เจาะลึก TBN ปี 2568 : โอกาสและความท้าทายในโลกดิจิทัล

P/E 265.02 YIELD 4.59 ราคา 4.14 (0.00%)

เจาะลึก TBN ปี 2568 : โอกาสและความท้าทายในโลกดิจิทัล

สวัสดีท่านนักลงทุนทุกท่าน ยินดีต้อนรับสู่ Oppday ครั้งที่ 2 ของปี 2568 ในวันนี้ เราจะมานำเสนอรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับ TBN Corporation จำกัด (มหาชน) โดยจะเริ่มจาก TBN Business Overview อัปเดต Product นวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงบริการที่มีให้ มีการปรับปรุง และนำเสนอให้ท่านนักลงทุนได้ทราบ

ในส่วนที่ 2 จะเป็นเรื่อง Financial Overview ไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และหลังจากนั้นเราจะพูดถึงเรื่องอนาคต Direction ของบริษัท TBN ว่าเราจะไปในทิศทางไหน ซึ่งในเบื้องต้นขออนุญาต Recap บริษัท TBN อีกสักครั้งหนึ่งสำหรับนักลงทุนท่านใหม่ที่อาจจะยังไม่ได้รู้จักบริษัทเรา

บริษัท TBN เป็นบริษัทที่ให้บริการในเรื่องของ Intelligent Digital Solution ให้กับกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็น Enterprise เรามีความมุ่งมั่นที่จะขยายในประเทศไทยและไปถึงทั้งเอเชียแปซิฟิกด้วยกัน ที่ผ่านมาเราได้ดำเนินธุรกิจมา 17 ปี พอดี เราเพิ่งทำบุญบริษัทไปเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้เรา 17 ปีแล้วที่อยู่ในตลาดประเทศไทย และยังให้ Digital Solution ให้กับกลุ่มลูกค้า

ปัจจุบันนี้ทางบริษัทเรา ให้บริการหลัก ๆ ในเรื่องของ Low Code Technology ซึ่งอันนี้จะเป็น Core Business ของบริษัทเรา แต่ในขณะเดียวกันเราก็มีกลุ่มที่เป็น High Code ที่สามารถพัฒนา Custom Software ให้กับลูกค้าได้ในกรณีที่ต้องการอะไรที่มัน Tailor Made จริง ๆ สำหรับธุรกิจเขา

ในช่วงที่ผ่านมาเราได้ขยาย Portfolio และ Product ก็จะเป็นเรื่องของ Debt Collection, Cyber Security, Mobile Security, AI GenAI Platform เข้ามาเพื่อที่จะช่วยกลุ่มลูกค้า Enterprise ในรายละเอียด เดี๋ยวผมจะเล่าในสไลด์ถัดไปให้

ความมุ่งมั่นของบริษัท TBN คือเราอยากจะสร้าง Value Proposition ว่าเราเองอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการทำ Digital Transformation และเป็นคนที่จะมาช่วย Accelerate การทำ Digital Transformation ในองค์กรขนาดใหญ่ นำไปสู่ในเรื่องของ Digital Organization ได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และด้วยต้นทุนที่เหมาะสม

ในบริษัท TBN เราสามารถให้บริการครบวงจร ตั้งแต่คุณมี Demand ในเรื่องที่ต้องการ Digitalize หรือ Digitalization ตัว Process ภายในองค์กรให้เป็น Digital หรือ Software เรามี Mendix Low Code ที่จะมาช่วย Accelerate เรามีเรื่องของ Security มีเรื่องของ Cloud มีเรื่อง DevOp ต่าง ๆ ที่ทำให้ Total Solution ให้มันมีความ Intelligence และสามารถตอบโจทย์และได้ ROI อย่างเหมาะสม

สิ่งที่ TBN Unique และแตกต่างกับบริษัทอื่น ๆ คือทุก Product ที่ทางบริษัท TBN นำมาใช้หรือช่วยให้บริการช่วยไปสอนให้ลูกค้านำไปใช้ เรามีองค์ความรู้ในองค์กรค่อนข้างเยอะ เรามี R&D ฉะนั้นเรื่องความพึ่งพาในการ Support ของต่างชาติอาจจะลดน้อยลงมาก ๆ เลย ซึ่งตรงนี้จะสร้างความมั่นใจให้กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่จะสามารถใช้ Technology เราได้ เวลาติดปัญหาอะไร TBN เราจะเป็นคนแรกเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาแนะนำเพื่อให้การพัฒนาดำเนินต่อไปอย่างไม่ติดขัด นั่นคือสิ่งที่บริษัทเราแตกต่างเลย

Key Highlights ไตรมาส 2

Key Highlight ในไตรมาสที่ 2 ของเราหลัก ๆ คือ เรามีปิด Contract Value ใน Slide Ram อยู่ประมาณ 180 ล้านบาท ซึ่งเราก็ได้ Win มาแล้วประมาณ 50 ล้านบาท อันนี้ก็คือจะเป็นในช่วงที่ผ่านมา

ส่วน Theme ในช่วงของ Q2 เราเน้นในเรื่องของ Debt Collection เป็นระบบทวงหนี้ มี Gen AI ที่เราปิดมาแล้วก็เรื่องของ Cyber Security ซึ่งอันนี้เรามีปิด First Deal แล้วก็บางอันก็ใกล้ส่งมอบแล้วด้วย

ในไตรมาสแรกของ Mendix เองก็ยังถือว่ายังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผมคิดว่านักลงทุนหลาย ๆ ท่านก็น่าจะได้ตามกระแสเรื่องของ Gen AI ว่า Gen AI จะมาช่วยในการพัฒนา Foling ให้กับโปรแกรมเมอร์อาจจะแบบ disrupt หรืออะไรอย่างนี้หรือเปล่า ซึ่งอันนี้เดี๋ยวผมจะมาอธิบายในรายละเอียดนิดนึง ทางนักลงทุนจะได้เข้าใจถึงความแตกต่างในเรื่องของตัว เราเรียกว่า AI Assisted Development กับตัว Low Code

