บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TACC พลิกกลยุทธ์ฝ่าวิกฤตต้นทุน! ลุยตลาด Non-Seven, เร่งเครื่อง Pure Matcha, พร้อมอัปเดตธุรกิจปี 2568 (Q2)
P/E 9.96 YIELD 7.86 ราคา 4.96 (0.00%)
TACC พลิกกลยุทธ์ฝ่าวิกฤตต้นทุน! ลุยตลาด Non-Seven, เร่งเครื่อง Pure Matcha, พร้อมอัปเดตธุรกิจปี 2568 (Q2)
- ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- เชิงบวก:
- รายได้รวมเพิ่มขึ้น 16.07% YoY คิดเป็น 577.68 ล้านบาท หลักๆ มาจากเครื่องดื่ม Seasonal ใหม่ใน 7-Eleven และโปรโมชั่นต่างๆ
- Net Profit เพิ่มขึ้น 15.6% ปิดที่ 79 ล้านบาท จากรายได้และ GP ที่เพิ่มขึ้น
- เชิงลบ:
- GP ลดลง 1.27% YoY เนื่องจากต้นทุนกาแฟที่สูงขึ้น
- ปัจจัยสำคัญ:
- การหยุด Operate ธุรกิจ Hip ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง
- การสต็อกกาแฟเพื่อตรึงราคา ทำให้หนี้สินเพิ่มขึ้น
- โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- การขยายตลาด B2C (Non-Seven Eleven) โดยเน้นแบรนด์ของตัวเอง เช่น Tiva, ณ อรุณ, Hey, และ License Business
- การส่งเครื่องดื่มไปยัง Cafe Business ต่างๆ เช่น Black Canyon (303 สาขา) และกาแฟพันธุ์ไทย (1,700 สาขา)
- การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการทำ Delivery ร่วมกับ 7-Eleven
- การขยายสาขา 7-Eleven ในกัมพูชา (123 สาขา) และลาว (18 สาขา)
- ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- ราคาวัตถุดิบกาแฟที่ผันผวนและมีแนวโน้มสูงขึ้น
- การพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่ (7-Eleven) มากเกินไป
- ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศต่างๆ ที่เข้าไปทำธุรกิจ
- วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- การบริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวด และการสต็อกกาแฟเพื่อตรึงราคา
- การขยายฐานลูกค้าไปยัง B2C และ Cafe Business
- การทำ Risk Management อย่างเข้มข้นในทุกๆ ด้าน (Compliance, Financial, Operation, Strategy)
- การประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านคอร์รัปชั่น (CAC Declaration)
- แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- การเติบโตของรายได้ให้มากกว่า 2,000 ล้านบาท ในปี 2568
- การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ (กัมพูชา, ลาว)
- การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น Solar Rooftop และ SAP
- การให้ความสำคัญกับ ESG (Environment, Social, Governance) และการทำ CSR
- การมองหาโอกาสในการทำ M&A/JV อย่างต่อเนื่อง
- ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 42.20]
- ผู้บริหารเลิกขายหุ้นหรือยัง
ยังไม่มี Record การขายหุ้นของผู้บริหาร, คุณชัชวีล์ยังเป็นแชร์แมนและทำงานเข้มแข็ง
- แนวโน้มยอดขายปีนี้
ตั้งเป้า 10% แต่ถ้าได้ถึง 15% ก็ดี
- เป้าหมายการเติบโตของ B2C
ตั้งเป้า 88% จาก 12%
- ปีที่ต้องต่อสัญญากับ 7-Eleven
ปี 2570 โอกาสไม่ต่อสัญญา: ไม่มี
- สัดส่วนรายได้ B2B และ B2C
มี Improvement ในทุกๆปี พยายามโตให้มากกว่า 7-Eleven
- กลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงรายได้
หาลูกค้าใหม่, ขยายไป New Market/Channel, ออกผลิตภัณฑ์ใหม่
- อัตรากำไรขั้นต้น
ลดลงจากปีที่แล้วเพราะวัตถุดิบกาแฟแพง แต่บริหารจัดการได้
- มาตรการควบคุมค่าใช้จ่าย
ระมัดระวังในเรื่องค่าใช้จ่าย เป็นนโยบายที่ยึดถือมาตลอด
- แผนพัฒนาขยายตลาด B2C และ 7-Eleven
New Channel, New Market, พยายามเต็มที่
- เศรษฐกิจไม่แน่นอนมีผลต่อธุรกิจอย่างไร
ทำ Risk Management เข้มข้น (Compliance, Financial, Operation, Strategy) ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เรา Control สิ่งที่ Control ได้
- ผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง
ดีค่ะ (ทางตลาดขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูล)
- TACC มีอะไรบ้างในกลุ่มออเดอร์เลส ออสซูพรีม
อยู่ใน Pipeline
- ยอดขายกัมพูชากระทบไหม
กระทบเรื่อง Logistic บางส่วน แต่ไม่มาก
- ระยะเวลาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น
เพราะ Stock Inventory กาแฟ
- Hey Jelly กับชาไทยซองชงร้อน
ก็โอเค (Hey Jelly), ชาไทยซองชงร้อน: ดีค่ะ
- ระบบ SAP
ครบถ้วนหมดแล้ว Go Live เรียบร้อย, Handheld ยังไม่ได้ลง
- ขยายตาม 7-Eleven ครบทุกสาขาไหม
ใช่ค่ะ
- ปรับราคาสินค้าใน 7-Eleven บ่อยแค่ไหน
ไม่บ่อย เมื่อมีความจำเป็น
- แนวโน้มต้นทุนเป็นอย่างไร
ยกเว้นกาแฟก็ไม่แย่, กาแฟ: ปีหน้าทรงตัว/ลดลง
- ธุรกิจในกัมพูชาต้อง Write off ไหม
ไม่ค่ะ
- เครื่องดื่มโถกดในกัมพูชายอดขายปกติไหม กระทบชายแดนไหม
ปกติ, กระทบ Logistic (ข้ามชายแดนไม่ได้)
- ราคาตลาดโลกลดลง TACC ได้ทำล็อกกาแฟไหม
ล็อกไว้เรียบร้อยถึงสิ้นปี, Reflect ปีหน้า
- ภาษีความหวาน
Cover ภาษีความหวาน Phase 4 เรียบร้อย
- White Malt จะ Spray มาก
รับ Feedback ไปให้ 7-Eleven
- Brand TIVA จะมีอะไรอีก
(ติดต่อทีม IR เพิ่มเติม)
- ขยายตู้กดไปขายในโรงเรียนไหม
ไม่คุ้ม เพราะโรงเรียนมีปิดเทอม ขายเป็น PRODUCT สะดวกกว่า
- Beverage Dispenser สาขาเดิมใน 7-Eleven
สาขาไหนไม่มี: Analyze แล้วว่าไม่ควรมี
- ต้นทุนกาแฟ Q3/Q4 และปีหน้า
Q3/Q4 สูงขึ้น, ปีหน้า: ทรงตัว/ลดลง
- Q3 ยอดขายและแนวโน้ม
Q3 ดีค่ะ
- เปอร์เซ็นต์ GP และ SG&A
ครึ่งปีหลังใกล้เคียงครึ่งปีแรก
- ราคาวัตถุดิบหลัก
กาแฟ: ทรงตัว/ลดลง, ชา Matcha: อาจขึ้น
- กระแสมัทฉะ TACC ได้ประโยชน์ไหม
ได้มาก, เพิ่ง Launch "เพียวมัทฉะ" ใน All Cafe
- ขาย Product อะไรให้กาแฟพันธุ์ไทยบ้าง
(มีใน Presentation แล้ว)
- ทิศทางการดำเนินงานดีกว่าครึ่งแรกไหม
โอเค ดีค่ะ
- ช่วงที่เหลือของปีใช้กลยุทธ์อะไร
กลยุทธ์เดิม, จับ Core ให้มั่น, ทำ New ต่างๆ, เพียวมัทฉะใน All Cafe, Diversify นอก 7-Eleven
- ปัจจัยบวกที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ
กระแส Matcha และข่าวดีราคาวัตถุดิบกาแฟ
- เป้า 2,000 ล้านบาททำได้ไหม
ทำได้แน่นอน
- ปัจจัยนอกที่ควบคุมไม่ได้จะรับมืออย่างไร
Control สิ่งที่ Control ได้ (ความตั้งใจ, ธรรมาภิบาล)
- สิ่งสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
Partnership
- จะซื้อหุ้นคืนไหม
ปี 2570 (ขอพิจารณาอีกที)
- ค่าใช้จ่ายทำ SAP ใหม่
(เป็นความลับทางการค้าของ SAP)
- จะขยายตาม 7-Eleven ครบทุกสาขาไหม
ใช่ค่ะ
- ปรับราคาสินค้าใน 7-Eleven บ่อยแค่ไหน
ไม่บ่อย เมื่อจำเป็น
- แนวโน้มต้นทุนเป็นอย่างไร
กาแฟเท่านั้น (ที่น่ากังวล)
- ธุรกิจในกัมพูชาต้อง Write off ไหม
ไม่ค่ะ
ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ TACC ในไตรมาส 2 ปี 2568 มีทั้งเชิงบวกและเชิงลบ โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้
TACC มองเห็นโอกาสในการเติบโตจาก:
กลยุทธ์ที่ใช้คือการเน้น Core Business, สร้าง Own Brand, และพัฒนา Ecosystem ใน Supply Chain
ความเสี่ยงหลักที่ TACC เผชิญคือ:
TACC ใช้หลายวิธีในการแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบ:
TACC ตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเน้น:
TACC ยังคงเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดี โดยจ่ายที่ 21 สตางค์ในปี 2568 (Dividend Yield ประมาณ 8%)
โดยสรุป TACC ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ โดยบริษัทฯ จะให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุน, การขยายฐานลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่, และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรทางธุรกิจ