บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TEKA โชว์ Backlog แน่น 3.3 พันล้าน! เล็งประมูลงานใหม่ดันผลงานปี 2568 โตต่อเนื่อง
P/E 8.65 YIELD 9.12 ราคา 1.70 (0.00%)
TEKA โชว์ Backlog แน่น 3.3 พันล้าน! เล็งประมูลงานใหม่ดันผลงานปี 2568 โตต่อเนื่อง
สวัสดีท่านนักลงทุนทุกท่าน วันนี้เป็น Oppday ของบริษัท ทีฆาก่อสร้าง จำกัด ที่จะมารายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2568
การนำเสนอในวันนี้แบ่งเป็น 5 ส่วนหลักๆ:
- ภาพรวมธุรกิจของบริษัท ทีฆาก่อสร้าง
- ความคืบหน้าในงานก่อสร้างของโครงการต่างๆ
- ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
- แผนธุรกิจในปี 2568 ที่วางไว้
- คำถามและคำตอบ
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ทีฆาก่อสร้างดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้างเป็นหลัก โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นงานเอกชน พอร์ตส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมต่างๆ โดยมีกลุ่มลูกค้าเป็น Developer ชั้นนำ เช่น แสนสิริ, Noble, อนันดา, พฤกษา AP
ปัจจุบันพยายามกระจายพอร์ตงานก่อสร้างไปยังธุรกิจอื่นๆ ล่าสุดได้รับความไว้วางใจให้สร้างโรงเรียนนานาชาติ
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
ได้รับความไว้วางใจจากบริษัท แสนสิริ ให้สร้างคอนโดมิเนียมตัวใหม่ชื่อว่า ไวท์เดน ตรงถนนรางน้ำจิ มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 700 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 3 ปี 2568 และเริ่มรับรู้รายได้บางส่วนเข้ามา
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น
- โครงการ SQV51 เป็นคอนโดมิเนียม 22 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 380 ล้านบาท เริ่มงานก่อสร้างในไตรมาส 2
- โครงการ Reference เอกมัย เป็นไฮไลท์คอนโดมิเนียม 44 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 528 ล้านบาท
- โครงการ Standard Residence หัวหิน เป็นโครงการขนาดใหญ่ ประมาณ 640 ล้านบาท
- โครงการ Via สุขุมวิท 61 เป็นคอนโดมิเนียม Low-Rise 8 ชั้น มูลค่าโครงการประมาณ 270 ล้านบาท
- โครงการ Panorama บ้านอำเภอ เป็นอาคาร 5 ตึก มูลค่าโครงการประมาณ 728 ล้านบาท
- โครงการ Shoolers เทวี เป็นโครงการขนาดใหญ่ มูลค่าโครงการเกือบ 1,100 ล้านบาท
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
ภาวะเศรษฐกิจในปี 2568 ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง จากภาวะการเรื่องภาษี สงครามชายแดน ซึ่งส่งผลกระทบกับเรื่องแรงงานที่ใช้แรงงานต่างชาติ
ภาวะอสังหาที่อืดตัว กลุ่มอสังหาที่เป็นลูกค้าหลักมีผลประกอบการที่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
บริษัทพยายาม Recruit แรงงานสัญชาติอื่นๆ เช่น พม่า เข้ามาชดแทน
พยายาม Maintain กำไรขั้นต้นในเกณฑ์ที่ต้องการประมาณ 10%
ขยายงานประมูลในอุตสาหกรรมใหม่ๆ เช่น กลุ่มโรงเรียนนานาชาติ กลุ่มโรงพยาบาล อาคารพาณิชย์ต่างๆ
ควบคุมงบประมาณและบริหารจัดการต้นทุนอย่างเข้มงวด
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
คาดการณ์ว่าในไตรมาส 3 และ 4 ตัวเลขรายได้น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีงานโครงการใหม่ๆ เข้ามา
คาดว่ากลุ่มอสังหาจะเริ่ม Rebound ขึ้นมาได้ หากมีการลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยกลุ่มอสังหา
ควบคุมความเสี่ยงของบริษัท โดยขยายงานใน Sector อื่นๆ และควบคุมความเสี่ยงภายในองค์กร
บริษัทคอนเซิร์นในเรื่อง ESG โดยมีการตรวจสอบ Carbon Footprint และคัดแยกขยะในหน่วยงานต่างๆ
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [นาทีที่ 34:00]
-
คำถาม: ช่วงนี้งานที่เข้ามาใหม่คู่แข่งเยอะหรือไม่ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า จะทำยังไงให้กำไรไม่ตกลงเหมือนที่ผ่านมาอีก?
คำตอบ: คู่แข่งในตลาดมีจำนวนเท่าเดิม แต่เนื่องจากภาวะงานมีจำกัด ทำให้มีการแข่งขันเรื่องราคามากขึ้น บริษัทจึงปรับปรุงคุณภาพในการก่อสร้างให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าในราคาที่พอใจ แต่ได้คุณภาพที่ดีกว่า ทำให้เป็นตัวเลือกแรกๆ ของ Developer
-
คำถาม: ค่าแรงส่งผลให้กำไรลดลงเยอะหรือไม่? แล้ววัสดุก่อสร้าง เช่น ปูน เหล็ก ที่ขึ้นมามีผลกระทบกับกำไรเยอะหรือไม่?
คำตอบ: ค่าแรงที่ปรับขึ้น 400 บาท ยังไม่มีผลกระทบโดยตรง เพราะบริษัทอยู่ในเขตนอกกรุงเทพฯ แต่หากมีการปรับขึ้นจริง จะมีผลกระทบกับต้นทุนโดยรวมไม่เกิน 3-5% ซึ่งสามารถควบคุมได้โดยดึงงานเพิ่มหรือลด Budget ส่วนอื่นมาชดเชย
ส่วนเหล็กเส้นที่มีการ Rebound ขึ้นมาบ้าง บริษัทได้ Lock ราคาบางส่วนกับ Supplier ไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้ได้ราคาที่พอใจ และจะทำการ Bidding อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับกับงานที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น
-
คำถาม: แรงงานเขมรที่หายไปส่งผลกระทบกับเรายังไงบ้างไหม?
คำตอบ: มีผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการที่แรงงานกลับบ้านเกิด แต่บริษัทพยายาม Recruit แรงงานสัญชาติอื่นเข้ามาทดแทน และคาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า
หัวข้อคำถามและคำตอบ:
- การแข่งขันในตลาดรับเหมาก่อสร้าง
- ผลกระทบจากค่าแรงและวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น
- ผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงาน
โดยสรุป แม้ว่า TEKA จะเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ แต่บริษัทก็ยังคงสามารถรักษาผลการดำเนินงานให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจได้ ด้วยการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ การขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพงานก่อสร้าง