https://aio.panphol.com/assets/images/community/10510_50C9FD.png

SAMART หุ้นดีที่ยังไม่แพง! หยวนต้าชี้กำไรโตต่อเนื่อง คาดราคาเหมาะสม 7.75-8.95 บาท

P/E 11.28 YIELD 0.00 ราคา 5.30 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ:

SAMART กำไรปกติครึ่งปีแรกโต 112% YoY, หยวนต้าคาดกำไรปี 2568 ที่ 550-600 ล้านบาท, ประเมินราคาเหมาะสม 7.75-8.95 บาท อิง PER 13x-15x

SAMART ผลงานดีต่อเนื่อง หุ้นยังน่าสนใจ

บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ SAMART โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 215 ล้านบาท พลิกจากที่ขาดทุน 131 ล้านบาทในครึ่งปีแรกของปี 2567 แต่หากไม่รวมรายการสำรองและรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 338 ล้านบาท (+112% YoY)

การเติบโตมาจากหลายส่วน ทั้งกลุ่ม Digital ICT Solution (SAMTEL) ที่รายได้โต 34% YoY, กลุ่ม Digital Communication (SDC) ที่มีกำไรเล็กน้อย และกลุ่ม Utilities and Transportations ที่รายได้โต 14% YoY โดยได้แรงหนุนจาก Traffic ของ SAV ที่กลับมา 91% ของช่วงก่อน COVID-19 และการเติบโตของกำไรจากกลุ่ม TEDA

ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 SAMART มี Backlogs อยู่ที่ 1.56 หมื่นล้านบาท และยังอยู่ระหว่างการประมูลงานใหญ่อีกหลายโครงการ เช่น งานประมูลของกลุ่ม TEDA มูลค่า 1.9 พันล้านบาท, งานระบบ ERP ของ AOT มูลค่า 3.0 พันล้านบาท และงานประมูลตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมและงานวิทยุการบินของ SAV มูลค่ารวม 2.4 พันล้านบาท

ข้อสังเกตและประเด็นที่ต้องติดตาม

ผู้บริหาร SAMART คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 3/2568 จะทรงตัว QoQ แม้ SAV จะได้รับผลกระทบบ้างจากการปิดน่านฟ้า แต่รายได้ของกลุ่ม SAMTEL จะฟื้นตัว QoQ และในไตรมาส 4/2568 รายได้จะเติบโตต่อเนื่อง QoQ โดย SAMART ยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2568 ที่ 1.35 หมื่นล้านบาท และกำไรที่ +/-690 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามคือ สถานการณ์สงครามไทย-กัมพูชา ที่อาจส่งผลกระทบต่อสัมปทานของ SAV และการลดลงของจำนวนเที่ยวบินจากการปิดน่านฟ้า แต่ผู้บริหารประเมินว่าความเสี่ยงที่จะกระทบสัมปทานมีจำกัด และผลกระทบจากการปิดน่านฟ้าได้ลดลงแล้วจากการฟื้นตัวของ Traffic

สรุปและคำแนะนำ

หยวนต้าประเมินว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังของ SAMART จะยังเติบโตได้ดี ทำให้คาดการณ์กำไรปกติปี 2568 ที่ 550-600 ล้านบาท หรือคิดเป็น EPS ที่ 0.55-0.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

ถึงแม้ว่าหยวนต้าจะยังไม่มีคำแนะนำอย่างเป็นทางการ แต่ได้ประเมินกรอบราคาเหมาะสมที่เป็นไปได้ที่ 7.75-8.95 บาทต่อหุ้น อิงจาก PER 13x-15x ซึ่งเป็นกรอบ PER ที่ปรับลดลงมาจากภาวะตลาดและเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมองว่าราคาหุ้นที่ต่ำกว่า 7.00 บาทต่อหุ้นเป็นโอกาสในการทยอยสะสม

โพสต์ล่าสุด