บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
GCAP สรุปผลประกอบการ Q2/2568: มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ใหม่และโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.28 (0.00%)
GCAP สรุปผลประกอบการ Q2/2568: มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ใหม่และโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย
สรุปผลการดำเนินงานของบริษัท G Capital (GCAP) สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 ของบริษัท โดยมีการนำเสนอข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักลงทุนและผู้ที่สนใจ สรุปประวัติและเหตุการณ์สำคัญของบริษัทโดยสังเขปดังนี้
บริษัทได้จัดตั้งขึ้นในปี 2547 เพื่อประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร และได้ร่วมทุนกับธนาคารออมสินในปี 2548 เพื่อระดมทุนสำหรับการปล่อยสินเชื่อ เริ่มให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถเกี่ยวข้าวเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยในปี 2549 และจดทะเบียนซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ MAI เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556
ในปี 2558 บริษัทได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพจากกระทรวงการคลัง และเริ่มให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ในปีเดียวกันกับที่ได้รับใบอนุญาต ในปี 2564 บริษัทได้ลงนาม MOU เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสนามบินที่เกาะเต่า และได้ลงนามใน MOU โครงการสินเชื่อโดรนเพื่อการเกษตร และเริ่มให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อโดรนการเกษตรในปี 2565
ในปี 2566 ได้นำกลยุทธ์ Lending Business และ Non-Lending Business มาเป็นตัวกำหนดในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ในปี 2568 ได้ลงนามใน Joint Venture Agreement กับบริษัท Arrence Venture จำกัด เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในนามของบริษัท เต่า AM ดำเนินธุรกิจให้บริการอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนเพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง บริษัทได้จัดตั้งแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2568 และในปีเดียวกันบริษัทได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท เกาะเต่า แอร์ เพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และให้บริการด้านการท่องเที่ยวสำหรับโครงการ เกาะเต่า Lifestyle Complex
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
-
บริษัท G Capital ประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น รถเกี่ยวนวดข้าว, รถเกี่ยวข้าวโพด, โดรนการเกษตร, เรือเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรและผู้ประกอบการได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบและนำเครื่องจักรกลการเกษตรไปใช้ในการประกอบอาชีพ เป็นการสร้างฐานการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับท้องถิ่น
-
โครงสร้างการบริหารงานของบริษัทประกอบด้วยกรรมการทั้ง 9 ท่าน ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ที่หลากหลายอันเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท
-
โครงสร้างการบริหารงานของบริษัทมีกรรมการชุดย่อยอย่างครบถ้วน เพื่อกลั่นกรองข้อมูลต่างๆ ให้คณะกรรมการบริษัทตามหลักการกำกับ การดูแลกิจการที่ดี
-
ทีมผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัทประกอบด้วย นายอนุวัตร โกศล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, นาย นิธาน ชัยยาเนตร ดำรงตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ และนางสาว พนิดา แข้งกิจ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