ถ้ามองกลุ่มตลาดที่ทางบริษัท TBN operate ตอนนี้เราขยายไปในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งตอนนี้เราก็มีเปิดในฝั่งของ Healthcare แล้วก็เรื่องของฝั่งของ Energy แต่ต้องบอกว่าการที่เราขยายไปในหลากหลายธุรกิจคือไม่ได้แปลว่าเราไม่ได้ Focus ซึ่งต้องบอกว่ามันมีนัยยะสำคัญในการที่จะ Expand เพื่อ 1 ก็เป็นการกระจายความเสี่ยงด้วย ในของฐานกลุ่มลูกค้าเอง อันที่ 2 คือเนื่องจากว่าสิ่งที่ก่อนที่เราจะขยายไปเนี่ย กลุ่ม Industry ที่เราทำได้ดี ที่เป็น Core หลัก ๆ เลยก็จะเป็นกลุ่มของ Banking กับ Insurance แล้วก็ Retail ซึ่งมันเป็น 3 Industry ที่ทางบริษัท TBN เรา Strong มาก โดยเฉพาะในกลุ่มของ Banking ซึ่งต้องบอกว่าเรามีการพัฒนาในเชิงของ Vertical อะไรต่าง ๆ ซึ่งอันนี้ยังเป็นฐานมั่น แต่การที่เราต้อง Explore ไปใน Industry อื่น ๆ เนี่ย เพื่อเราที่จะต้องแสวงหาในการตลาดใหม่ ๆ ได้ทดลองอะไรใหม่ ๆ เพื่ออาจจะได้ค้นพบหรือ Sweet Spot ในบางอย่างที่เราอาจจะยังไม่ไป แต่ต้องบอกว่าตรงนี้ก็อาจจะใช้เวลา แต่เรามั่นใจว่าสุดท้ายแล้วเนี่ยเราอยากจะให้บริษัท TBN เรามีฐานลูกค้าและสร้างความยั่งยืนให้กับทางบริษัท TBN ด้วย

ขออนุญาต Update ในเรื่องของ Event ที่ผ่านมา ในช่วงของ Q ที่ 2 เรามีไปจัดงานที่ Techsauce นะครับ เป็นงานไอทีใหญ่ประจำปีของประเทศไทย ซึ่งทางบริษัท TBN เองเราก็มี Booth ที่นั่น เราก็ได้นำเสนอ Technology ก็ได้รับความสนใจค่อนข้างเยอะ แล้วก็มีผู้ให้ความสนใจติดต่อมาที่อยากให้เราเข้าไป Present ต่อ ซึ่งก็ถือว่าเป็นงานที่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง

ที่ผ่านมาเราได้รับ Award เป็น Full Score เลย on AMG Checklist อันนี้ก็ต้องขอบคุณทีมงานที่ตั้งใจ เพื่อให้เกิด Transparency และ Integrity ในองค์กรมาก ๆ ใน Q ที่ 2 ก็จะมีเรื่องของ Reentry เรามีจัด Executive Dinner กับตัว Reentry เป็น Product ที่เราได้ Exclusive Reseller Contract นะครับ ที่เป็นตัวแทนในการทำเรื่องของ Private Gen AI สำหรับลูกค้าระดับองค์กร ซึ่งอันนี้ในงานเราเองก็ได้เชิญหลากหลายบริษัทเข้ามา แล้วก็มีหลายที่เลยที่ให้ความสนใจที่อยากจะเอาตัว Gen AI เนี่ยไป Adopt ใช้ แล้วก็ส่วนเรื่อง Tech Day ก็เป็นงานที่เราพยายามจะ Engage Community ในประเทศไทยเพื่อ Update เรื่องความรู้ Get Together ดูซิว่าแบบแต่ละคนมี App อะไรบ้าง หรือว่ามีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้มีการ Sharing ประสบการณ์แล้วก็ทำให้ Community ของผู้ใช้งาน ในประเทศ ไทยเนี่ย Active ซึ่งอันนี้ก็เป็นงานที่เราจัดประจำอยู่แล้ว

นอกจากที่เราเป็นงานที่ให้ลูกค้ามาเยี่ยมที่บริษัทเรา เราก็มี Activity ที่ Proactive เรียกว่าเป็น Customer Visit เราก็จะมี Routine ที่เราเข้าไปเยี่ยมพูดคุยกับลูกค้าของเราสำหรับคนที่ใช้ Technology ของเรานะครับ เพื่ออยากจะ Ensure ว่าลูกค้าเรายังพึงพอใจกับ Technology หรือว่าถ้าติดปัญหาอะไรเราอยากจะเป็นคนแรกที่จะสามารถเข้าไปแก้ปัญหาให้กับลูกค้าเราได้ อันนี้ก็จะเป็นกิจกรรม โดยรวมของบริษัท TBN

TBN Intelligent Digital Solution

ขออนุญาตอธิบายและลงในรายละเอียดในเรื่องของ TBN Intelligent Digital Solution เริ่มต้นเลยผมอาจจะขออนุญาตเริ่มจากภาพรวมก่อนว่า Core Product ของเราที่ตอนนี้อยู่ใน Portfolio ของบริษัท TBN มีอะไรบ้าง เบื้องต้นเลยอย่างที่เรียนเบื้องต้นก็คือว่าเรายัง Focus กับตัว Mendix Technology ซึ่ง Mendix Technology เนี่ยเป็น World Class Low Code ที่ยังเป็น Main Focus ของบริษัทเรา

เรามี 3 Value Proposition ด้วยกัน 1 คือเรารับจ้างทำ Turnkey เลย ก็คือพูดง่าย ๆ ว่าลูกค้าอยากได้ Solution อะไรต่าง ๆ เราสามารถใช้ Mendix พัฒนาแบบ End to End ให้กับลูกค้าแล้วก็ส่งมอบแล้วก็ดูแลต่อให้ลูกค้า อันที่ 2 ก็คือกลุ่มลูกค้าที่มีทีมไอทีตัวเองที่ต้องการที่อยากจะมี Internal Low Code Capability อันนี้ก็จะเป็น Strategic Development Platform Approach ก็คือพูดง่าย ๆ ว่าลูกค้าซื้อ Technology ทาง TBN จะเข้าไปช่วย Training Certify แล้วก็ Consult ในการที่จะ Adopt ตัว Technology และใช้ให้อย่างมีประโยชน์และคุ้มค่า

ส่วนที่ 3 ก็จะเป็นตัว Solution ที่ทางบริษัท TBN เราพัฒนา On Top Mendix แล้วก็คือจะเป็น Solution ที่ตอบโจทย์ในแต่ละ Vertical Market อย่างเช่นในกลุ่มของ Banking เอง เราก็จะมีทั้ง Loan Origination, Loan Management, Collateral Management แบบ End to End Landing Platform เลยนะครับ ซึ่งอันนี้ก็จะเป็น Solution ที่ทางบริษัทเราพัฒนา ซึ่งถ้าลูกค้ามีโจทย์ เราสามารถเข้าไป Sharing และดูว่าเอ้ยถ้าเกิด Solution ตอบโจทย์เนี่ยลูกค้าสามารถเอาไป Adopt ใช้ งานได้เลย แล้วข้อดีก็คือว่าพอมัน Base อยู่บน Low Code Technology เนี่ยเราสามารถที่จะ Customize On Top เพิ่มไป เพิ่มไปแบบได้อย่างง่ายดายนะครับ เพื่อที่จะทำให้ลูกค้าเราได้ Solution ที่มัน Fit กับ Business เขาจริง ๆ

ช่วงไตรมาส 4 เราเริ่ม Engage ใน Area ที่เป็น AI Driven Solution ซึ่งตอนนี้เราค่อนข้าง Active ในเรื่องของ Generative AI สำหรับ Enterprise เรามองจากโจทย์ของกลุ่มลูกค้า Enterprise ที่อยากจะใช้ Gen AI แต่ก็ยังมีความกังวลในเรื่องของ Data Residency เรื่อง Data Privacy ต่าง ๆ เพราะว่าถ้าเกิดสมมุติว่าเราต้องการที่จะสร้าง Know How ในองค์กรอย่างนี้ เราไม่สามารถที่จะเอาองค์ความรู้เราเนี่ยไป Upload อยู่บน Public Cloud หรือบน Public นะครับ เพราะว่าองค์ความรู้เราอาจจะรั่วไหลออกไปได้ อาจจะแล้วก็บางทีก็อาจจะ Against กับตัว AI Governance ในองค์กรของท่านเอง ฉะนั้นเนี่ยตัว Product Reentry ก็จะมาช่วยตอบโจทย์ตรงนี้นะฮะ เราสามารถที่จะ Train Model ของเราภายในองค์กรได้ แล้วข้อดีก็คือว่าตัว License เนี่ยเราให้เป็น Unlimited User

แปลว่าเวลาท่านจะเอาตัว GEN ตัวนี้ไป Adopt ทางองค์กรท่านน่ะท่านไม่จำเป็นต้องกังวลในเรื่องของจำนวน User License เหมือนที่ท่านต้องจ่ายให้กับ Product ที่เป็น Public GEN AI นะครับ ที่มีในตลาดที่อาจจะต้องจ่ายขั้นต่ำแบบเดือนละ 20 ดอลลาร์ ต่อคนต่อเดือน อันนี้เราสามารถมีที่เป็นแบบ Enterprise Model นะครับ แล้วก็สามารถ Run บน Private Cloud บน Onframe ที่ Data Center ของท่านได้ถ้าท่านมี GPU Run อยู่

แน่นอนเรื่องของ Cyber Security ก็เป็น Area ที่จริง ๆ ทางบริษัท TBN ก็เราเริ่มเข้าไปเล่น ตอนนี้เราก็มี First Deal ที่เราปิดแล้วในเรื่องของการทำ Automatic Red Teamming ก็คือเป็นการป้องกัน Cyber Attack แบบ Proactive นะฮะ คือโดยปกติแล้วเนี่ย Team เนี่ยในแต่ละองค์กรที่จะต้องมีเนี่ยมันมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แล้วการที่จะหาบุคลากรที่มีคุณภาพมี Skill เนี่ยก็ต้องเรียกว่าหาค่อนข้างยากครับในประเทศไทย ซึ่งตรงนี้เป็น Full Automatic เป็น Continuous สามารถทดสอบเรียกว่าองค์กรท่านได้ตลอดเวลาเลยว่าในองค์กรท่านเนี่ยมีรอยรั่วหรือรูรั่วตรงไหนนะครับ เพื่อที่ท่านจะได้สามารถไปปิด ปิด Gap ตรงนั้นได้เร็วขึ้น

รวมไปถึงเรื่องของตัว Mobile Application Security ซึ่งอันนี้ก็จะมาช่วยในเรื่องการทำให้การพัฒนา Mobile Application เนี่ยก่อนที่จะให้ลูกค้าไปถึงมือลูกค้าเนี่ยมันถูก Scan ถูก นะครับ แล้วก็ Secure ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นเป็น Technology ที่ เกรดเดียวที่เราใช้กับการทำ Mobile Banking และอันสุดท้ายก็จะเป็นในเรื่องของตัว Cloud Platform อันนี้ก็จะเป็น Complementary Service ที่ทางบริษัท TBN เราก็ทำให้ ฉะนั้นนักลงทุนก็จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วในบริษัท TBN 1 เนี่ยเราสามารถให้บริการเรียกว่าครบวงจรในมุมของ Digital Solution ให้กับลูกค้าแล้วก็ในเรื่องของตัว Technology Stack ต่าง ๆ เนี่ยมันเป็น Technology ที่ยังไปต่อได้อีก 5 ปี 10 ปี ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นอะไรที่สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้มากขึ้น

ขออนุญาต Update ในเรื่องของตัว Position ก่อนที่ Update เนี่ยตัว Gardner Magic นะครับ ที่ทางบริษัท เองเนี่ยเราเป็นเรียกว่า Leader นะ ถ้าเห็นทางซ้ายมือของ 2024 เนี่ยเราอยู่ขวาบนมาตลอดคือเราเป็นกลุ่มผู้นำนะครับ มาจริง ๆ ต้องบอกปีนี้เป็นปีที่ 9 แล้วนะครับ และ 2025 Report ออกมาเราก็ยังอยู่เป็นกลุ่ม Leader และอยู่ขวาสุดด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเรื่องของนวัตกรรม ความเป็น มีนวัตกรรมของ Technology เรา ซึ่งต้องบอกว่าทุก ๆ ปี Gardner เขาจะ Raise Bar ในเรื่องของ Capability ของกลุ่ม Low Code นะครับ ซึ่งตอนนี้ต้องบอกว่าทุกคนก็เริ่มไปเป็น AI Drivel แล้วนะครับ ซึ่งต้องบอกว่าก็เป็นอะไรที่ดีมากๆ นะครับ เพราะว่าก็ยิ่งจะเพิ่ม เรื่องของ Productivity แล้วก็ Efficiency ให้กับผู้พัฒนา Software เนี่ยได้ง่ายขึ้นและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

Evolution ของการพัฒนา Software เป็นอย่างไร ถ้าเกิดเราเริ่มจากซ้ายล่างสุด เป็นเรื่องของ Traditional Stack Traditional Stack Meaning ก็คือเป็นการพัฒนาแบบ Programming โดยใช้คนทั่วไป และถ้าเกิดเทียบเท่ากับการใช้ Low Code เนี่ยต้องบอกว่า Productivity และความเสี่ยงเนี่ยของเราเนี่ยต่ำกว่าในการที่จะใช้ตรงนั้น แล้วหลังจากนั้นพอ บอกว่าเอ้ย Traditional เราบอกว่าเรามี AI Assisted หรือในศัพท์เทคนิคเขาเรียกว่า White Coding เนี่ยก็คือแน่นอนมันก็จะเพิ่ม Productivity ขึ้นมาอาจจะแบบเทียบเท่า หรือ Beyond Low Code แต่ในขณะเดียวกัน Low Code Technology บนโลกนี้เขาก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เขามีการพัฒนาแล้วก็มีการ Embrace ในเรื่องของการเอา GEN AI เนี่ยมา Adopt ยิ่งทำให้ Low Code เนี่ยมีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก ฉะนั้นก็จะเห็นว่าในสอง Alternative ที่ในการพัฒนา Software เนี่ยก็จะขยับคู่กันขึ้นไปข้างบน ฉะนั้น Low Code เองเขาก็มี Evolve นะฮะ มี Evolution ของเขานะครับ ที่เขาก็ต้องมีประสิทธิภาพขึ้นไปอีก

มาดูนิดนึงว่าแล้วจริง ๆ ทาง Mendix เนี่ยเรา Embrace ในเรื่องของการเอา AI มาใช้ ในการพัฒนา Software อย่างไร เราก็แบ่งเป็น 2 แกนด้วยกัน ในแกนซ้ายก็จะเป็นเรื่องของ AI Assisted Development ที่เอา AI เนี่ยมาช่วยทำให้ผู้พัฒนาเนี่ยพัฒนา Software ได้ง่ายขึ้น เรียนรู้ได้เร็วขึ้น ผิดพลาดน้อยลง มี Productivity มากขึ้นด้วย Effort เท่ากัน นะครับ แล้วก็ ทำให้เรียกว่าทุกอย่างเป็น Automation มากขึ้น

ในฝั่งขวา ซึ่งวันนี้ผมอาจจะไม่ได้แตะเยอะ แต่ว่าในตัว เองเนี่ยเรามี Capability ที่จะให้ Application ที่คุณพัฒนาเนี่ยมันมี Intelligence มากขึ้น คือ เขามีการ Design ที่ทำให้ Application น่ะจะไปเชื่อมของพวก Machine Learning Model อย่างเช่นสมมุติว่าคุณมี ทํา Machine Learning Model แล้วจะมา Plug In ใน สามารถทำได้เลย หรือคุณจะ Adopt เรื่องของพวก Cognitive Service เรื่อง AI Service อย่างเช่นสมมุติ ผมจะไปเชื่อมกับ Copilot ผมไปเชื่อมกับ Chat GPT ไปเชื่อมกับ Clos สามารถเชื่อมได้ หรือผมจะไปเชื่อมกับพวก OCR Service เงี้ยเพื่อให้ Application หรือ Business Application ที่ลูกค้าเราพัฒนาเนี่ย มันมี Intelligence Feature and Function ขึ้นมา เพื่อทำให้เกิด Productivity สูงที่สุดนะครับ ซึ่งอันนี้จะเป็น 2 แกน แต่ วันนี้เดี๋ยวผมจะขออนุญาต Address ในเรื่องของตัว AI Assisted Development นะครับ เพราะว่าตรงนี้จะเป็น Area ที่ต้องยอมรับว่าก็มีคนแบบสอบถามเข้ามาเหมือนกันว่าเอ้ย มันจะ เราจะถูก Disrupt ไหม หรืออะไรอย่างเงี้ยนะครับ ซึ่งก็เป็นคำถามที่มัน Valid มาก ๆ นะครับ ซึ่งเราเองก็แน่นอนในฐานะที่เรา ดูแล Technology ตรงนี้ แล้วก็ดูแลลูกค้าในประเทศไทยค่อนข้างเยอะนะครับ เราก็เราก็มีคำตอบตรงนี้ให้ ท่านนะครับเพื่อจะเห็นว่ามันคือยังไง

ก่อนจะลง Detail ขออนุญาตให้เห็นภาพ Landscape นิดนึง ซึ่งต้องบอกว่าในเรื่องของ AI Coding Assistant น่ะในโลกนี้ต้องบอกมันจะมี Technology เกิดใหม่แบบเยอะแยะมากมายเลย แต่ อันนี้ก็จะเห็นว่าใน 4 ตัวข้างบนนะครับก็จะเป็นตัวที่เรียกว่า Most Popular อย่างหลาย ๆ ท่านถ้าอยู่ใน Field ของ ไอทีก็จะรู้จัก แบบ Cursor Win Surf VO แล้วก็ ตัว นะครับ ซึ่งต้องบอกว่าแต่ละ Tool เนี่ยก็จะมีจุดเขาเรียกว่าอะไรนะ มี Focus Area ที่ แตกต่างกันไปแต่วัตถุประสงค์ก็คือ เพื่อยังไงที่จะมาช่วยทำให้ Developer เนี่ยสามารถเขียน นะครับเข้าไป แล้วก็ช่วย Generate Code ออกมาคือ Concept มันจะเป็นอารมณ์ประมาณนั้น นะครับแล้วก็จะ Target User ของแต่ละยี่ห้อเนี่ยก็จะไม่เหมือนกัน อย่างของ Cursor เนี่ยอันนี้คือชัดเจนมาก เขาทำตัว IDE ออกมาเพื่อที่จะ Support แบบ Professional Developer เลย นะครับเหมือน pairing ซึ่งต้องบอกว่าในอดีตเนี่ยแทนที่เราจะต้องมี pair Programmer เหมือนเราในโปรแกรมหนึ่งโปรแกรมเนี่ยเราใช้ Developer 2 คน อีกคนหนึ่ง Navigate ก็คือ ไกด์ อีกคนหนึ่ง Code นะครับจะลงคล้าย ๆ กันอันนี้เราก็จะใช้ เหมือนคนมนุษย์เป็น Human Inloop ก็คือว่าก็จะมีคนที่ไกด์แล้วก็ใส่ แล้วก็ให้ AI Code นะครับ หรือ Winsurf อย่างเงี้ยก็จะต้องสำหรับ Product Team วางแผนนู่นนั่นนี่อะไรเงี้ยแต่มันก็ยังเป็นตัว การ Generate Code นะครับฉะนั้นผมไปเร็วนิดนึงว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลาต้องบอกว่า Tool ต่าง ๆ เนี่ยมาเพื่อ Generate Code แล้วก็ Focus หลัก ๆ เป็น Developer แต่สิ่งที่ เรา differentiate ตัวเราอยู่ใน Space นี้นะครับ

ต้องบอกว่าของเราเป็น Enterprise Grade Local ซึ่งต้องบอกว่า Technology เรามี Capability ที่เป็น Enterprise Ready เลย Tool อื่น ๆ เนี่ยหลาย ๆ อันก็จะเป็นการ Generate ตัว Code ออกมา ซึ่งความ Enterprise อ่ะมันจะขึ้นอยู่กับความ Professional ของ Developer นั้น ๆ หรือประสบการณ์ของ Developer นั้น ๆ ที่ใช้ Tool นะครับยังมีตรงนั้นอยู่ แล้วอันที่ 2 ก็คือด้วยความที่เป็น Low Code เนี่ยท่านจะสังเกตว่าในตัวของ เองเนี่ย audience เราเนี่ยเราเป็นตั้งแต่ Developer เป็นทั้ง PM เป็น Business Analyst หรือจะเป็น SME ก็คือเรียกว่า Subject Matter Expert คนที่เชี่ยวชาญใน Business Area หนึ่งหรือเรียกว่า Domain Expertise ตรงนั้นน่ะนะครับ แล้วอันที่ ที่ ที่ ที่สำคัญมาก ๆ เลย คือ เนี่ยเรามี เราสามารถเขียนพร้อมเขียนอะไรแล้วก็ Generate Code หรือโปรแกรมหรือ Function ได้เหมือนกันนะครับ แต่เรามีแบบ End to End Automation ทั้ง The whole C คือ Software Development Life Cycle ตั้งแต่ท่านเริ่มมี Idea เริ่มคิดเริ่ม Design เริ่ม Develop Deploy monitoring คือเรียกว่า The Full Cycle เลย ซึ่งอันนี้อยู่ใน Platform ของ นะฮะ ซึ่ง ที่ผ่านมาเพื่อจะให้เห็นภาพชัดขึ้น ต้องบอกว่าก็เราก็มี ได้ไปดูหลาย Research นะครับก็ต้องบอกว่า Feedback ที่จากคนที่ใช้แบบ AI Coding Assistant หรือพวก Coding ต่าง ๆ เนี่ยในเชิงของ Business เนี่ยหลาย ๆ ที่ก็ก็ยังมี Doubt อยู่ในเรื่องของ Trust และ Transparency เพราะว่าท่านกำลัง จะเอา Code ที่ทาง AI ไปใช้ซึ่งแน่นอนมันอาจจะมีเรื่องของอะไรต่าง ๆ มันก็ต้องมีกระบวนการ Test ที่ดีเช่นเดียวกันนะครับ เรื่องของ Regulatory Compliance Issue เนี่ยต้องบอกว่าหลาย ๆ ที่ที่ผมคุยกับลูกค้าที่อยากหลาย ๆ ที่อยากจะเอา AI มาใช้นะฮะแต่ยังติดในองค์กรของเขายังไม่มีเรื่องของไอ AI Governance นะครับซึ่งอันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นระดับ Enterprise นะฮะ แล้วสุดท้ายแล้วว่ายังไม่ชัดเจนว่า Use Case ที่ AI จะมาใช้เนี่ยมันจะ Drive Business Value ขนาดไหนได้บ้างนะครับซึ่งอันนี้ก็เป็น Challenge ในฝั่ง ไอทีเองก็เช่นเดียวกันต้อง ต้องยอมรับว่าบางทีเรื่องของ AI Skill โดยเฉพาะในประเทศไทยเท่าที่ผมได้คุยกับ Developer ค่อนข้างเยอะต้องบอกความท้าทายก็คือบางทีการเขียนพร้อม เอ่อ ที่เป็นแบบภาษาอังกฤษหรืออะไรต่าง ๆ นะครับซึ่งต้องบอกว่าถ้าเราให้คำสั่ง เอ่อ ที่ไม่ละเอียดมากพอให้กับ AI output ออกมาอาจจะไม่ได้ตาม สิ่งที่เราต้องการก็ได้นะฮะอาจจะนำไปสู่ในเรื่องของ เอ่อ expectation ที่อาจจะไม่ตรงกับที่เราคาดหวังกับ Requirement ไว้ Part ที่ 2 อันนี้จะเป็น Challenge หลัก ๆ คือให้มี AI ยังไง เรื่อง Integration Challenge ยังคงอยู่ เพราะว่า AI ยังไม่ได้สามารถที่จะมีความฉลาดมากพอและเข้าใจบริบทหรือ Contact ของในองค์กรของท่านว่าถ้าเกิดจะต้องทำการ Integration น่ะจะทำยังไงแบบเป็น Automation เพราะสุดท้ายแล้วยัง End up ด้วยทำแบบ Manual อยู่ดีนะฮะ แล้วก็เรื่องของตัว Experience สำหรับที่จะไป Production คือมันจะต้องมีกระบวนการ Test ที่ ค่อนข้าง intense เพราะว่าสุดท้ายเนี่ยท่านต้องเข้าใจว่า Code ที่มันถูก Generate เนี่ยมัน meet กับ Requirement จริง ๆ หรือเปล่าเพราะมันถูก Generate มันไม่ใช่ถูก Develop หรือ Build นะฮะ คราวนี้มาพูดในเรื่องของความเสี่ยงบ้างนะครับคือด้านซ้ายเนี่ยก็จะบอกเป็นการ Generate Code นะครับด้านขวาเราใช้เป็นเอ่อเป็น Low Code ในการ ดรอปซึ่งต้องบอกการ Generate Code เนี่ยมันดูดีมากมันเร็วมากแต่ประเด็นคือบางทีมันถ้าเกิดเราไม่ได้มีการวางรากฐานที่ดีไว้นะครับโดยเฉพาะถ้าเกิดสมมุติท่านทำ App เล็ก ๆ อันนี้ไม่เถียงเลยผมเองผมก็ใช้ถ้าเกิดทำ App เล็ก ๆ หรือทำเว็บไซต์อะไรต่าง ๆ ผมใช้ หมดแต่ถ้าเมื่อไหร่ท่านจะต้องทำอะไรที่มันเป็น Mission Critical Enterprise Grade ต้องการ High accuracy คุณไม่สามารถ Rely on แบบ unpredictable Code นะครับแล้วถ้าเกิดเมื่อไหร่ก็ Application คุณเริ่มใหญ่เนี่ยตัว Generate Code มันจะเริ่ม Complex คนที่จะมาดูแลเนี่ยก็ต้อง require High Technical Skill มาก ๆ นะฮะ ในฝั่งของตัว Low Code เองนะครับ คือต้องบอกว่าของเราอ่ะ มีเป็นโลกปิดแต่เรามี AI มาช่วยทำให้การพัฒนา Software เนี่ยมัน base อยู่บน Practice ที่เรา pretrain ตัว Model ไว้เนี่ยแล้วทุกอย่างที่มัน ออกมาเนี่ยมัน มันสามารถมองเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นอยู่นะครับแล้วเราก็มี work อยู่ในที่ที่จะ เรื่องของ Software Best