SELIC ขยายฐานลูกค้า สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ พร้อมรับมือเศรษฐกิจผันผวน ปี 2568

P/E 11.67 YIELD 1.46 ราคา 2.60 (0.00%)

SELIC ขยายฐานลูกค้า สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ พร้อมรับมือเศรษฐกิจผันผวน ปี 2568

สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน ในนามของบริษัท ซิลิค ขอบจํากัด มหาชน ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่งาน Opportunity Day ของบริษัท ซิลิค ประจําไตรมาส 1 ปี 2568 โดยวันนี้ได้รับเกียรติจากคุณเก่ง สุวัฒนพิมพ์ Operation Director เป็นผู้ให้ข้อมูล และดิฉัน กนกกาญจน์ เพียรเสมอ เลขานุการผู้บริหาร

Agenda ของเราในวันนี้นะคะ ก็จะพูดถึงในเรื่องของ Company Overview เรื่องของการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร เรื่องของข่าวสารและก็กิจกรรมในช่วงที่ผ่านมาค่ะ มีเรื่องของ Financial Performance และปิดท้ายด้วยช่วงของการตอบคําถามค่ะ

ขอเริ่มที่ Company Overview เลยนะคะ บริษัท ซิลิค ก่อตั้งขึ้นในปี 2522 เริ่มต้นด้วยการผลิตและการขายกาวประเภทโซเวนท์ ในปี 2559 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ในปี 2562 ทําการควบรวมและซื้อกิจการ PMC ในปี 2563 ซิลิค ได้เปิดบริษัท ซิลิค ออสเตรเลีย และมีสํานักงานตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ในปี 2565 ทําการควบรวมและซื้อกิจการ เทวกรรมโอสถ และในปี 2567 ซิลิค ย้ายเข้าไปอยู่ใน SET และก่อตั้งบริษัท ซิลิค เฮลท์แคร์

ถัดมาจะเป็นโครงสร้างของบริษัท ซิลิค โดยบริษัทมีบริษัทในเครือทั้งหมด 8 บริษัท ได้แก่ เอสเวนเจอร์ ถือหุ้นในสัดส่วน 99.97% ซิลิค ออสเตรเลีย ถือหุ้นในสัดส่วน 100% PMC Label Material ถือหุ้นในสัดส่วน 70% โดย PMC มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ PMC มาเลเซีย ถือหุ้นในสัดส่วนที่ 100% และ PMC สิงคโปร์ ถือหุ้นในสัดส่วน 100%

และซิลิค เฮลท์แคร์ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% มีบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เทวกรรมโอสถ ถือหุ้นในสัดส่วน 50% และบริษัทย่อย DBK Healthcare ถือหุ้นในสัดส่วน 100%

ลำดับถัดไปจะขอพูดถึงภาพรวมของกลุ่มธุรกิจของบริษัท ซิลิค เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าบริษัทของเราทำอะไรบ้าง โดยกลุ่มแรกคือกลุ่มของธุรกิจกาว ภายใต้การบริหารของบริษัท ซิลิค ซึ่งจะมีทั้งหมด 3 Product ได้แก่ กลุ่มกาวประเภท Solvent Based เรียกว่าเป็นกาวอเนกประสงค์ที่มี Solvent เป็นตัวทําละลาย สามารถนําไปใช้ได้ทั้งแบบทาและก็แบบสเปรย์ โดยกาวประเภทนี้เหมาะกับหนังแท้ หนังเทียม ยาง ไม้ กระจก เซรามิก กระดาษ ผ้า และก็ฟองน้ํา โดยอุตสาหกรรมที่นิยมใช้กาวประเภทนี้ก็จะเป็นอุตสาหกรรมรองเท้า เฟอร์นิเจอร์ กระเป๋า แล้วก็ยานยนต์ ซึ่งบริษัทจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Bow Brand Code แล้วก็ Polynon

กลุ่มกาวประเภทที่ 2 เป็นกาวในกลุ่มของ Hot Melt จะมีลักษณะเป็นของแข็ง ซึ่งมีทั้งแบบเม็ดและก็แบบก้อนตามความต้องการของลูกค้า โดยวิธีการใช้จะต้องนําไปผ่านความร้อนเพื่อละลายก่อน แล้วก็กาวประเภทนี้จะเหมาะกับงานไม้ งานกระดาษ งานพลาสติก งานฟิล์ม แล้วก็ Non Woven โดยอุตสาหกรรมที่นิยมใช้กาวประเภทนี้ จะเป็นอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อติดฉลากสําหรับขวดน้ําดื่ม นอกจากนี้ก็จะยังมีในกลุ่มของยานยนต์ งานเฟอร์นิเจอร์ งานกล่องแล้วก็บรรจุภัณฑ์ต่างๆ ด้วย

ทั้งนี้ เรายังมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับการรับรองโดย USDA ภายใต้แบรนด์ Weamel Intensity Minerva Green Organic ด้วย

