บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

MGC Asia: ฝ่าคลื่นลมตลาดรถยนต์ปี 2568 สู่ผู้นำ Lifestyle Mobility Ecosystem

MGC Asia: ฝ่าคลื่นลมตลาดรถยนต์ปี 2568 สู่ผู้นำ Lifestyle Mobility Ecosystem

คุณสุนทร ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGCA เอเชีย หรือ Millennium Group Corporation เอเชีย Public Company Limited ได้ให้ข้อมูลในการประชุม Oppday ในวันที่ 26 สิงหาคม เกี่ยวกับผลประกอบการและวิสัยทัศน์ของบริษัท

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากและการแข่งขันสูงขึ้น เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามามากขึ้นและการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่หลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ในขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ แต่จำนวนผู้ขายกลับเพิ่มขึ้น

• ยอดรายรับรวมลดลงประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (ปี 2567)
• กำไรลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วง Q2 ของปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเติบโตถึง 60% ในช่วงครึ่งปีแรก ในขณะที่รถยนต์ Combustion Engine ยังคงตกต่ำต่อเนื่องประมาณ 12% แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มให้การยอมรับและหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

สัดส่วนรายได้:

• Mobility Retail Business (การขายรถ): ประมาณ 70%
• After Sales Service: ประมาณ 20%
• ภาคบริการและอื่นๆ: ประมาณ 10%

สัดส่วนกำไร:

• Mobility Retail: 12.5%
• Recurring Income (ธุรกิจบริการหลังการขาย): 50%
• ธุรกิจภาคบริการ (รถเช่า): 34%
• ธุรกิจอื่นๆ: 4%

แม้รายได้และกำไรจะลดลงเล็กน้อย แต่บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น ทำให้มีอัตราการเติบโตของกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 10% โดยมี EBITDA ในช่วง Q2 อยู่ที่ประมาณ 863 ล้านบาท

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

บริษัทเน้นการเป็นผู้นำในเรื่อง Lifestyle Mobility Ecosystem ตั้งแต่การซื้อรถ เช่ารถ ซื้อรถใหม่ ซื้อรถเก่ามือสอง พร้อมรับประกัน รวมไปถึงบริการหลังการขาย ธุรกิจรถเช่าระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว บริหาร Outsource ในส่วนของธุรกิจขนรถ และธุรกิจบริการหลังการขาย Independent อิสระภายใต้ MMS รวมไปถึงธุรกิจบริการซ่อมสีตัวถัง และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทางการเงิน (Wealth Lending จาก Alpha X และ Howden Maxi)

โอกาสสำคัญคือการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งบริษัทได้เตรียมการมาเป็นอย่างดีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีการขยายธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าให้สอดคล้องกับปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนใหม่ที่เพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่าในปี 2568 รถยนต์ไฟฟ้าจะเติบโตขึ้นไปถึง 100,000 คัน

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

ความเสี่ยงหลักคือการแข่งขันที่สูงในตลาดรถยนต์และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่รวดเร็ว

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

บริษัทปรับตัวโดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นวัตกรรมที่แตกต่างและโดดเด่น รวมถึงความคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภคทุกราย นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตขึ้นกว่า 10% จากปีที่ผ่านมา และยังคงเป้าหมายเดิมในการเป็นผู้นำในเรื่อง Lifestyle Mobility Ecosystem โดยให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าและบริการที่เกี่ยวข้อง

มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการพัฒนาขีดความสามารถและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน รวมถึงการสร้างแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลอัปเดต Real-time มากขึ้น และใช้เป็นเครื่องมือในการตัดสินใจของผู้บริหาร

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่มที่นาที 36:00]

1. **ชื่อหัวข้อ:** การเข้าถือหุ้น Nio Mobility Asia

   คำถาม: การเข้าถือหุ้น Nio Mobility Asia จะส่งผลต่อรายได้และกำไรของ MGC Asia อย่างไร?

   คำตอบ: การเข้าถือหุ้น 100% ใน Nio Mobility Asia จะทำให้ MGC Asia สามารถรับรู้รายได้ 100% จากบริษัทนี้ ซึ่งรวมถึงแบรนด์ Xpeng และ Seeker คาดว่าจะส่งผลดีต่อรายได้และกำไรใน Q3 และ Q4 ของปี 2568

2. **ชื่อหัวข้อ:** แผนการเติบโตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

   คำถาม: MGC Asia มีแผนการอย่างไรในการเติบโตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า?

   คำตอบ: บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายและครบวงจร รวมถึงการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด

3. **ชื่อหัวข้อ:** ผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว

   คำถาม: เศรษฐกิจชะลอตัวมีผลกระทบต่อธุรกิจของ MGC Asia อย่างไร และบริษัทมีมาตรการรับมืออย่างไร?

   คำตอบ: บริษัทให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้านเครดิตอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างรายได้จากธุรกิจบริการหลังการขายและธุรกิจอื่นๆ ที่มีความมั่นคง

4. **ชื่อหัวข้อ:** การลงทุนในเทคโนโลยี

   คำถาม: MGC Asia มีแผนการลงทุนในเทคโนโลยีอย่างไรบ้าง?

   คำตอบ: บริษัทจะลงทุนในเทคโนโลยี AI เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มและเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานและผู้บริหาร รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

5. **ชื่อหัวข้อ:** กลยุทธ์การตลาดและส่งเสริมการขาย

   คำถาม: MGC Asia มีกลยุทธ์การตลาดและส่งเสริมการขายอย่างไรในช่วงที่เหลือของปี?

   คำตอบ: บริษัทจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง เช่น Amazing Nine ในเดือนกันยายน และกิจกรรมอื่นๆ ในเครือ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างการรับรู้แบรนด์ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าผ่านโปรแกรม Loyalty ต่างๆ

โดยสรุป MGC Asia เผชิญกับความท้าทายจากตลาดรถยนต์ที่มีการแข่งขันสูงและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่บริษัทก็มีโอกาสในการเติบโตจากตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง โดยมีการปรับตัวและลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง