TVH: ขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยด้วยนวัตกรรมและเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 2568

P/E 6.26 YIELD 4.47 ราคา 9.40 (0.00%)

TVH: ขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยด้วยนวัตกรรมและเติบโตอย่างยั่งยืน ปี 2568

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยในปี 2567 มีเบี้ยประกันรวม 286,500 ล้านบาท เติบโตติดลบ 0.8% โดยประกันภัยรถยนต์มีสัดส่วนมากที่สุด 56.18% คิดเป็นเบี้ยประกัน 167,765 ล้านบาท รองลงมาคือประกันภัยเบ็ดเตล็ด, สุขภาพ และทรัพย์สิน

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 อุตสาหกรรมประกันวินาศภัยมีเบี้ยประกันรับรวม 144,466 ล้านบาท เติบโต 3.4% โดยประกันภัยรถยนต์ยังคงมีสัดส่วนสูงสุด 55.4% TVH มีส่วนแบ่งตลาดในประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ 4.3% อยู่ในอันดับ 8

TVH จดทะเบียนในรูปแบบบริษัทมหาชนจำกัดเมื่อปี 2565 โดยมีธุรกิจหลักคือธุรกิจประกันภัยภายใต้บริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) หรือ TVI ซึ่ง TVH ถือหุ้นใน TVI 98.94% ต้นปี 2568 บริษัท GR Management Thailand ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Itochu Corporation ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ TVI คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

ผลประกอบการปี 2567 TVH มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 7,566.1 ล้านบาท เติบโต 5.9% เมื่อเทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรมแล้วถือว่าเป็นการเติบโตที่สูงกว่า กำไรจากการรับประกันภัยและการลงทุนอยู่ที่ 1,542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.4% กำไรก่อนการรับประกันภัยเพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปี 2567 อยู่ที่ 1,126.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.7% จากปีก่อน กำไรสุทธิของปีอยู่ที่ 355.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า งบการเงินปี 2567 เป็นฉบับสุดท้ายที่ใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับเดิม (TFRS4) ปี 2568 มีการนำมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับใหม่ (ฉบับที่ 17 เรื่องสัญญาประกันภัย) มาใช้

หลักการสำคัญของมาตรฐานบัญชีฉบับนี้คือการประมาณการภาระผูกพันเป็นหนี้สินสัญญาประกันภัย และการรับรู้รายได้และค่าใช้จ่ายเมื่อมีการให้บริการ มีรายละเอียดหลักที่เปลี่ยนแปลงไปในการจัดทำงบการเงิน เช่น การใช้ Time Value of Money, ค่าปรับปรุงความเสี่ยง (Risk Adjustment), และการปันส่วนค่าใช้จ่ายต้นทุนการได้มาซึ่งกรมธรรม์ตามระยะเวลาความคุ้มครอง

รายได้จากการประกันภัยครึ่งปีแรกของปี 2568 อยู่ที่ 3,806.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% จากปีก่อน สูงกว่าเบี้ยรับของอุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้น 3.4% ผลการดำเนินงานการบริการประกันภัยและรายได้จากการลงทุนและค่าใช้จ่ายทางการเงินจากสัญญาประกันภัยสุทธิอยู่ที่ 543.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% แม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่การประกันภัยประเภทอื่นๆ ยังเติบโตได้ดี

ครึ่งปีแรก ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอื่นอยู่ที่ 239.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า กำไรสุทธิอยู่ที่ 254.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8% จากปีก่อนหน้า

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

TVH วางรากฐานการเติบโตบน 5 กลยุทธ์หลัก: ยกธุรกิจประกันภัยด้วยนวัตกรรม (Core Insurance), สร้าง Ecosystem, ให้ความสำคัญกับสังคม (Social), ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต (Future), และพัฒนาบุคลากร (People)

การยกธุรกิจประกันภัย (Core Insurance) ด้วย Hyper-Personalization และ Automation โดยเปลี่ยนมุมมองจากการขายกรมธรรม์แบบ One-Size-Fits-All ไปสู่การสร้างประสบการณ์ประกันภัยที่เข้าใจและตอบแทนพฤติกรรมเฉพาะตัวของลูกค้า ตัวอย่างเช่น ประกันรถเปิดปิด ซึ่งคิดเบี้ยประกันตามเวลาที่ลูกค้าใช้รถจริง ทำให้ลูกค้าประหยัดค่าเบี้ยได้สูงสุดถึง 80% และฟีเจอร์ "รถติดไม่คิดเบี้ย" (No Premium in Traffic)

