บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ศุภาลัย (SPALI) กำไร Q2/68 ลดลง แต่แนวโน้ม 3Q/68 สดใส โบรกเกอร์ PST แนะนำ "ทยอยซื้อ"
P/E 7.04 YIELD 8.63 ราคา 17.40 (0.00%)
โบรกเกอร์ PST คาดการณ์กำไร Q2/68 ของ SPALI ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า พร้อมมองแนวโน้ม 3Q/68 สดใสจากการเปิดโครงการใหม่ และแนะนำ "ทยอยซื้อ" โดยให้ราคาเป้าหมาย 16.00 บาท
ไฮไลท์สำคัญ
- คาดการณ์กำไร Q2/68:
1,271 ล้านบาท ลดลง 20.5% y-y จากยอดโอนและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ลดลง - ปัจจัยหนุน Q2/68:
กำไรเพิ่มขึ้น 214.0% q-q จาก Backlog แนวราบที่รอโอนเพิ่มขึ้น, การใช้โปรโมชั่นเข้มข้นเพื่อระบายสต็อก, และส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจากโครงการในออสเตรเลีย - แนวโน้ม 3Q/68: คาดการณ์ยอดโอนและ GPM ฟื้นตัวดีขึ้นจากคอนโดที่จะเริ่มโอน
รายละเอียดผลประกอบการและแนวโน้ม
PST คาดการณ์กำไรสุทธิของ SPALI ใน Q2/68 ที่ 1,271 ล้านบาท
แม้ว่ายอดขายรวมใน Q2/68 จะอ่อนตัวลงจากแนวสูงเป็นหลัก แต่ยอดขายแนวราบยังคงทำได้ดีที่ 4.3 พันล้านบาท
สำหรับแนวโน้มใน 3Q/68 PST คาดการณ์ว่ายอดขายจะปรับตัวดีขึ้น q-q จากการเปิดโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น (8 โครงการ มูลค่ารวม 9.3 พันล้านบาท) และการฟื้นตัวจากแผ่นดินไหว โดย SPALI เห็นลูกค้ากลับมาแล้ว 80% นอกจากนี้ ยอดโอนและ GPM มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น q-q จากคอนโด Supalai blue whale-หัวหิน มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ที่จะเริ่มโอน ซึ่งขายไปแล้วกว่า 78% ทำให้คาดว่ายอดโอนและ GPM ในช่วง 2H/68 จะฟื้นตัวดีกว่าในช่วง 1H/68
ข้อสังเกตและปัจจัยที่ต้องติดตาม
PST ให้ข้อสังเกตว่าปัจจุบัน EIA มีข้อกำหนดที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ SPALI ต้องเลื่อนการเปิดโครงการคอนโดบางส่วนออกไปจากแผนเดิม โดยคาดว่าปีนี้จะเปิดตัวโครงการมูลค่า 3.6 หมื่นล้านบาท (จากแผนเดิม 4.6 หมื่นล้านบาท)
นอกจากนี้ PST ยังให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมและการก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการรับฟังความคิดเห็นของพื้นที่ข้างเคียง และการปรับใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
สรุปและคำแนะนำ
โดยสรุป PST มองว่า SPALI มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในระยะยาว แม้ว่าผลประกอบการใน Q2/68 จะ
ดังนั้น PST จึงปรับคำแนะนำลงเป็น "ทยอยซื้อ" โดยให้ราคาพื้นฐาน 16.00 บาท อิงจาก P/E 6.5 เท่า โดยมองว่าราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวขึ้นรับภาพของการลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 2H/68 อาจชะลอตัวลงกว่า 1H/68 ซึ่งอาจทำให้ธนาคารระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น