https://aio.panphol.com/assets/images/community/7955_774E29.png

AP (Thailand) เตรียมเติบโตใน Q2/25 จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่แข็งแกร่ง

P/E 6.27 YIELD 6.98 ราคา 8.60 (0.00%)

ไฮไลท์สำคัญ

FSSIA คาดการณ์กำไร Q2/25 ของ AP (Thailand) จะเติบโต 15% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากแรงหนุนจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กำไรอาจลดลง 22% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่แคบลง

การวิเคราะห์ผลประกอบการ Q2/25

FSSIA คาดการณ์ว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์จะเป็นปัจจัยหลักในการฟื้นตัวของผลประกอบการใน Q2/25 โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 28% จากไตรมาสก่อนหน้า และ 1% จากปีที่แล้ว คิดเป็นมูลค่า 9.5 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 95% และคอนโด 5% การเติบโตนี้มาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 9 พันล้านบาท (+22% q-q, +17% y-y) เนื่องจากการรับรู้รายได้จาก backlog ที่แข็งแกร่ง ณ สิ้น Q1/25 นอกจากนี้ คาดว่า AP จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดใหม่ "Aspire Arun-Prive" (มูลค่า 500 ล้านบาท, ขายหมดแล้ว) ซึ่งอาจรับรู้รายได้ประมาณ 80-90% ของมูลค่าโครงการ

ถึงแม้ว่ายอดโอนกรรมสิทธิ์จะสูงขึ้น แต่คาดว่ากำไรสุทธิใน Q2/25 จะอยู่ที่ 990 ล้านบาท (+15% q-q, -22% y-y) เนื่องจาก GPM ที่แคบลง โดยคาดว่า GPM จากการขายอสังหาริมทรัพย์จะลดลงเหลือ 29.7% (เทียบกับ 31.5% ใน Q1/25 และ 33.1% ใน Q2/24) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากแคมเปญส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดโอนกรรมสิทธิ์ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงและตลาดที่ซบเซา นอกจากนี้ ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน (JV) คาดว่าจะลดลงเหลือ 100 ล้านบาท (-30% q-q, -35% y-y) เนื่องจากการก่อสร้างคอนโดใหม่ 2 แห่งแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส ได้แก่ Aspire Sukhumvit-Rama 4 และ Aspire Onnut Station (มูลค่ารวม 7.6 พันล้านบาท, อัตราการขายเฉลี่ย 80%) ซึ่งอาจรับรู้รายได้ 10-15% ของมูลค่าโครงการ

แนวโน้มผลประกอบการ H2/25

FSSIA คาดการณ์ว่าผลประกอบการใน H2/25 จะเร่งตัวขึ้น โดยใน Q3/25 ส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากบริษัทร่วมทุนจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญ เนื่องจาก AP จะยังคงโอนกรรมสิทธิ์คอนโด JV ขนาดใหญ่ 2 แห่งจาก Q2/25 นอกจากนี้ ยอดโอนกรรมสิทธิ์จะได้รับการสนับสนุนจาก backlog โครงการแนวราบ ณ สิ้น Q2/25 ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มเติม โดย AP วางแผนที่จะเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่มูลค่า 2.28 หมื่นล้านบาท (+171% q-q, +156% y-y) ใน Q3/25 ขณะที่กำไรใน Q4/25 คาดว่าจะเป็นจุดสูงสุดของปี เนื่องจากแรงหนุนจากคอนโดที่สร้างเสร็จใหม่จำนวนมาก

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ไว้ที่ 4.7 พันล้านบาท (-6% y-y) เนื่องจาก backlog ปัจจุบันสามารถรองรับประมาณการยอดโอนกรรมสิทธิ์ได้ 80% ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือการฟื้นตัวของอุปสงค์ที่อยู่อาศัยและ GPM FSSIA ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายเดิมที่ 9 บาท เนื่องจาก valuation ยังคงน่าสนใจ โดยปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ P/E ปี 2568 เพียง 4.8 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 1SD และคาดว่าจะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.7% ต่อปี

โพสต์ล่าสุด