บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

JCKH ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนักในไตรมาส 2 ปี 2568 และงวดหกเดือนแรกของปี เนื่องจากการปิดสาขา ส่งผลให้รายได้จากการขายและบริการลดลงอย่างมาก ในขณะที่ค่าใช้จ่ายทางการเงินและค่าใช้จ่ายในการบริหารกลับเพิ่มสูงขึ้น

รายได้ที่ลดลงอย่างน่าตกใจ:

รายได้จากการขายและบริการลดลงอย่างมาก โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 ลดลงถึง 72.85% เหลือเพียง 4.18 ล้านบาท และในงวดหกเดือน ลดลง 84.87% เหลือ 8.11 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า การลดลงนี้เป็นผลมาจากการปิดสาขาซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดขาย

ต้นทุนขายลดลงตามรายได้ โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 ลดลง 92.47% และในงวดหกเดือน ลดลง 97.13% อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังคงเป็นภาระหนัก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2 เนื่องจากการบันทึกค่าเบี้ยปรับเงินเพิ่ม

ค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในไตรมาส 2 (เพิ่มขึ้น 46.42%) และงวดหกเดือน (เพิ่มขึ้น 43.52%) ซึ่งเป็นปัจจัยซ้ำเติมสถานการณ์ผลประกอบการที่ย่ำแย่อยู่แล้ว

ข้อสังเกตและประเด็นสำคัญ:

การปิดสาขาเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดรายได้ แต่ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการบริหารกลับเพิ่มขึ้นสวนทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายทางการเงินยังเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของบริษัท

ผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น ทั้งในไตรมาส 2 (เพิ่มขึ้น 39.66%) และงวดหกเดือน (เพิ่มขึ้น 12.69%) สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการฟื้นฟูผลประกอบการของ JCKH

สรุป:

JCKH กำลังเผชิญกับวิกฤตผลประกอบการที่รุนแรง การปิดสาขาส่งผลกระทบต่อรายได้ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายบางส่วนกลับเพิ่มขึ้น บริษัทจำเป็นต้องเร่งปรับกลยุทธ์และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด เพื่อลดผลขาดทุนและฟื้นฟูสถานะทางการเงินให้กลับมามั่นคงอีกครั้ง