WINNER Group เผยผลประกอบการ Q2/2566 โตต่อเนื่อง พร้อมลุยขยายตลาดและพัฒนาสินค้าใหม่

P/E 9.07 YIELD 7.50 ราคา 2.00 (0.00%)

WINNER Group เผยผลประกอบการ Q2/2566 โตต่อเนื่อง พร้อมลุยขยายตลาดและพัฒนาสินค้าใหม่

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566, WINNER Group ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการรับโอนกิจการทั้งหมดจาก Aesthetic Secret (ASC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย, และการจำหน่ายเงินลงทุนทั้งหมดใน Winner Agro Innovation (บริษัทร่วม)

บริษัทฯ ยังได้รับรองมาตรฐานสากลด้านกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัย (ISO 22000 และ FSSC 22000)

รายได้รวมใน Q2/2566 อยู่ที่ 590.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6%.

รายได้รวมครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,165.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.5%.

กำไรขั้นต้นใน Q2/2566 อยู่ที่ 125.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.8% (อัตรากำไรขั้นต้น 21.5%).

กำไรขั้นต้นครึ่งปีแรกอยู่ที่ 250.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5% (อัตรากำไรขั้นต้น 21.7%).

กำไรสุทธิใน Q2/2566 อยู่ที่ 28.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.9%.

กำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 64.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69.5%.

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทฯ มุ่งเน้นขยายตลาดใน 3 กลุ่มหลัก:

  1. Food Industry (กลุ่มอาหาร)
  2. Diversify Industry (กลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย)
  3. Beauty and Healthcare (กลุ่มความงามและสุขภาพ)

บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจด้านอาหาร สุขภาพ และความงาม, และมีพันธกิจในการส่งมอบผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่มีคุณภาพและยั่งยืน

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

บริษัทฯ เผชิญความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในครึ่งปีหลัง, ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

ราคาผงโกโก้มีความผันผวนและยังมีปัญหาด้านซัพพลาย

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทฯ มีการทำสัญญาซื้อขายสินค้าล่วงหน้า (contract) กับลูกค้าในครึ่งปีหลัง เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาผงโกโก้

บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายและ Balance ใน 3 กลุ่มหลัก, เพื่อลดผลกระทบจากความเสี่ยงในแต่ละกลุ่ม

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทฯ ตั้งเป้าที่จะขยายตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มอาหาร, อุตสาหกรรมที่หลากหลาย, และความงามและสุขภาพ

บริษัทฯ จะพัฒนา strategic sourcing เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ามีคุณภาพและสามารถแข่งขันได้

บริษัทฯ จะ drive solution ต่างๆ, customer focus, และ data-driven มากขึ้น

บริษัทฯ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานผ่านการใช้เทคโนโลยีต่างๆ (WMS, Smart Production Monitoring System)

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและมีความรับผิดชอบต่อสังคม, โดยมีการ empower และ upskill พนักงาน, พัฒนาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ health และ wellbeing, และจัดการ supply chain ที่มีความยั่งยืน

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [00:22:12]

แนวโน้มรายได้และกำไรปกติในครึ่งปีหลัง

ผู้บริหารเชื่อมั่นว่าในครึ่งปีหลังยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้ไม่น้อยกว่าในครึ่งปีแรก เนื่องจากสินค้ามีความหลากหลายในกลุ่ม Food, Diversify, และ Beauty & Healthcare

แนวโน้มกำลังซื้อของลูกค้า B2B ในส่วน Food Ingredient

B2B แบ่งเป็น 2 ช่องทาง: Food Industry (โรงงานอุตสาหกรรม) และ Food Service (Horeca, Bakery Chain, QSR).

Food Industry ยังมีการเติบโตเนื่องจากมีการผลิตทั้งเพื่อบริโภคในประเทศและส่งออก.

Food Service อาจได้รับผลกระทบจาก low season ของการท่องเที่ยวใน Q3 แต่ยังมีช่องทางใน Bakery Chain และ QSR ที่ยังเติบโตและขยายสาขา.

ผลประโยชน์จากภาษีนำเข้าสินค้าจาก USA 0%

บริษัทฯ ได้ติดตามเรื่องนี้กับกรมศุลกากร แต่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยรายละเอียดพิกัดอัตราภาษีอย่างละเอียด.

บริษัทฯ ได้ทำแผนเชิงรุกโดย list สินค้าที่นำเข้าปัจจุบันและสินค้าที่มีศักยภาพที่จะนำเข้ามาทำตลาด.

ปัจจุบันมีการนำเข้าจากสหรัฐฯ ประมาณ 15-20%.

ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม

ไม่มีแล้ว เนื่องจากได้จำหน่ายเงินลงทุนไปหมดแล้วใน Q2.

แนวโน้มราคาผงโกโก้ใน Q3

ยังเป็นปัญหาด้าน supply และราคายังผันผวน แต่บริษัทฯ มีการติดตามสถานการณ์และทำงานใกล้ชิดกับ supplier ในมาเลเซีย.

บริษัทฯ ยังเชื่อว่าจะสามารถรักษายอดขายได้เนื่องจากได้ทำ contract สัญญาซื้อขายบุ๊คสินค้าล่วงหน้าแล้ว.

สรุป

WINNER Group ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในครึ่งปีหลังของปี 2566, โดยได้รับแรงหนุนจากความหลากหลายของสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่าย, รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ. บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับนวัตกรรม, เทคโนโลยี, และความยั่งยืน, เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว

โพสต์ล่าสุด