บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
เจาะลึก SEAOIL: โอกาสและความท้าทายในตลาดน้ำมันปี 2568
P/E 7.06 YIELD 7.48 ราคา 2.94 (0.00%)
เจาะลึก SEAOIL: โอกาสและความท้าทายในตลาดน้ำมันปี 2568
สรุปผลการประชุม Opportunity Day ของบริษัท ซีออยล์ จำกัด (มหาชน) โดยมีผู้บริหารนำเสนอภาพรวมธุรกิจ, ผลการดำเนินงาน, กลยุทธ์, และแนวโน้มในอนาคต
- ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
รายได้รวมในไตรมาส 2 อยู่ที่ 4,747 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 40 ล้านบาท แม้ราคาน้ำมันจะลดลง แต่รายได้รวมครึ่งปีแรกยังคงอยู่ที่ 9,889 ล้านบาท เติบโต 24% หรือ 1,928 ล้านบาท จากปริมาณการขายในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
EBITDA ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 91 ล้านบาท ลดลง 32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำไรขั้นต้นที่ปรับลดลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดการขายน้ำมันต่างประเทศ รวมถึงกำไรจากการร่วมค้าที่ลดลงจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง อย่างไรก็ตาม EBITDA ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 203 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วจากรายได้อื่นที่สูงขึ้นและค่าเผื่อที่ลดลง
กำไรสุทธิในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 151 ล้านบาท ลดลง 4.5% หรือ 8 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้าที่ลดลง
สินทรัพย์รวม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 4,078 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% หลักๆ จากสินทรัพย์หมุนเวียน เช่น เงินสดและลูกหนี้การค้า หนี้สินรวมอยู่ที่ 1,451 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากเจ้าหนี้การค้า ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 2,627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากปีที่แล้ว
อัตราส่วนทางการเงิน: Gross Profit Margin อยู่ที่ 2.12% ลดลงจาก 2.79% ในปีที่แล้ว Net Profit Margin อยู่ที่ 1.53% ROE และ ROA อยู่ที่ 5.76% และ 3.71% ตามลำดับ DE Ratio ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 0.55 ในขณะที่ Current Ratio อยู่ในเกณฑ์ดีที่ 2.12
ปริมาณการขายรวมในไตรมาส 2 อยู่ที่ 267 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 37% และ Year-to-date อยู่ที่ 526 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 60% ตลาดต่างประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก โดยมีการเติบโตของปริมาณการขายน้ำมันเพิ่มขึ้นถึง 116% หรือ 359 ล้านลิตร ตลาดในประเทศเองก็มีการเติบโตเช่นกัน โดยปริมาณการขาย Year-to-date เพิ่มขึ้น 168 ล้านลิตร หรือ 4%
จากปริมาณการขายที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้รายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 71% มาอยู่ที่ 6,305 ล้านบาท และรายได้รวมของบริษัท Year-to-date อยู่ที่ 9,735 ล้านบาท โดยเติบโตขึ้น 24%
- โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
SEAOIL ยังคงสร้างการเติบโตในระดับภูมิภาคได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีความท้าทายจากสถานการณ์ในบางประเทศ เช่น เมียนมาที่มีการปิดบางด่าน ทำให้ปริมาณการส่งออกลดลง บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การขายโดยเพิ่มการส่งออกไปยังลาว ซึ่งทำให้ตัวเลขการเติบโตของลาวเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน
สิงคโปร์ยังคงเป็นพอร์ตหลักที่ยังคงสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยขยายขึ้นกว่าเท่าตัวในปีนี้ และยังเป็นตลาดที่ช่วยผลักดันการเติบโตภาพรวมของบริษัท
มีการบุกเข้าไปที่ตลาดใหม่ เช่น เวียดนามเป็นปีแรก และมีการขยายตัวอย่างโดดเด่นทั้งในจีนและฮ่องกง ซึ่งเติบโตกว่าเดิมถึง 7 เท่า ตลาดในยุโรปก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเยอรมัน นอร์เวย์ และเบลเยียม
บริษัทเห็นโอกาสและให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นหลัก และมีความพร้อมทั้งด้านเครือข่ายธุรกิจและศักยภาพการขยายตลาด รวมถึงปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตให้บริษัทในระยะยาวได้
การคาดการณ์ของ EIA ชี้ให้เห็นว่าการใช้น้ำมันทั่วโลกยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเอเชียแปซิฟิกยังคงเป็นภูมิภาคที่มีสัดส่วนการบริโภคมากที่สุด และจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 41% ของโลกในปี 2573 การเติบโตของการใช้น้ำมันในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นถึง 6% ภายในอีก 6 ปีข้างหน้า
- ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์
การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดการขายน้ำมันต่างประเทศ
สถานการณ์ในบางประเทศที่มีผลต่อการส่งออก เช่น เมียนมา
- วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทปรับกลยุทธ์การขายโดยเพิ่มการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ลาว เพื่อชดเชยผลกระทบจากสถานการณ์ในบางประเทศ
มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและปรับแผนเพื่อการผลิต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน
มุ่งเน้นและปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโครงการปัจจุบัน พร้อมทั้งมองหาโอกาสในการขยายโครงการใหม่ โดยเฉพาะจากกิจกรรมในธุรกิจ E&P
มุ่งหน้าหาโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุน ทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจใหม่ที่หลากหลาย เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยึดหลักการสร้างความสมดุลตลอดห่วงโซ่คุณค่าธุรกิจในทุกมิติ ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจในธุรกิจปัจจุบัน การสำรวจโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการสร้างความสมดุลกับชุมชนและสิ่งแวดล้อม
คณะกรรมการได้ทบทวนประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบรับกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ราคาน้ำมันที่ผันผวน การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และสภาพภูมิอากาศ โดยมีการจัดทำโครงการที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน เน้นการบูรณาการความยั่งยืนในกระบวนการปฏิบัติงานหลัก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายระยะยาวในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมที่ยั่งยืน
บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุเป้าหมายในเรื่องของ Carbon Neutrality ในปี 2540 และ Net Zero ในปี 2550 เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ
- แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
บริษัทวางทิศทางที่ครอบคลุมใน 6 ด้านหลัก ซึ่งจะเป็นแกนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า ได้แก่ Oil Trading Growth, E&P Investment, Related Business, New Investment, Operational Excellence, และ ESG Development
บริษัทมี 4 ส่วนหลักที่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโต ได้แก่ Oil Trading, E&P Investment, Related Business, และ New Investment
บริษัทมีโครงการพัฒนาความยั่งยืนในทุกมิติ เพื่อดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า ผู้ถือหุ้น ชุมชน และสิ่งแวดล้อม
บริษัทได้รับรางวัลและการรับรองต่างๆ ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นธรรมาภิบาลที่โปร่งใส การได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืนและคาร์บอนระดับสากล (ISCC) และการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม
- ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 47.49]
แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและผลกระทบต่อปริมาณการใช้น้ำมัน
คำถาม: แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจจะชะลอตัว จะส่งผลต่อปริมาณการใช้น้ำมันในตลาดโลกลดลง รวมถึงมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาทดแทนการใช้น้ำมันและหันไปใช้พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานทดแทนมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อองค์กรที่เป็นธุรกิจด้านน้ำมันอย่างไรบ้าง
คำตอบ: เศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิต การขนส่งต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยรวมของโลกเกิดการชะลอตัว ดังนั้นก็จะส่งผลทำให้มีการชะลอตัวในเรื่องของการใช้น้ำมันบ้าง แต่ก็คาดการณ์ว่าจะเป็นในระยะสั้น ทั้งนี้บริษัทมีการ Monitor ข้อมูลและคอย Update สถานการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด
พลังงานทดแทนและผลกระทบต่อองค์กร
คำถาม: พลังงานทดแทนที่เป็นพลังงานไฟฟ้าหรือการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อองค์กรอย่างไรบ้าง
คำตอบ: ไม่ได้ส่งผลกระทบในระยะสั้น เนื่องจากในตัวของธุรกิจของทางซีออยล์เองเน้นในเรื่องของอุตสาหกรรมเป็นหลัก เพราะฉะนั้นหลัก ๆ แล้วบริษัทเชื่อมั่นว่าทางลูกค้านั้นยังไงก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้พลังงาน Fossil อยู่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางบริษัทมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมน้ำมันโดยเฉพาะในภาคการขนส่งให้ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
สถานการณ์ความไม่สงบไทย-กัมพูชาและผลกระทบต่อธุรกิจ
คำถาม: จากสถานการณ์ความไม่สงบไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของซีออยล์หรือไม่
คำตอบ: ไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ปัจจุบัน เนื่องจากตลาดของการส่งออกน้ำมันไปทางกัมพูชาไม่ได้เป็นตลาดที่เราดำเนินการอยู่ ดังนั้นในส่วนของการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เราไม่ได้เน้นในตลาดทางนี้อยู่แล้ว ดังนั้นการดำเนินงานปัจจุบันเราไม่ได้ได้รับผลกระทบจากตรงนี้
ระยะเวลาสัมปทานในธุรกิจ E&P และแผนการเข้าร่วมประมูลสัมปทานแปลงอื่น ๆ
คำถาม: สัมปทานในธุรกิจ E&P เหลือระยะเวลากี่ปี และจะมีแผนเข้าร่วมยื่นประมูลสัมปทานแปลงอื่น ๆ หรือไม่
คำตอบ: ปัจจุบันเหลืออีก 11 ปี จะหมดในปี 2579 และเรามีสิทธิที่จะต่อได้อีก 10 ปี ส่วนคำถามที่ว่าจะมีการแผนเข้าร่วมยื่นประมูลสัมปทานแปลงอื่น ๆ หรือไม่ แน่นอนว่าอยู่ในแผนการเติบโตของบริษัทเราอยู่แล้ว ที่จะหาโอกาสและร่วมยื่นประมูลสัมปทานถ้าเรามีโอกาส ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ามีความคืบหน้ายังไงก็จะแจ้งผู้ที่สนใจผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์เหมือนเดิม
อุปสรรคในการจัดหาแรงงานของธุรกิจ Catering
คำถาม: ธุรกิจ Catering มีอุปสรรคในการจัดหาแรงงานหรือไม่ ได้รับผลกระทบจากแรงงานกัมพูชาที่หายไปบ้างหรือไม่
คำตอบ: ในส่วนงานตรงนี้เราไม่ได้ได้รับผลกระทบจากแรงงานต่างชาติเลย เพราะว่าเราไม่ได้ใช้แรงงานต่างชาติ แทบจะไม่ได้ใช้แรงงานต่างชาติเลย ในส่วนของแรงงานต่างชาติที่มีก็ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ และต้องบอกว่าเราไม่ได้มีแรงงานต่างชาติในส่วนของประเทศที่อาจจะมีประเด็นอยู่ หรือว่าตามคำถามก็คืออย่างประเทศกัมพูชาเนี่ย เราไม่มีแรงงานส่วนนี้อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ได้รับผลกระทบเลย
ส่วนแบ่งตลาดของการเติมน้ำมันทางทะเลและจำนวนคู่แข่ง
คำถาม: ในตลาดน้ำมัน ในตลาดเติมน้ำมันทางทะเลที่เป็นกิจการหลักของบริษัทในด้าน Oil Trading บริษัทคาดว่าจะได้รับส่วนแบ่งเท่าไหร่ของตลาด และในตลาดนี้มีคู่แข่งประมาณกี่หลัก กี่ราย
คำตอบ: ถ้าเป็นในส่วนของการเติมน้ำมันทางทะเล ตัวของบริษัท ถ้าถามว่าได้รับส่วนแบ่งเท่าไหร่ของตลาด อาจจะตอบเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างยาก แต่ว่าข้อมูลที่ทางบริษัททำกับตลาดโดยรวม เราเองเนี่ยเราก็อยู่ในอันดับ 1 ใน 5 ของส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม ในตลาดนี้มีคู่แข่งประมาณกี่ราย คู่แข่งของในส่วนของเติมน้ำมันทางทะเลอย่างเดียวเลยน้อยราย บริษัทอาจจะมีกิจการที่คล้าย ๆ กันเนี่ยอยู่บ้าง แต่ว่าบริษัทที่เป็นประเภทเดียวกัน Target ลูกค้าเดียวกันเลย ขนาดในการความสามารถในการ Supply เท่ากัน เราก็จะมีอยู่ไม่ถึง 10 ราย ก็ถือว่าเป็นธุรกิจที่คู่แข่งไม่ได้เยอะมาก และก็ยังเป็นโอกาสที่ดีที่สามารถทำตลาดและก็สร้างความเติบโตได้อย่างต่อเนื่องอยู่
โดยสรุป, SEAOIL เผชิญทั้งความท้าทายและโอกาสในปี 2568 โดยบริษัทมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดต่างประเทศ, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, และการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว