สรุป Oppday หุ้น TOP: มองหาโอกาสเติบโตในตลาดผันผวน ปี 2568

P/E 5.36 YIELD 5.31 ราคา 35.75 (0.00%)

สรุป Oppday หุ้น TOP: มองหาโอกาสเติบโตในตลาดผันผวน ปี 2568

สรุปผลการดำเนินงานและแนวโน้มธุรกิจของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2568 และครึ่งปีแรก รวมถึงวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของบริษัทในการเผชิญกับความท้าทายและความผันผวนของตลาด

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ผลกระทบเชิงบวก:

  • GRM (Gross Refining Margin) ปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอยู่ในระดับที่ดี
  • Market GRM ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 5.2 เหรียญต่อบาร์เรล จาก Product Spread ที่สูงขึ้น
  • Contribution จากกลุ่ม Aromatics และ Lube Base ยังอยู่ในระดับที่ดี

ผลกระทบเชิงลบ:

  • ราคา Crude Oil ปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ส่งผลกระทบต่อ Stock น้ำมัน และทำให้เกิด Stock Loss
  • มาตรการภาษีตอบโต้ระหว่างสหรัฐฯ และจีน กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และ Demand น้ำมัน

ตัวเลขทางการเงินที่สำคัญ:

  • กำไรสุทธิไตรมาส 2: 6,476 ล้านบาท
  • Stock Loss: 4.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (เทียบกับไตรมาสแรกที่ 1.1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล)
  • Market GRM ครึ่งปีแรก: 4.3 ดอลลาร์
  • Stock Loss ครึ่งปีแรก: 1.6 ดอลลาร์
  • GRM ไตรมาส 2 (รวม contribution จาก Aromatics, LAB, Lube Base): 7 ดอลลาร์
  • GRM ครึ่งปีแรก (รวม contribution จาก Aromatics, LAB, Lube Base): 6.2 ดอลลาร์

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

  • การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านบริษัทลูก Top Next ในภูมิภาคต่างๆ เช่น อินเดีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, ออสเตรเลีย
  • การขายผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง (Specialty Products) ไปสู่ตลาดภูมิภาคมากขึ้น
  • การลงทุนในธุรกิจที่ปล่อย Carbon ต่ำ และพลังงานในรูปแบบใหม่ เช่น การผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ (SAF), Hydrogen, CCS

กลยุทธ์:

  • 2S1P Strategy:
    1. Strengthening the Core: มุ่งเน้นธุรกิจปัจจุบัน, ใช้ประโยชน์จาก Assets, เป็นผู้นำด้านปิโตรเคมีในไทยและภูมิภาค
    2. Powering Platform: ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย, สร้างตลาดให้แข็งแกร่งขึ้น
    3. Sustaining the Future: ธุรกิจในอนาคต, Specialty Chemicals, ธุรกิจปลายน้ำมากขึ้น

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

  • ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ
  • สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
  • มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อ Supply Chain
  • การปิดตัวของโรงกลั่นน้ำมันในยุโรปและอเมริกา

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

  • ลดหนี้สินเพื่อรักษาอันดับความน่าเชื่อถือ (Investment Grade)
  • บริหารจัดการ Supply Chain อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • การวางแผนกลยุทธ์และทบทวนทุกปี (ปรับจาก 3V เป็น 2S1P)

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

  • แนวโน้มราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวนจากกำลังการผลิตของ OPEC
  • คาดการณ์ว่า Market GRM ในช่วงครึ่งปีหลังจะ Soft ลงเล็กน้อย
  • บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจ S2 (ธุรกิจ High Margin, Carbon ต่ำ) และ P (Powering Platform) เป็น 20% ภายในปี 2578
  • เป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 15% จากปีฐาน 2562 ภายในปี 2578

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 51:52]

เงินปันผลระหว่างกาล:

  • Q: บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลหรือไม่ และเมื่อไหร่จะมีการประกาศ?
  • A: บริษัทมีประวัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยปกติจะพิจารณาจ่ายในเดือนกันยายน นักลงทุนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

โครงการ CFP:

  • Q: โครงการ CFP มีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว? มีโอกาสที่จะ Startup ก่อนได้รับการอนุมัติจาก EGM หรือไม่?
  • A: บริษัทได้ว่าจ้าง EPCM แล้ว และกำลัง Handover งานจากผู้รับเหมาเดิมไปยังผู้รับเหมารายใหม่ มีแผนที่จะว่าจ้างผู้รับเหมาเพิ่มเติมเพื่อให้การก่อสร้างเป็นไปตามแผน คาดว่าจะแล้วเสร็จตามที่ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้ (ไตรมาส 3 ปี 2571)

โรงงานปิโตรเคมีเกาหลีใต้ลดกำลังการผลิต:

  • Q: โรงงานปิโตรเคมีในเกาหลีใต้ลดกำลังการผลิต จะเป็นผลดีต่อบริษัทหรือไม่?
  • A: เป็นผลดี เพราะจะช่วยลดอุปทานในตลาด ทำให้ธุรกิจปิโตรเคมีของ TOP มี Upside แต่ต้องใช้เวลาในการ Implement นโยบาย

พันธมิตรทางธุรกิจ (Strategic Partnership):

  • Q: มีความคืบหน้าเกี่ยวกับพันธมิตรที่จะมาร่วมถือหุ้นหรือไม่?
  • A: เป็นกลยุทธ์ของกลุ่ม ปตท. (โครงการ Genesis) เพื่อ Strengthen ธุรกิจ Downstream ขณะนี้อยู่ในช่วงหา Strategic Partner และคาดว่าจะ Closing Deal ได้ภายในปี 2569

แนวโน้ม GRM ในไตรมาส 3:

  • Q: แนวโน้ม GRM ในไตรมาส 3 เป็นอย่างไร?
  • A: อาจ Soft ลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 แต่ภาพรวมครึ่งปีหลังยังคงเป็นบวกมากกว่าครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากโรงกลั่นที่ปิดตัวลง

แผนลดหนี้และออก Perpetual Bond:

  • Q: บริษัทมีแผนลดหนี้หรือไม่ และมีแผนออก Perpetual Bond หรือไม่?
  • A: บริษัทมุ่งมั่นที่จะรักษาระดับความน่าเชื่อถือและลดหนี้สิน โดยจะพิจารณาสภาพตลาดเพื่อลดหนี้เพิ่ม ส่วน Perpetual Bond เป็นการหา Funding สนับสนุนโครงการ CFP โดยจะออกเมื่อตลาดเอื้ออำนวย

งบลงทุน (CAPEX):

  • Q: การวางแผนงบลงทุนในปีนี้และที่เหลือของปีเป็นอย่างไร?
  • A: หลักๆ มาจากโครงการ CFP โดยมีเงินที่ต้องใช้อีกประมาณ 2,500 ล้านเหรียญ แต่เมื่อหักลบกับเงินประกันผลงานและรายได้จากโครงการอื่นๆ แล้ว จะมีเงินที่ต้องการใช้อยู่ 1,800 ล้านเหรียญ โดยจะมาจาก Operation และ Funding ใน New Hybrid Instrument

โดยสรุป ไทยออยล์เผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของตลาด แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตและสร้างผลกำไร โดยใช้กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นและปรับตัวตามสถานการณ์

โพสต์ล่าสุด