปรับตัวลดลงจากแรงกดดันด้านมาตรการกีดกันการนำเข้า
  • รัฐบาลจีนเริ่มควบคุมปริมาณการผลิตอย่างจริงจัง
  • จีนยังประกาศโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อาทิ เขื่อนในทิเบต
  • ราคาเหล็กเริ่มปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 20-30 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

ผู้ผลิตเหล็กในไทยยังคงเผชิญข้อจำกัดด้านกำลังการผลิต สามารถใช้กำลังการผลิตเหล็กจริงได้ไม่เกิน 30%

Outlook ในครึ่งปีหลัง:

  • สศช. คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 1.8-2.3%
  • งานก่อสร้างภาครัฐยังคงมีออกมาอย่างต่อเนื่อง
  • งานในส่วนของ Mega Project ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างยังคงมีความต่อเนื่อง
  • ภาคเอกชนมีการลงทุนในเรื่องการสร้างโรงแรมและคอนโดในพื้นที่ท่องเที่ยวหลัก
  • การพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ เช่น ห้างค้าปลีก ไฮเปอร์มาร์เก็ต หรือการ Renovate
  • โรงเรียนนานาชาติ งานศูนย์ข้อมูลต่างๆ Data Center และคลังสินค้า
  • โครงการ EEC

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ตระหนักถึงความสำคัญของความมั่นคงและปลอดภัยของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • TMT เตรียมความพร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลง มอก.ท่อโครงสร้าง
  • ยื่นขอใบอนุญาตผลิตและลงทุนในระบบควบคุมคุณภาพ
  • ห้องปฏิบัติการผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 17025

TMT มั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบท่อเหล็กคุณภาพสูงและสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้สังคมได้ในระยะยาว

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • TMT ตั้งเป้าหมายการเติบโตด้านปริมาณขาย 4% ในปี 2569
  • ยังไม่มีแผนการลงทุนเพิ่มเติมในปี 2569

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 52:35]

บริษัทตั้งเป้าปีหน้าไว้อย่างไรบ้าง?

บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตด้านปริมาณขาย โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4% ในปี 2569 จากเป้าปี 2568 ที่ 800,000 ตัน ซึ่งเป็นการเติบโตประมาณ 10% จากปีก่อนหน้า

ในปีหน้าบริษัทมีแผนการลงทุนหรือไม่?

เนื่องจากช่วงปี 2563 - 2567 บริษัทมีโครงการเพิ่มศักยภาพสายการผลิตอย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่อง Stretch Leveling และเครื่องผลิตท่อเหล็กขนาดใหญ่ ในปี 2569 จึงยังไม่มีแผนการลงทุนเพิ่มเติม แต่บริษัทจะประเมินศักยภาพและความพร้อมอย่างสม่ำเสมอ และจะแจ้งให้ทราบหากมีแผนการลงทุนในอนาคต

สัดส่วนการซื้อวัตถุดิบเหล็กของ TMT มีสัดส่วนการซื้อในประเทศกี่เปอร์เซ็นต์ นำเข้ากี่เปอร์เซ็นต์?

บริษัทมีสัดส่วน Sourcing จากผู้ผลิตในประเทศโดยเฉลี่ย 85% และนำเข้าจากต่างประเทศ 10-15% ทั้งนี้สัดส่วนอาจเปลี่ยนแปลงตามมาตรการต่างๆ แต่โดยหลักการแล้วบริษัทจะยึดหลักการสร้างความร่วมมือกับคู่ค้าพันธมิตรอย่างยั่งยืน

หลังเหตุการณ์ตึก สตม. ถล่ม แนวโน้มของตลาดเหล็กมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ตลาดเน้นคุณภาพมากขึ้นกว่าราคาหรือไม่ ทาง TMT ได้รับผลกระทบเชิงบวกหรือไม่อย่างไร?

มีการเปลี่ยนแปลง โดยลูกค้าเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพมากขึ้น เพราะตระหนักถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน TMT ได้รับผลในเชิงบวกเนื่องจากให้ความสำคัญกับคุณภาพมาโดยตลอด ลูกค้าที่เคยใช้เหล็กไม่ได้มาตรฐานกลับมาสั่งซื้อกับ TMT มากขึ้น โดยเปลี่ยนมาใช้เหล็กที่มีคุณภาพสูง เพราะมีความเชื่อมั่นในคุณภาพของ TMT

โดยสรุป TMT ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า การบริการลูกค้า และการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยภายนอก แต่ TMT ยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตในตลาดเหล็กทั้งในประเทศและต่างประเทศ

**หัวข้อที่ถาม-ตอบ** * เป้าหมายปี 2569 * แผนลงทุนปี 2569 * สัดส่วนซื้อวัตถุดิบในประเทศ-นำเข้า * ผลกระทบตึก สตม. ถล่ม

โพสต์ล่าสุด