-
GCAP มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้การกำกับ ดูแลกิจการที่ดี มีความโปร่งใส มีความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน บริษัทได้เข้าร่วมโครงการประเมินด้านความยั่งยืนต่างๆ และได้รับรางวัล โดยสังเขปสรุปได้ดังนี้
-
ได้รับการคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ประจำปี 2567 ระดับ A
-
ได้รับการประเมินโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน CGR ประจำปี 2567 ในระดับ 5 ดาว หรือดีเลิศ
-
ได้รับการประเมินคุณภาพการจัด การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีในระดับ 100 คะแนนเต็ม หรือระดับ ดีเยี่ยม ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 3
-
บริษัทได้รับการรับรองต่ออายุ ต่ออายุครั้งที่ 3 และผ่านการรับรองให้เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย หรือ CAC ประจำปี 2568
-
-
การดำเนินธุรกิจบริษัทดำเนินตามหลักความยั่งยืน หรือ ESG บริษัทให้ความสำคัญ ต่อการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งสร้างประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล โดยใช้แนว ความคิด การสร้างคุณค่าร่วม มาเป็นแนวทาง ในการดำเนินงาน บริษัทให้ความสำคัญในการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ และสร้างโอกาส ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ที่ เหมาะสม เพื่อสนับสนุนต่อเป้าหมายในการพัฒนา ที่ยั่งยืน
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
-
กลยุทธ์ในการดำเนิน ธุรกิจของบริษัท แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ Lending Business และ Non-Lending Business ในส่วนของ Lending Business ประกอบด้วย สินเชื่อสบายใจเกษตรกร (รถเกี่ยวนวดข้าว, รถเกี่ยวข้าวโพด, รถเกี่ยวแลกเงิน) สินเชื่อโดรนเพื่อการเกษตร สินเชื่อสบายใจอันดามัน (เรือ Speed Boat) และสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
-
บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท AIONIC ผู้ผลิตและจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ Kemgo เตรียมเปิดให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยวที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพื่อการท่องเที่ยวในกลุ่มเป้าหมายพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเกาะพงัน เกาะสมุย และเกาะยาวน้อย
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
-
ภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 และแนวโน้มในปัจจุบัน: สภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 มีการขยายตัวร้อยละ 2 สำหรับเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 GDP ขยายตัว 2.8% ชะลอลงจากไตรมาสที่ 1 (3.1%) โดยมีปัจจัยหลักมาจากการชะลอผลผลิตทางภาคการเกษตรและกลุ่มบริการด้านการท่องเที่ยว
-
ภาวะเศรษฐกิจในด้านการเกษตร: มีการขยายตัวร้อยละ 5.5 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 อัตราการเติบโตของสาขาการเกษตรที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของบริษัท คือ สาขาพืชมีการขยายตัวร้อยละ 7.9 และสาขาบริการทางการเกษตรมีการขยายตัวร้อยละ 2.8
-
แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจการเกษตรในปี 2568: คาดว่ามีแนวโน้ม GDP ภาคการเกษตรเฉลี่ยทั้งปีจะขยายตัวอยู่ในช่วง 2-3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
-
ปัญหาหลักคือราคาข้าวตกต่ำ: มีแนวโน้มลดลงจากปีก่อน โดยเฉพาะข้าวเจ้าและข้าวเหนียว ด้านการส่งออกข้าวไทยในเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2568 ลดลงร้อยละ 26 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จากการแข่งขันด้านราคากับประเทศคู่แข่ง เนื่องจากการอินเดียกลับมาการส่งออกอีกครั้งหนึ่ง และความต้องการนำเข้าที่ชะลอตัวลดลงในประเทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
-
รัฐบาลได้เตรียมออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีหลายประการ: โครงการสินเชื่อชะลอการขาย, โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก และโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีและส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
-
แก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ, บริษัทส่งเสริมการเพาะปลูกข้าวให้เหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่
-
บริษัทมีการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจ non-lending มากขึ้น เช่น เกษตร matching และ โครงการอสังหาริมทรัพย์
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
-
บริษัทได้พัฒนาแพลตฟอร์มบริการรถเกี่ยวนวดข้าวและเครื่องจักรกลการเกษตรระหว่างผู้ประกอบการและเกษตรกรร่วมกับบริษัท แว่นแก้ว ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความชำนาญในการพัฒนาแพลตฟอร์ม ได้เริ่มทำการพัฒนาแพลตฟอร์มเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะเริ่มให้บริการในจังหวัดนำร่อง 3 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร พิษณุโลก และแพร่ ในไตรมาสที่ 4 และก็จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบในปี 2569 รูปแบบในการพัฒนาใช้ระบบ LINE เพื่อให้ กลุ่มเกษตรกร และผู้ประกอบการเกษตรกร สามารถเข้าถึงและมีความเข้าใจในการใช้บริการ และบริษัทได้ร่วมกับทาง ธกส. เพื่อสนับสนุนแพลตฟอร์ม เกษตร Matching นี้ด้วย
-
ธุรกิจ Non-Lending Business ในส่วนที่ 3 คือโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ เกาะเต่า Lifestyle Complex ทั้ง 5 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจโรงแรม, กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิง Adventure, ลานกิจกรรมอเนกประสงค์, พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง และการทำธุรกิจโครงการอากาศยานไร้คนขับโดรนเพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง ในส่วนนี้บริษัทได้มีการ ลงนามร่วมทุน ธุรกิจโดรนเพื่อการท่องเที่ยวและการขนส่ง กับบริษัท Arrence Venture ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 ได้ดำเนินการจัดตั้ง บริษัท ร่วม ทุน ชื่อ บริษัท เต่า AM จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท สัดส่วนการลงทุน GCAP ถือในสัดส่วนร้อยละ 51 บริษัท Arrence จำกัด ถือในสัดส่วนร้อยละ 49 ปัจจุบันได้เพิ่มทุนชำระแล้ว 5 ล้านบาท และมีวัตถุประสงค์ เพื่อ การให้บริการ อากาศยาน ไร้ คน ขับ หรือ โดรน เพื่อ การ ท่องเที่ยว และ การ ขนส่ง
-
บริษัท เต่า AM ได้ทำการสั่งซื้อโดรนตัวแรกรุ่น ล่าสุดจากบริษัท อี๋หัง เป็นรุ่น EH216S และจะเข้ามาถึงประเทศไทย ในเดือน กันยายน ของปีนี้ ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประสานงาน เรื่องการขอใบอนุญาตกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ CAAT โดยคาดว่าจะสามารถเริ่ม ทดสอบ การบิน แบบ ไม่ มี ผู้ โดยสาร ได้ ใน ไตรมาส ที่ 4 ของ ปี นี้ โดย เริ่ม ที่ พัทยา จังหวัด ชลบุรี
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): (เริ่ม นาทีที่ 43.35)
- ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ Q1-Q2 ปีที่ผ่านมา
-
