บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ: รายได้และกำไรเติบโตโดดเด่น

MAGURO โชว์ผลงานไตรมาส 2 ปี 2568 สุดปัง! รายได้รวมทะยาน 39.4% แตะ 447.5 ล้านบาท กำไรสุทธิพุ่งถึง 148.5% คิดเป็น 32.1 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนครึ่งปีแรกกำไรสุทธิโต 95.5% เป็น 64.6 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการขยายสาขาใหม่ถึง 7 แห่ง อย่างไรก็ตาม การเติบโตของรายได้จากสาขาเดิม (SSSG) เริ่มชะลอตัว จากผลกระทบเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง

การเติบโตและปัจจัยขับเคลื่อน: ขยายสาขาเชิงรุก

รายได้รวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 447.5 ล้านบาท (+39.4%) และครึ่งปีแรกอยู่ที่ 862.4 ล้านบาท (+39.6%) การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการขยายสาขาใหม่ 7 แห่ง อย่างไรก็ตาม SSSG มีแนวโน้มลดลง จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง บริษัทฯ เร่งปรับกลยุทธ์การตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย

กำไรขั้นต้น ในไตรมาส 2/68 เพิ่มขึ้น 59.4% เป็น 218.0 ล้านบาท และครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 53.9% เป็น 417.2 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น จาก 42.6% เป็น 48.7% ในไตรมาส 2 และจาก 43.9% เป็น 48.4% ในครึ่งปีแรก จากการบริหารจัดการต้นทุนและราคาวัตถุดิบที่ลดลง

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น ตามการขยายสาขาและค่าใช้จ่ายด้านลิขสิทธิ์และบุคลากร ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากหนี้สินตามสัญญาเช่าที่มากขึ้น

ข้อสังเกต: ผลกระทบจากภายนอกและการบริหารจัดการต้นทุน

ถึงแม้ MAGURO จะมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อ SSSG อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น จาก 1,391.9 ล้านบาท เป็น 1,521.1 ล้านบาท เงินสดลดลง จาก 255.3 ล้านบาท เป็น 173.9 ล้านบาท จากการลงทุนขยายสาขา หนี้สินรวมเพิ่มขึ้น จาก 739.3 ล้านบาท เป็น 841.8 ล้านบาท จากหนี้สินตามสัญญาเช่า อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ที่ 1.2 เท่า ซึ่งยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม

สรุป: อนาคตและการเติบโตอย่างยั่งยืน

MAGURO ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี จากการขยายสาขาและการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องให้ความสำคัญกับการรักษาและกระตุ้น SSSG ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง การปรับตัวและพัฒนากลยุทธ์อย่างต่อเนื่องจะเป็นกุญแจสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว