https://aio.panphol.com/assets/images/community/6913_FD882B.png

SAPPE มีแนวโน้มผ่านจุดต่ำสุดแล้ว คงคำแนะนำ "ถือ" แต่ลดราคาเป้าหมายเหลือ 32.25 บาท

P/E 11.32 YIELD 7.26 ราคา 31.25 (0.00%)

text-primary ไฮไลท์สำคัญ

  • MST ปรับลดราคาเป้าหมาย SAPPE เหลือ 32.25 บาท จากเดิม 42.00 บาท แต่ยังคงคำแนะนำ "ถือ"
  • ปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 68-69 ลง 13-15% จากผลประกอบการ Q1/68 ที่ต่ำกว่าคาด
  • คาดยอดขายปี 68 ลดลง 10-20% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 5%
  • มองว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดใน Q1/68 แล้ว และจะเริ่มฟื้นตัวใน Q2/68

text-primary รายละเอียดการวิเคราะห์

MST (Maybank Securities (Thailand) PCL) ปรับลดราคาเป้าหมายของ SAPPE ลงเหลือ 32.25 บาท (อิง P/E ปี 68 ที่ 10 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ -1.5SD) การปรับลดราคาเป้าหมายนี้สืบเนื่องมาจากการปรับลดประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2568-2569 ลง 13-15% เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 1/2568 ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ แนวโน้มยอดขายในปี 2568 ยังคงซบเซา ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ในสหภาพยุโรป ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ยังคงอ่อนแอ

ผู้บริหารของ SAPPE ได้ปรับลดเป้าหมายยอดขายปี 2568 ลงเป็น -10% ถึง -20% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต +5% (เทียบกับประมาณการของ MST ที่ -18.7%) หลังจากรายได้ในไตรมาส 1/2568 ลดลงถึง 38% YoY จากปัญหาการเร่งระบายสต็อกในฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารคาดว่ายอดขายจะกลับมาเติบโต YoY ได้อีกครั้งในไตรมาส 3/2568 จากสถานการณ์สต็อกส่วนเกินในยุโรปที่เริ่มคลี่คลาย

text-primary ข้อสังเกตและประเด็นสำคัญ

  • ปัญหา Overstock ในยุโรป: คาดว่าจะคลี่คลายลง โดยระดับสินค้าคงคลังของลูกค้าในสหราชอาณาจักรกลับสู่ภาวะปกติ และฝรั่งเศสเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น
  • ตลาดเกาหลีใต้: บริษัทมีแผนออกสินค้าใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ เช่น “Mogu Zero” แทนการทำโปรโมชั่นราคา เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่
  • อินโดนีเซีย: มีการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายรายใหม่เพื่อขยายช่องทางจำหน่าย
  • ผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ: ยังมีผลกระทบจำกัด เนื่องจากยอดขายจากตลาดสหรัฐฯ มีสัดส่วนไม่ถึง 5% ของรายได้รวม

text-primary สรุป

MST ยังคงคำแนะนำ "ถือ" สำหรับ SAPPE โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 32.25 บาท แม้จะมีการปรับลดประมาณการกำไรและยอดขายลง แต่คาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/2568 และจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสถัดไป อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของอุปสงค์ในยุโรปและการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจกดดันอัตรากำไรขั้นต้น

โพสต์ล่าสุด