สรุป Oppday CFARM: ไตรมาส 2 ปี 2568 - โอกาสและความท้าทายในธุรกิจปศุสัตว์

P/E 28.34 YIELD 0.00 ราคา 0.80 (0.00%)

สรุป Oppday CFARM: ไตรมาส 2 ปี 2568 - โอกาสและความท้าทายในธุรกิจปศุสัตว์

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

CFARM ดำเนินธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ประเภทประกันราคาแบบมีสัญญาผูกพัน (Contract Farming) โดยเลี้ยงสัตว์ในระบบปิดที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น (โรงเรือนอีแวป) บริษัทลงทุนสร้างและปรับปรุงโรงเรือนรวมทั้งอุปกรณ์ทั้งหมด เมื่อได้ผลผลิตตามต้องการ จะขายส่งคืนให้โรงชำแหละของผู้สัญญาเพื่อแปรรูปต่อไป

บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ "เราคือผู้นำด้านปศุสัตว์ที่มุ่งเน้นคุณภาพด้วยมาตรฐานสากล เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน"

ลักษณะการประกอบธุรกิจหลัก: ไก่เนื้อเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิด ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นด้วยระบบเซ็นเซอร์ ปรับตามอายุไก่ มีระบบน้ำและอาหารอัตโนมัติ ช่วยลดจำนวนคนดูแล

รอบการเลี้ยง: 70-75 วันต่อรอบ ใน 1 ปีเลี้ยงได้ 4-5 รอบต่อฟาร์ม

ขั้นตอนการเลี้ยง:

  1. พักเล้า: ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรงเรือน 24-30 วัน

  2. เลี้ยง: รับลูกไก่ ให้อาหาร ยา วัคซีน 5-7 วันแรก สร้างภูมิคุ้มกัน เลี้ยงให้เติบโต 38-45 วัน

  3. ตรวจเช็คคุณภาพ: ภายนอก (อุ้งเท้า, ปีก, ขน, น้ำหนักตัว) ภายใน (ผ่าซากดูรอยโรค) ป้องกันการสูญเสีย

  4. จับ: สุ่มชั่งน้ำหนัก ประเมินก่อนส่งโรงชำแหละ

  5. ชั่งน้ำหนักก่อน-หลัง: ทราบน้ำหนักที่จับจริง ส่งโรงชำแหละ แปรูปต่อไป

ที่ตั้งฟาร์ม: จังหวัดบุรีรัมย์ 5 อำเภอ (ละหานทราย, ประโคนชัย, นางรอง, ลำปลายมาศ, ชำนิ) มี 8 ฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ, 121 โรงเรือน, กำลังผลิต 3 ล้านตัวต่อรอบ (15.8 ล้านตัวต่อปี)

มาตรฐานฟาร์ม: GAP (กรมปศุสัตว์), ISO 9001, ISO 14001, ISO 45001

Sustainability Development: บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อความยั่งยืน โดยอ้างอิงหลัก SDG ของ UN

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

โครงการไก่ไข่: มีความคืบหน้า 20% คาดว่าจะ Operate ได้ภายใน Q1 ปี 2569

เข้าร่วมโครงการ Zam Plus กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย: เพื่อพัฒนาบริษัทและสร้างกำไรที่ยั่งยืนในระยะยาว ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทแล้ว

เงินสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์: คาดว่าจะได้รับเงินสนับสนุน 5 ล้านบาท ช่วยลดต้นทุน Investment Cost

ขยายฐานลูกค้า: โดยการได้รับการรับรอง LQA เพื่อส่งออกไปยังตลาดสหราชอาณาจักรและยุโรป

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

โครงการฟาร์มวัวนม: ชะลอโครงการเนื่องจากสถานการณ์ราคา น้ำนมดิบตกต่ำ โรคระบาดในแม่วัว และข้อตกลงกับคู่ค้าร่วมยังไม่ลงตัว

การขาดแคลนลูกไก่: อาจมีการขาด Supply ลูกไก่ที่จะนำมาเลี้ยง

ความผันผวนของราคาขี้ไก่: มูลค่าขี้ไก่ลดลงตามฤดูกาลและคุณภาพ

สถานการณ์ความไม่สงบชายแดน: ฟาร์มที่อำเภอละหานทรายได้รับผลกระทบบ้าง แต่ไม่มากนัก

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

ชะลอโครงการฟาร์มวัวนม: มุ่งเน้นโครงการฟาร์มไก่ไข่เป็นหลัก

รับมือสถานการณ์ชายแดน: ปิดฟาร์ม พักเล้า ล้างทำความสะอาด

บริหารจัดการต้นทุน: ปรับปรุงประสิทธิภาพฟาร์มไก่เนื้อ (ระบบ Farm Management, Farm Online, IoT)