การสร้าง Ecosystem ผ่านเครือข่ายพันธมิตร เพื่อมอบประสบการณ์และสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่าแค่ความคุ้มครองประกันภัย การยกระดับประสบการณ์การเคลมให้เป็นมาตรฐานใหม่ และการมอบสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น บริการ Thai Wivat Parking สำหรับประกันรถยนต์ และเครือข่าย Wellness Partner สำหรับประกันสุขภาพ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

เหตุการณ์แผ่นดินไหวส่งผลให้มี Loss ที่สูงขึ้นในเรื่องประกันภัยทรัพย์สิน

ยอดขายรถยนต์ใหม่ที่ลดลงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

TVH มีการจัดการความเสี่ยงที่ค่อนข้างทำได้ดี มีการสร้างทีมเฉพาะกิจขึ้นมาจัดการเคลมจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และร่วมมือกับทีมสินไหมทรัพย์สินและทีมนวัตกรรมเพื่อสร้างระบบให้ลูกค้าสามารถส่งเคลมทรัพย์สินทางออนไลน์ได้

TVH พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกในการเข้าถึงเบี้ยประกันที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น และขยายช่องทางการขายไปยัง Modern Trade และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

การใช้ AI และ Machine Learning เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

TVH มุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีแห่งอนาคต (AI, การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์) ในการขับเคลื่อนธุรกิจ และพัฒนาบุคลากรให้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ

TVH คาดหวังที่จะสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า ผู้ถือหุ้น และสังคมต่อไปในอนาคต และยังคงมุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีความเท่าเทียมกัน

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 42:08]