Practice ต่างๆนะครับ อันนี้จะเป็นตัวอย่างให้เห็นนะครับว่าลักษณะการทำงานคือด้านขวาก็จะเป็นการเขียน pro ด้านซ้ายเนี่ยจะเป็น visualiz Data structure Model เราต้องการอย่างยกตัวอย่างเช่นออเดอร์นะครับในเคสนี้เราต้องการ Inventory Promotion ให้มัน Auto ขึ้นมาแล้วเราสามารถอย่างเช่นเรา Generate Data structure แล้วเราไม่พอใจเราให้ มันสามารถปรับเปลี่ยนได้ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นอะไรที่ทำให้ผู้พัฒนาเนี่ยไม่ได้จำเป็นต้องเข้าใจ Code แต่รู้ว่าสิ่งที่ออกมาเนี่ยมันคืออะไร คราวนี้ที่ มีวิดีโอสั้น ๆ นะครับอันนี้ก็จะเป็นแบบใน Part Mendix ที่ใช้ในการทำ Story เราก็มีการเอา AI มาใช้แทนที่ต้องไปนั่งเขียนแบบบรรยาย นู่นนั่นนี่อะไรอย่าง เงี้ยคือตัว AI bot เนี่ยมัน pretrain เพื่อที่ทำให้สามารถเขียน User Story Down มาเป็น อะไรต่าง ๆซึ่งตรงนี้จะช่วยประหยัดเวลาตอนที่เราวางแผนในการพัฒนาค่อนข้างเยอะ หรือ ต้องบอกว่า เอ่อ ถ้าเกิดเราต้องการที่จะสร้างตัว Application นะฮะเดี๋ยวให้ดูวิดีโอสั้นๆ นะครับเราสามารถที่จะกดสร้าง Application ถ้าเราบอกเรา จะใช้ ตัว MVP นะฮะตัว Application ตัวนึงขึ้นมาเราสามารถที่จะเขียน Describe นะครับแล้วก็ Upload ตัว spec ที่เราเขียนไว้ใน Word ใน PDF ต่าง ๆ อัปโหลดไปให้ทางตัว Maya Maya ชื่อ น้อง AI ของเรานะครับ Maya เนี่ยก็จะสามารถที่จะทำความเข้าใจ แล้วก็ Generate ทั้ง database structure ทั้งเว็บ UI ทั้งตัว Business Logic มองอย่าง คือแบบ Full automatic เลย แต่ต้องบอกว่าอันนี้จะช่วยทำให้ การ Initiate จาก Zero to something เนี่ยมันค่อนข้างเร็วนะครับอันนี้ก็จะเป็นเอ่อเทคนิคนึงที่ใช้ได้ นะครับหรือตอนนี้เราไปถึงขนาดว่าน้อง Maya AI เนี่ยตอนนี้เราเข้าใจแล้วอย่างเช่นเรา ใช้ หรือเราวาดบนกระดานอะไรต่างๆเนี่ยแล้ว Upload ภาพที่เราวาด UX UI เนี่ย Upload แล้วเขียนพร้อมให้ ให้ Maya บอกว่า อ่ะคุณช่วยแบบ Generate ตัว เอ่อหน้าจออันนี้ให้เราหน่อยโดยแบบ ตาม component เลย อันเนี้ยน้องก็ทำได้แล้วตอนนี้ก็นำไปสู่ในเรื่องของทั้งที่เป็นเอ่อ Business Logic หรืออะไรต่าง ๆนี้ได้หมด หรือต้องบอกว่าเราทำงาน ในหลายคนในทีมของเราอย่างเงี้ยเราสามารถให้ Maya ช่วยอธิบายว่าเอ้ยสิ่งที่สมมุติคุณเจ เขียนlogic มาแล้วแล้วผมอยากจะเข้าใจสรุปว่าเอ้ยเอ่อfunction นี้มันทำงานยังไง ช่วยสรุปให้หน่อยอันนี้ก็จะทำให้ความเข้าใจ ของตัว เอ่อโปรแกรมที่เราพัฒนา ร่วมกันเนี่ยง่ายขึ้นจะเห็นว่าอันนี้มันเป็นแค่ Gimic แบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ต้องบอกว่าทั้ง The Whole C เนี่ยตั้งแต่เริ่มต้นจนจบเนี่ยเรามี AI อยู่ทุกจุด ตัว Maya อยู่ทุกจุดเพื่อที่จะทำยังไงให้ 1 Developer Experience เนี่ยดีที่สุดง่ายที่สุดนะครับแล้วยัง แล้วก็มี Good Governance ครอบอยู่ด้วยเช่นเดียวกันนะครับ โอเค คราวนี้ไปต่อนิดนึงเมื่อกี้ผมจบในพาร์ทแล้วหวังว่าทุกท่านจะเห็นภาพว่าความแตกต่างระหว่างว่าเอ่อพวก coding ต่าง ๆ กับ Low Code ที่บวกกับ AI เนี่ยมันมีความต่างยังไงจะเห็นว่าแล้ว Audien ของเราเนี่ยเราไปได้ตั้งแต่ Professional Developer จนกระทั่ง non technical เพราะถ้าเกิดท่านใช้ ในการ สร้าง Software เช่น สร้าง Software เนี่ยยังไง Skill ของ Developer ก็ยังต้องสูงอยู่ดี แต่เราสามารถเข้าถึงกลุ่ม Developer ที่อาจจะไม่ได้มี Technical Skill สูงหรือมี Technical death เราสามารถที่จะเข้าไป ช่วยทำให้เค้าเนี่ยเอ่อมาเป็นผู้เอ่อสามารถ Contribute และสร้างเอ่อตัว Software ให้กับองค์กรท่านได้นะครับโอเคทีนี้เดี๋ยวเราไปใน Part ของที่เป็น Digital Solution ซึ่ง Part นี้ผมอาจจะไปแบบเร็วนิดนึงนะครับจะได้มีเวลาให้คุณเจอธิบายใน Part ของ Financial นะฮะ ซึ่งอย่างที่ผมเกริ่นไปเบื้องต้นนะครับว่าตอนนี้ทางบริษัทตอนนี้นะเราเอ่อเอ่อเปิดตลาดในกลุ่มของเอ่อกลุ่มทวงหนี้นะครับก็คือเรามี Debt Collection ที่เรามีการเอ่อได้ กับทางนะฮะตัว Product เนี่ยชื่อ โบลาเร่นะฮะ ซึ่งต้องบอกว่าเล่เนี่ยเป็นเอ่อcollection platform เรียกว่าเป็น All in one and end to end เลยนะครับซึ่งเราสามารถ กลุ่มลูกค้าพูดง่ายๆว่า Bank ขนาดใหญ่ จนไปถึง outsource agency ขนาดใหญ่ได้เหมือนกันนะครับแล้วก็ต้องบอกว่าเอ่อเอ่อ target ของเราเนี่ยจริง ๆ ต้องบอกว่าเราไม่ได้ Focus แค่ เราพูดถึงเรื่องของกลุ่มที่เป็นบัตรเครดิต ไปถึงเอ่อ agency หรืออะไรอย่าง เงี้ยนะครับที่จะต้องมีการเอ่อทวงหนี้นะครับซึ่งตัวระบบplatform เนี่ย สามารถเอ่อ Support ได้หมดเลยซึ่งในปีนี้เราก็มีปิดไปแล้วเอ่อ นะครับตอนนี้ระบบเอ่อใกล้ Go Live แล้วนะฮะแล้วตอนนี้เรามีอยู่ใน Line อยู่ อีกหลายเจ้าเหมือนกันที่ให้ความสนใจมาก ซึ่งโดยตัว Product เนี่ยมันก็จะประกอบเอ่อไปด้วยหลายส่วนแต่หลัก ๆ เลยก็จะเป็นในเรื่องของกระบวนการเอ่อ Collect เรามีระบบแบบมี Auto dialing นะครับมี collection strategy มีระบบ mobile app ที่สำหรับให้ กับ Field Service แล้วก็ vender management ในกรณีที่เราเป็น outsource agency และเราต้องมีเรียกว่าเอ่อรับบริการในการทวงหนี้เอ่อในหลากหลายลูกค้านะครับเราสามารถ Define เรื่องของ Data Residency isolate ใน Level เอ่อที่ต่ำที่สุดและปลอดภัยให้ลูกค้าของเอ่อOA หรือ outsource agency เนี่ยความมั่นใจได้ว่า Data ไม่ถูกกับอีกเจ้านึงแน่นอนนะครับมีการแบ่งข้างในนะฮะฉะนั้น ต้องบอกว่าเร่เนี่ยเป็นcollection ที่เป็นgrade นะครับเป็น end to end feature function เนี่ยครบมาก ๆ นะฮะแล้วก็สามารถที่จะ ต้องบอกว่าที่ใหญ่สุดที่ทาง Product เราเคยทำเนี่ยประมาณ 3,000 ด้วยกันนะครับก็คิดว่าเอ่อน่าจะใหญ่มันใหญ่มาก ๆ ครับถ้าพูดถึงเรื่องของ Center นะฮะ ส่วนตัวที่สองก็จะเป็นเรื่องของตัว reentry นะครับก็ผมเคยเกริ่นไปแล้วซึ่ง reentry เนี่ยจะมาตอบโจทย์ในเรื่องของเอ่อความต้องการของที่จะไปใช้ในองค์กรและยัง ในเรื่องของ Data Residency และ Data Privacy ของท่านให้อยู่ในองค์กรนะครับแล้วก็ ประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายด้วยท่านไม่จำเป็นต้องไปเสียเอ่อ ท่านสามารถซื้อเป็น แล้วสามารถให้ทุกคนในองค์กรสามารถใช้งานได้ Concept ของมันง่าย ๆ เลยก็คือ 1 คุณสามารถ Train ตัว knowledge ของตัวเองเอ่อด้วยตัวเองได้ไม่ว่าจะเป็น File รูปแบบไหนไม่ว่าจะเป็น PDF เป็น Word เป็น ตอนนี้เรารองรับอยู่ประมาณ 80 Format ผมคิดว่าในตลาดคงยังไม่ได้มีใครที่รองรับจำนวน Format มากขนาดนี้ even ตัวเอ่อ ตัว AI ก็ตามนะครับหลังจากนั้นเมื่อเอาเข้าตัวระบบแล้วเนี่ยเราสามารถเลือกได้ว่าเราอยากต้องการใช้ อะไรนะครับสามารถทำ เอาไปทำ analysis นะครับทำ knowledge ก็คือเชื่อมกับฐานข้อมูลหลักบ้านท่านก็ได้หรือทำcontent creation หรือจะออก ไปเชื่อมกับตัวระบบ channel ที่เป็นโม อะไรต่าง ๆ ของท่านได้อีกนะฮะ ส่วนในเรื่องของส่วนในเรื่องของตัว cyber security นะครับก็คือตัว Watch Tower ซึ่งอันเนี้ยเป็นตัว นะครับซึ่งอันนี้เราก็เริ่มเริ่มทำตลาดนะฮะเราเริ่มมีปิดเอ่อ ได้นะฮะแล้วก็ต้องบอกว่าเริ่ม ๆ มี action เริ่มเห็นความต้องการของลูกค้าอันนี้ก็ไปต่อนะฮะส่วนเรื่องของตัว ก็เช่นเดียวกันอย่างที่ผมเรียนก็คือกลุ่มลูกค้าของเราที่เอ่อมีความต้องการที่พัฒนา Mobile App แล้วต้องการอยากให้ Mobile App เนี่ยมีความปลอดภัยสูงนะครับเอ่อ สามารถตอบโจทย์ทันได้นะครับเราในในตัว เองเนี่ยแบ่ง 3 ตัว ย่อยด้วยกันก็คือ 1 ตัว สแกนคือพูดง่าย ๆ ว่า Developer ท่านพัฒนาเอ่อ Mobile App ขึ้นมาท่านอาจจะไม่ได้มีองค์ความรู้ security ท่านสามารถเอาตัว Mobile App ที่พัฒนามาแล้วเนี่ยให้สแกนสแกนเราจะออก Report เลยตาม security standard ไม่ว่าจะเป็นแบบ Top 10 อะไรต่าง ๆ ก็ตามหลังจากนั้นเราก็จะมีซึ่งเนี้ยจะทำการ ก็คือ Code ที่เขียนมาเราจะทำเพื่อให้ไม่เกิดการเรียกว่า Reverse Engineer ไปแก้ไข Code ได้ทำได้แล้วก็เอ่อสามารถ นะครับทำให้ระบบเนี่ยมันปลอดภัยส่วนอันสุดท้ายที่เป็น Highlight เลยก็คือเรื่องของ เราสามารถmonitor Application ที่ถูกstall ไปกับลูกค้าของท่านได้นะครับว่าพฤติกรรมยังไงว่าโทรศัพท์ลูกค้าถูก ไหมถูกrouting มั้ยอะไรต่าง ๆ นะครับทำให้ท่านสามารถปรับปรุงการให้บริการหรือ Security Service ให้กับลูกค้าได้ด้วยเช่นเดียวกัน นะครับ โอเคอันนี้ก็คือจบแล้วในฝั่งของ Product นะครับต้องบอกว่าถ้าท่านใดสนใจอยากรู้รายละเอียดไรเงี้ยก็สามารถติดต่อบริษัทได้นะครับทีนี้ผมขออนุญาตอธิบายให้นักลงทุนท่านอีกทีนึงว่าการให้บริการของเนี่ยเอ่อเราประกอบไปด้วยอะไรบ้างผมขออนุญาตแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ในกลุ่มแรกเนี่ยจะเป็นเรื่องของ Digital Solution and Technology Consultant หรือถ้าการรับรู้รายได้ก็จะเป็นแบบ one off นะครับ ส่วนในกลุ่มที่สองนะครับก็จะเป็นกลุ่ม ที่เป็น แล้วก็ อันเนี้ยจะเป็นลักษณะ Subscription แล้วก็เป็น revenue นะครับ ซึ่งในกลุ่มแรกเนี่ยเอ่อข้อ 1 และข้อ 2 เนี่ยลักษณะจะเป็นการให้บริการ และชาร์จลูกค้าตามเอ่อ ต่าง ๆส่วนในกลุ่มที่สองไม่ว่าจะเป็น หรืออะไรต่าง ๆ ทุกตัวของเราเป็น revenue เอิ่มทางบริษัทเราไม่มีการขายที่เป็นลักษณะเป็น perpetual นะครับของเราเป็นเอ่อ

โพสต์ล่าสุด