Implement ERP NetSuite: เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูลและการบริหารจัดการ

พัฒนาผลิตภัณฑ์มูลไก่: ทำเป็นขี้ไก่แห้งหรือขี้ไก่อัดเม็ด เพื่อเพิ่มมูลค่าและเก็บรักษาง่ายขึ้น

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

ราคาไก่และไข่ไก่ยังคงสูง: แต่มีปัจจัยเสี่ยงเรื่อง Supply ลูกไก่

ขยายตลาดส่งออก: โดยได้รับการรับรอง LQA เพื่อส่งออกไปยังตลาดยุโรป

เน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน: ตามแนวทาง SDG โดยใช้พลังงานสะอาดและดูแลสิ่งแวดล้อม

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A ที่นาที 52:41]

    1. **ผลการดำเนินงานไตรมาส 3**
    • ผู้บริหาร: ยังไม่สามารถตอบได้
    1. **ความคืบหน้าธุรกิจวัวนม**
    • ผู้บริหาร: ชะลอโครงการเนื่องจาก 3 เหตุผลหลัก: ราคาน้ำนมดิบตกต่ำ, โรคระบาดในแม่วัว, ข้อตกลงกับคู่สัญญาไม่ลงตัว
    1. **ปัจจัยบวก/ลบครึ่งปีหลัง**
    • ผู้บริหาร:
      • ปัจจัยบวก: ราคาไก่และไข่ไก่ยังสูง
      • ปัจจัยลบ: การขาดแคลนลูกไก่
    1. **ปัจจัยบวกของ CFARM เอง**
    • ผู้บริหาร: พัฒนาระบบการรับรอง LQA เพื่อส่งออกไปสหราชอาณาจักรและยุโรป
    1. **เป้าหมายปี 2568**
    • ผู้บริหาร: ใกล้เคียงกับปี 2567
    1. **ฟาร์มใกล้ชายแดนกัมพูชาได้รับผลกระทบหรือไม่**
    • ผู้บริหาร: ฟาร์มที่ละหานทรายได้รับผลกระทบบ้าง แต่เป็นช่วงพักเล้าพอดี และปริมาณไก่น้อย
    1. **โอกาสนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูกจาก US และแผนพัฒนาสูตรอาหารไก่ให้ถูกลง**
    • ผู้บริหาร: ราคาอาหารเป็นแบบ Contract Farming หากราคาลดลง คู่สัญญาจะปรับราคาให้
    1. **การลดวันเลี้ยงไก่ก่อนส่งมอบเพื่อเพิ่มรอบการเลี้ยง**
    • ผู้บริหาร: การลดวันเลี้ยงมีผลต่อน้ำหนักไก่ ไม่ส่งผลดีต่อบริษัท วันเลี้ยงที่เหมาะสมคือ 40-45 วัน การพักเล้าที่สั้นลงจะช่วยเพิ่มรอบการเลี้ยง
    1. **แนวโน้มราคาไก่ปีหน้า และโอกาสที่คู่สัญญาจะลดปริมาณการเลี้ยงไก่ของ CFARM**
    • ผู้บริหาร: ราคาไก่ที่ลดลงจะไม่กระทบต่อปริมาณการเลี้ยงของ CFARM สิ่งที่กระทบคือ Supply ลูกไก่ที่ยังขาดตลาด การได้รับรอง LQA จะช่วยเพิ่มโอกาสส่งออก
    1. **กำไรดีตลาดดี แต่ทำไมถึงขาดทุน**
    • ผู้บริหาร: มีการปรับราคาขี้ไก่ในบัญชี (Lower of Cost or Market Value)
    1. **แผนขยายไปเลี้ยงไก่แบบ Free Market เอง**
    • ผู้บริหาร: กำลังศึกษาอยู่ แต่ยังไม่มีแผนใน 2-3 ปีนี้ จะโฟกัสที่การขยาย Contract Farming ไก่ไข่และไก่เนื้อก่อน

โดยรวมแล้ว CFARM ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ แม้จะมีความท้าทายอยู่บ้าง แต่บริษัทยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพในการเติบโตในอนาคต

โพสต์ล่าสุด