การปล่อยสินเชื่อของบริษัทในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 จะมียอดอยู่ประมาณ 80 ล้านบาท ซึ่งต้องเรียนว่าในช่วงของไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 เรามียอดปล่อยสินเชื่อเนี่ยอยู่ประมาณ 80 ล้านบาทเนื่องจากว่าเรามีภาระที่จะต้องชำระคืนหุ้นกู้งวดสุดท้ายในไตรมาสที่ 1 จำนวน 46 ล้านบาทซึ่งบริษัทได้ชำระเสร็จสิ้นไปแล้ว สำหรับในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 หลังจากที่บริษัทไม่ต้องมีภาระในการชำระคืน หุ้นกู้ ที่ครบกำหนด และบริษัทประสบความสำเร็จในการ ขาย หุ้นกู้ ได้ในไตรมาสที่ 3 บริษัทเชื่อมั่นว่าในไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 รวมกัน บริษัทสามารถที่จะปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เพิ่มขึ้นกว่าในช่วงของไตรมาสที่ 1 และ ไตรมาสที่ 2
- สาเหตุที่การตั้งสำรองติดลบ เกิดจากรายการหนี้สูญรับคืนจำนวนกี่ล้าน
-
สำหรับผลโดยตรงในไตรมาสที่ 2 บริษัทมีความสามารถในการเร่งรัดติดตามลูกหนี้ ที่เป็นลูกหนี้ที่ด้อยคุณภาพ และสามารถที่จะ ทำบันทึกข้อตกลง ที่ศาล เพื่อ ให้ลูกหนี้มีการชำระที่ชัดเจน เมื่อเป็นเช่นนั้นตามมาตรฐานบัญชีเราก็สามารถที่จะลด การตั้งสำรองของลูกหนี้ได้ก็จึงมีผลทำให้ ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ทำให้ลด การตั้งสำรอง
- โดรนที่บริษัทสั่งซื้อ รุ่น EH216s ปัจจุบันสามารถบินได้ครั้งละ 35 กม. หรือ 25 นาทีต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อี่หังจะมีแผนการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบินหรือไม่
-
อี่หังเป็นบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำในการ ให้บริการ บินโดรน ได้เยอะที่สุดมากที่สุดในโลก และก็อี่หังเนี่ย ก็ได้ร่วมมือกับ โกลเด้น High Technology นะครับ ซึ่งเป็นบริษัทที่มี ผลประกอบการในเรื่องของการติดตั้งแบตเตอรี่แล้วก็การส่งออก จากข้อมูลในผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้และในปี 2024 เป็นผู้ส่งออกและติดตั้งแบตเตอรี่อันดับที่ 4 ในประเทศจีนและเป็นอันดับ 6 ของโลก อี๋หังก็ได้จับมือร่วมกับบริษัท โกลเด้น High Tech เพื่อพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ แล้วก็มีความมั่นใจว่าจะมีพลังงานที่สูงขึ้นทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบินที่ดีขึ้นแล้วก็ชาร์จแบตเตอรี่ต่อครั้งได้เร็วขึ้นนั่นก็จะเป็นก้าวอีกก้าวนึงที่ทำให้โดรน เพื่อการโดยสาร นะครับแบบไร้คนขับสามารถเพิ่มระยะทางในการบินได้ดีขึ้นและใช้เวลาในการชาร์จต่อครั้งลดลง
- นอกจากโดรนรุ่น EH216s ที่ GCap สั่งซื้อแล้ว อี่หังจะมีการพัฒนาโดรนโดยสารรุ่นอื่นๆ ออกมาอีกไหม หากมีจะออกมาเมื่อไหร่
-
โดรนรุ่นที่เราซื้อนะครับ EH216s เนี่ยเป็นรุ่นล่าสุดที่ ทาง อี่หังเนี่ย ขายอยู่ แต่ อย่าง ไร ก็ ตาม ตาม ข้อ มูล นะ ครับ ที่ เรา ได้ จาก บริษัท อี่หัง แล้ว ก็ สิ่ง ที่ เขา รายงาน กับ ทาง Nasdaq ของ อเมริกา เช่น กัน เนี่ย ว่า เขา ได้ พัฒนา โดรน รุ่น ใหม่ รุ่น VT 35 ซึ่ง มี ประสิทธิภาพ ใน การ บิน ได้ ไกล ขึ้น แล้ว ก็ การ ชาร์จ ต่อ ครั้ง นะ ครับ ต่อ การ ชาร์จ 1 ครั้ง แล้ว เขา ก็ เตรียม นะ ครับ ที่ จะ เปิด ตัว อย่าง เป็น ทาง การ ใน ไตรมาส ที่ 3 ของ ปี 2568 ก็ คือ ใน ปี นี้ เพราะ ฉะนั้น ใน เรื่อง ของ เทคโนโลยี การ พัฒนา โดรน จะ ก้าว ไป อย่าง รวด เร็ว อย่าง แน่นอน
- จากการอพยพของแรงงานกัมพูชากลับประเทศ บริษัทประเมินผลกระทบอย่างไรบ้าง เช่น อัตราคืนรถเพิ่มสูงขึ้นบ้างหรือไม่ หนี้เสียที่อาจจะเกิดจากลูกหนี้ย้ายกลับประเทศแบบถาวร
-
จาก การ สํารวจ นะ ครับ ข้อ มูล ใน ทันที จาก ที่ เกิด เหตุ การณ์ เอ่อ ภัย ระหว่าง ประเทศ ใน เขต เอ่อ ชาย แดน ระหว่าง ประเทศ ไทย กับ กัมพูชา เรา ได้ ทํา การ สํารวจ นะ ครับ ว่า เรา มี ลูก ค้า ที่ อยู่ ใน จังหวัด ที่ อยู่ ใน เขต เอ่อ ติด ต่อ กับ ทาง กัมพูชา แล้ว มี ผล กระทบ เนี่ย อย่าง ไร ประเด็น ที่ 1 ไม่ มี รถ นะ ครับ เครื่องจักรกล การ เกษตร ไม่ ว่า จะ เป็น รถ เกี่ยว ข้าว หรือ รถ เกี่ยว ข้าว โพด ได้ รับ ความ เสีย หาย เลย นะ ครับ แล้ว ก็ ณ ข้อ มูล ขณะ นี้ ยัง ไม่ มี ข้อ มูล บ่ง ชี้ ว่า จะ มี ผล กระทบ นะ ครับ ต่อ การ ชําระ หนี้ ของ ลูก หนี้ เรา มี จํานวน ลูก หนี้ ที่ อยู่ ใน พื้น ที่ ตะเข็บ ชาย แดน นะ ครับ อยู่ จํานวน หนึ่ง แต่ จาก การ สอบ ถาม แล้ว ก็ พูด คุย แล้ว ก็ ดู จาก ผล การ ชําระ คืน ตาม งวด ที่ เกิด ขึ้น ยัง ไม่ มี ผล กระทบ ใด ๆ นะ ครับ ซึ่ง ผล การ เก็บ เกี่ยว จะ เกิด ขึ้น ใน ช่วง ของ นา ปี ซึ่ง จะ เกิด ขึ้น เนี่ย ประมาณ เดือน ตุลาคม พฤศจิกายน นะ ครับ ซึ่ง ก็ สถานการณ์ ทาง เอ่อ ชาย แดน ก็ น่า จะ คลี่ คลาย
- บริษัทมีแผนหรือโครงการใหม่ๆ ที่จะเปิดตัวหรือดำเนินการในไตรมาส 3 ปีนี้ เช่น โครงการเกษตร matching หรือโครงการสนามบินส่วนบุคคลเกาะเต่า ที่จะช่วยเสริมรายได้อย่างไร
-
ในส่วนที่ได้เรียนให้ทราบในเบื้องต้นนะครับว่า โครงการ Non-Lending เนี่ยที่สำคัญ 2 อันก็คือในส่วนของเกษตร Matching เราจะเริ่มในจังหวัดนำร่องก่อนนะครับ 3 จังหวัดในไตรมาสที่ 4 แล้วก็เริ่มอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2569 ซึ่งต้องเรียนว่าในโครงการนี้ผลกระทบที่สร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นอาจจะไม่ชัดเจนแต่สิ่งสำคัญเนี่ยเป็นการเพิ่มนะครับเป็นการเพิ่มให้เกษตรกรเนี่ยมีรายได้ที่มากขึ้น มั่นคง นั่นคือหัวใจสำคัญในการทำโครงการนี้เพื่อให้ลูกค้าของเราเนี่ยสามารถที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างรายได้และก็มีรายได้อย่างต่อเนื่อง นั่นคือหัวใจสำคัญแต่หลังจากที่โครงการเนี่ยประสบความสำเร็จขยายตัวมากขึ้นก็จะส่งผลต่อการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนโครงการในเรื่องของเกาะเต่า Lifestyle Complex ตัวเนี้ยจะสร้างรายได้นะครับแต่ก็อาจจะเกิดขึ้นนะครับในช่วงของ ปีหน้าเป็นต้นไปเพราะว่าโดรนจะเข้ามานะครับรุ่นที่เราสั่งเนี่ยจะเข้ามาในเดือนหน้าก็คือเดือนกันยายนแล้วก็จะเริ่มทดสอบนะครับการบินแบบให้มีผู้โดยสารนะครับซึ่งต้องได้รับการกลั่นกรองแล้วก็ตรวจสอบอย่างละเอียดกับสำนักงานการบินพลเรือนของประเทศไทยก่อน ซึ่งคาดว่าจะทำการทดสอบได้ในไตรมาสที่ เอ่อในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 นะครับการสร้างรายได้จะเกิดขึ้นในปีหน้าซึ่งบริษัทเนี่ยก็จะทำการประมาณการแล้วก็นำเสนอให้กับทางผู้ถือหุ้นได้รับทราบโดยผ่านสื่อของตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
- ในแง่ของการบริหารความเสี่ยง NPL และมาตรการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความท้าทาย บริษัทมีแนวทางอย่างไร
-
สิ่งสำคัญที่สุดนะครับเราต้องมีระบบในการพิจารณาสินเชื่อที่รัดกุมแล้วก็มีประสิทธิภาพเรามีระบบ Credit scoring ซึ่งเราพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการปล่อยสินเชื่อมานะครับแล้วก็สิ่งสำคัญที่เราจะเห็นได้จากว่าในการควบคุมปริมาณของลูกหนี้ ด้อยคุณภาพหรือลูกหนี้ NPL เนี่ยเราสามารถควบคุมจำนวนของลูกหนี้ NPL ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างที่ได้นำเสนอว่าในส่วนของลูกหนี้ของสัญญาเช่าซื้อเนี่ย ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 เนี่ยเรามีลูกหนี้ NPL ในส่วนของเช่าซื้อเนี่ย อยู่เพียง 39 ล้านบาทนะครับ ส่วนในส่วนของลูกหนี้เงินกู้ถ้ามองในส่วนของ ณ สิ้น ไตรมาสที่ 2 กับของปี 2568 เนี่ยอาจจะมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงแต่เรามั่นใจว่าเรามีมาตรการในการกำกับดูแลและควบคุม สัดส่วนของลูกหนี้ NPL เงินกู้ ณ สิ้นปี 2568 เนี่ยเราจะควบคุมได้ต่ำกว่า ที่ปรากฏ ณ สิ้นปี 2567 อย่างแน่นอน
โดยสรุป GCAP มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยกลยุทธ์ที่เน้นการสร้างคุณค่าร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน บริษัทฯ มีความพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายและความเสี่ยงต่างๆ ด้วยมาตรการที่รัดกุม และมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว