ERW กำไรพุ่ง! FSSIA ชี้กำไรหลัก Q4/67 ทำสถิติใหม่ คาดการณ์หุ้นขึ้น 50%

P/E 13.57 YIELD 3.85 ราคา 2.34 (0.00%)


ไฮไลท์สำคัญ: ERW กำไร Q4/67 สดใส

FSSIA คาดการณ์กำไรหลักของ ERW ใน Q4/67 จะเติบโต 58% YoY ทำสถิติสูงสุดที่ 325 ล้านบาท จาก RevPAR ที่แข็งแกร่งของโรงแรมที่ไม่ใช่ Hop Inn (+15% YoY) ความกังวลเกี่ยวกับสัญญาเช่า Grand Hyatt Erawan อาจลดลงจากผลกำไรที่ดีเกินคาดในปี 2567 FSSIA คงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยปรับราคาเป้าหมาย DCF ขึ้นเป็น 6.20 บาท

รายละเอียดการวิเคราะห์และประมาณการ

FSSIA คาดว่า RevPAR ของโรงแรมที่ไม่ใช่ Hop Inn จะเติบโต 15% YoY ใน Q4/67 นำโดยโรงแรมระดับกลาง (+20% YoY) หลังจากการปรับปรุง Holiday Inn Pattaya ซึ่งผลักดันให้ ADR เพิ่มขึ้น 20% YoY RevPAR ของ Thai Hop Inn คาดว่าจะเติบโต 7% YoY จาก ADR ที่แข็งแกร่ง ส่วน RevPAR ของ Philippine Hop Inn คาดว่าจะลดลง 6% YoY เนื่องจากการเปิดโรงแรมใหม่ 3 แห่งใน Q2-Q3/67 สำหรับ Japan Hop Inn คาดว่า RevPAR จะเพิ่มขึ้น 48-50% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล โดยรวมแล้ว FSSIA คาดการณ์ว่ารายได้จะเติบโต 16-18% YoY และอัตรากำไร EBITDA จะดีขึ้นเป็น 36% (เทียบกับ 32% ใน Q4/66) ส่งผลให้กำไรหลักพุ่งขึ้น 58% YoY เป็น 325 ล้านบาท

FSSIA ยังได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 2567-68 ขึ้น 8% แม้ว่าจะยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับการต่ออายุสัญญาเช่า Grand Hyatt Erawan (GHE) แต่ FSSIA เชื่อว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งใน Q4/67 จะช่วยลดความกังวลของตลาดได้ โดยตลาดอาจเริ่มมองข้ามเรื่องนี้จากการที่กำไรปี 2567 ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งน่าจะชดเชยค่าเช่าที่อาจสูงขึ้นสำหรับ GHE ซึ่ง FSSIA ประมาณการว่าจะเพิ่มขึ้นจากอัตราปัจจุบันที่ 80-90 ล้านบาท เป็น 100-150 ล้านบาทต่อปี

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

FSSIA มองว่าการที่ ERW ยังมีประเด็นเรื่องการต่ออายุสัญญาเช่า GHE เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหุ้น ERW เนื่องจากกำไรหลัก Q4/67 ที่ทำสถิติใหม่จะดึงดูดความสนใจของตลาด และนักวิเคราะห์น่าจะปรับประมาณการกำไรขึ้น (BBG consensus คาดการณ์ 820 ล้านบาท เทียบกับประมาณการของ FSSIA ที่ 861 ล้านบาทในปี 2567) นอกจากนี้ ERW ยังซื้อขายที่ P/E ปี 2568 เพียง 16 เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 30 เท่า) และมูลค่าตลาดปัจจุบันที่ 15.3 พันล้านบาทต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 16.1 พันล้านบาทในปี 2562 ในขณะที่กำไรปี 2568 ที่ 940 ล้านบาทสูงกว่าช่วงก่อนโควิดที่ 446 ล้านบาทมาก

FSSIA คงคำแนะนำ "ซื้อ" โดยปรับราคาเป้าหมาย DCF ขึ้นเป็น 6.20 บาท (เดิม 6.00 บาท) อิงตาม WACC ที่ 8.2% และ terminal growth ที่ 2.5% ราคาเป้าหมายใหม่นี้คิดเป็น upside 97.5% จากราคาปิดล่าสุดที่ 3.14 บาท และสูงกว่า consensus ถึง 20.6%

โพสต์ล่าสุด