  1. ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
    • คำถาม: หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว บริษัทเห็นความเชื่อมโยงของแนวโน้มความต้องการการทำประกันภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญหรือไม่
    • คำตอบ: เหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็น Challenge ของบริษัทในปีนี้ จะมี Loss ที่สูงขึ้นในเรื่องประกันภัยทรัพย์สิน แต่บริษัทมีการจัดการความเสี่ยงที่ค่อนข้างทำได้ดี และเป็นโอกาสให้บริษัทสร้างทีมเฉพาะกิจขึ้นมาจัดการเคลม และพัฒนาระบบให้ลูกค้าสามารถส่งเคลมทรัพย์สินทางออนไลน์ได้ ตระหนักถึงความเสี่ยงในเรื่องของบ้านอยู่อาศัย และเป็นโอกาสการเติบโตของประกันภัยด้านทรัพย์สิน
  2. ความคาดหวังในการร่วมมือกับ Itochu
    • คำถาม: คาดหวังอะไรบ้างกับการร่วมมือกับ Itochu
    • คำตอบ: Itochu เป็นบริษัทขนาดใหญ่ด้านการลงทุนและเทรดดิ้งของญี่ปุ่น มีเครือข่ายที่กว้างขวาง จะเปิดโอกาสให้บริษัทนำเสนอสินค้าด้านประกันภัยให้เข้าถึงบริษัทที่ Itochu ลงทุนเอง บริษัทที่อยู่ในต้นน้ำและปลายน้ำของ Supply Chain และจูงใจให้บริษัทเหล่านั้นคัดเลือก TVH ในฐานะผู้รับประกันภัย
  3. การเพิ่มทุนบริษัทในลาว
    • คำถาม: การเพิ่มทุนบริษัทในลาว เป็นเพราะมองเห็นโอกาสการขยายตัวอย่างไร
    • คำตอบ: การเพิ่มทุนเป็นไปตามกฎหมายของ สปป.ลาว ที่มีการปรับปรุงระเบียบกฎหมายให้บริษัทประกันภัยต้องมีทุนจดทะเบียนที่ใหญ่ขึ้น การขยายตลาดใน สปป.ลาว ขึ้นอยู่กับการบริหารความเสี่ยง ซึ่งบริษัทเข้าไปมีส่วนร่วมกับบริษัทลูก วิวัฒน์ประกันภัย ในการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
  4. ผลกระทบของมาตรฐาน TFRS17 ต่อ Loss Ratio
    • คำถาม: ด้วยมาตรฐาน TFRS17 ทำให้อัตราส่วน Loss Ratio ต่างไปจากอดีตอย่างไร
    • คำตอบ: มาตรฐานบัญชี TFRS17 จะมีการคำนวณค่าสินไหมทดแทนต่างไปจากเดิม โดยมีการเพิ่มค่าปรับปรุงความเสี่ยงเข้าไป เพื่อสะท้อนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับจำนวนเงินที่บริษัทอาจจะต้องจ่ายออกในอนาคต ในขณะเดียวกันก็จะมีการคิดลดค่าสินไหมทดแทนกลับมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน
  5. การทำธุรกิจของ TVH นอกเหนือจากการประกัน
    • คำถาม: การตั้ง TVH บริษัทมีมุมมองในการทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง หรือธุรกิจนอกจากการประกันอย่างไรบ้าง
    • คำตอบ: เป็นไปตามหนังสือชี้ชวนที่ยื่นจดทะเบียนบริษัท TVH เข้าไปในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากบริษัทประกันภัยไทยวิวัฒน์มีสินทรัพย์บางส่วน ซึ่งปัจจุบันมี พ.ร.บ.ประกันวินาศภัยควบคุมการบริหารจัดการ จึงมีการแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็น TVH ซึ่งสามารถสร้างรายได้จากสินทรัพย์ส่วนที่เหลือที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.ประกันวินาศภัย
  6. รายได้สุทธิจากสัญญาประกันภัยต่อ
    • คำถาม: รายได้สุทธิจากสัญญาประกันภัยต่อที่ถือไว้คืออะไร และเหตุใดมีความผันผวนมากเมื่อเทียบกับปีก่อน
    • คำตอบ: รายการนี้คือรายการสุทธิที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยต่อทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยประกันภัยต่อออก ค่าบำเหน็จรับ และค่าสินไหมที่จะได้รับคืนจากบริษัทประกันภัยต่อ เหตุผลที่ตัวเลขเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับปีก่อน คือมีสินไหมรับคืนจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
  7. กำไรตามมาตรฐาน TFRS17 ในปี 2567
    • คำถาม: ภายใต้มาตรฐาน TFRS17 ปี 2567 มีกำไรเท่าไหร่ แบ่งเป็นส่วนการลงทุนและรับประกันภัยเท่าไหร่
    • คำตอบ: มีสัดส่วนกำไรจากการรับประกันภัย 83% และจากการลงทุน 17%
  8. ผลกระทบของเหตุการณ์แผ่นดินไหวต่อค่าสินไหม
    • คำถาม: บริษัทมีค่าสินไหมจากเหตุแผ่นดินไหวสุทธิใน Q2 เป็นจำนวนเท่าไหร่ และยังมีผลใน Q3 อีกหรือไม่
    • คำตอบ: บริษัทได้รับผลกระทบอย่างจำกัด เนื่องจากกรมธรรม์ที่บริษัทรับประกันภัยส่วนใหญ่เป็นกรมธรรม์ประเภทบ้านอยู่อาศัย ซึ่งมี Sublimit มูลค่าความคุ้มครองไม่เต็มทุน และบริษัทมีการทำประกันภัยต่อไว้เพื่อรองรับความเสี่ยง
  9. เหตุผลที่กำไรจากการประกันภัยปีนี้ทำได้ดี
    • คำถาม: เหตุใดกำไรจากการประกันภัยปีนี้ทำได้ดีมาก เมื่อเทียบกับปีก่อน
    • คำตอบ: Loss Ratio ของบริษัทดีขึ้น เนื่องจากการทำ Data Analytics อย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ดีขึ้น
  10. แนวทางการเติบโตในอนาคต
    • คำถาม: บริษัทมีการวางแผนแนวทางการเติบโตในอนาคตอย่างไรบ้าง
    • คำตอบ: ขยายผลิตภัณฑ์ Non-Motor, พัฒนาช่องทางการขายใหม่ๆ เช่น Modern Trade และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ, จัดแคมเปญการตลาดเพื่อสื่อสารกับลูกค้า และพัฒนาอัตราการต่ออายุ
  11. การเติบโตของธุรกิจประกันเบ็ดเตล็ด
    • คำถาม: ส่วนธุรกิจประกันเบ็ดเตล็ดเหตุใดถึงเติบโตขึ้นมากในปีนี้
    • คำตอบ: ลูกค้ามีความตระหนักถึงสุขภาพมากขึ้น มีข่าวต่างๆ ออกมา และ Active Health เบี้ยเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และ Reward ให้คนที่ดูแลสุขภาพด้วยเบี้ยที่ต่ำลง มีผลิตภัณฑ์ประกันมะเร็ง และบ้านอยู่อาศัย เติบโตเช่นเดียวกัน

โดยสรุป, TVH มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจประกันภัยด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี, สร้างความยั่งยืนผ่านการให้ความสำคัญกับสังคม, และพัฒนาบุคลากรให้เป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ กลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้บริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต

โพสต์ล่าสุด