และกลุ่มสุดท้ายในกลุ่มธุรกิจกาวจะเป็นกาวประเภท Water Based ถือว่าเป็นกาวอเนกประสงค์อีกประเภทหนึ่งที่มีน้ําเป็นตัวทําละลาย สามารถใช้ได้ทั้งแบบทาแล้วก็แบบสเปรย์ เหมาะสําหรับใช้กับกระดาษและไม้ โดยอุตสาหกรรมที่นิยมใช้กาวประเภทนี้ ก็จะเป็นอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มสําหรับการติดในฉลากขวดแก้ว เช่น ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มชูกําลัง ขวดเครื่องปรุง หรืออาหารกระป๋อง แล้วก็ยังใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ เช่น ซองจดหมาย ซองเอกสาร และก็กล่อง

ถัดมาจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับสติ๊กเกอร์ ภายใต้การบริหารงานของ PMC โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทนี้จะเป็นสติ๊กเกอร์ที่มีกาวในตัว ซึ่งมี 3 องค์ประกอบ ชั้นแรกเราจะเรียกว่า Face Stock ซึ่งเรามีให้เลือกทั้งแบบกระดาษแล้วก็แบบฟิล์ม หรือตามที่ลูกค้ารีเควสมา แล้วก็ชั้นที่ 2 จะเป็นในส่วนของกาว และชั้นที่ 3 จะเป็นส่วนของ Liner ที่ต้องทําการลอกก่อนตอนการใช้งาน โดยบริษัทมีการจําหน่ายใน 2 รูปแบบ คือแบบที่เป็น Master Role ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อไปเป็น Role ใหญ่ๆ แล้วก็ไปตัดตามขนาดก่อนการใช้งานได้เอง แล้วก็เป็นแบบ Customise ซึ่งทางบริษัทจะตัดตามขนาดที่ลูกค้ารีเควสมาก่อนการส่งมอบ โดยลูกค้าหลักของเราจะเป็นลูกค้าที่ซื้อไปเพื่อใช้ในงานป้าย แล้วก็ฉลากสินค้า ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม Frozen Food ต่างๆ รวมทั้งเครื่องสําอาง สื่อโฆษณาตามบิลบอร์ด งานโลจิสติกส์ เช่น สติ๊กเกอร์แปะหน้ากล่องพัสดุ Back ติดกระเป๋าของสายการบิน แล้วก็ป้ายบ่งชี้สินค้าอุตสาหกรรม

ถัดมาจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งของเราก็คือธุรกิจ Healthcare ภายใต้ 4 แบรนด์สินค้า ได้แก่ สินค้าแรกก็จะเป็นแบรนด์มวย ที่มีทั้งในรูปแบบของน้ํามันมวย มวยครีม มวยสเปรย์ มวย Hydrogel Patch รวมทั้งพิมพ์เสน น้ําตราหลวงศิษย์ แบรนด์ถัดมาแบรนด์ Niban เป็นแผ่นแปะบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามข้อ ที่มีทั้งในรูปแบบของพลาสเตอร์และแบบเจล ทั้งสูตรร้อนและสูตรเย็น ถัดมาจะเป็นแบรนด์ Neopast ที่เราจะมีผลิตภัณฑ์เป็นพลาสเตอร์ปิดแผลทั้งสําหรับเด็กและผู้ใหญ่ แผ่นแอลกอฮอล์สําหรับฆ่าเชื้อ แล้วก็แผ่นเจลลดไข้ที่ระบายความร้อนสําหรับเด็กและผู้ใหญ่เช่นกัน และแบรนด์สุดท้ายก็คือ Neotape จะเป็นสินค้าประเภทเทปล็อคที่ช่วยในการ Support กล้ามเนื้อ

โดยกลุ่มลูกค้าหลักของสินค้า Healthcare ของเรา เราจะ Target ไปที่กลุ่มนักกีฬาแล้วก็คนที่ชอบออกกําลังกาย กลุ่มที่มีปัญหาการปวดเรื้อรัง กลุ่มพนักงานบริษัทที่มีปัญหาออฟฟิศซินโดรม กลุ่มคนที่ทํากิจกรรมที่ต้องยกของหนัก กลุ่มนักท่องเที่ยว รวมทั้งโรงพยาบาลแล้วก็คลินิก

ถัดมาขอพูดถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กรที่บริษัทได้ดําเนินการไปในช่วงที่ผ่านมา บริษัทดําเนินธุรกิจโดยคํานึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกํากับดูแลกิจการที่ดีโดยเสมอมา ในเรื่องของสิ่งแวดล้อม บริษัทมีเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่มี Carbon neutrality ในปี 2593 และ Net Zero ในปี 2608 ให้ความสําคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างพอเพียง ลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ทั้งจากภายในและภายนอกองค์กร ทั้งคู่ค้าและชุมชนรอบข้าง

กิจกรรมที่บริษัทได้ทําคือการกําหนดเป้าหมายและแผนการดําเนินงานในการจัดการภายในองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้น้ํา การจัดการของเสีย การจัดการพลังงาน การจัดการขยะ และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ถัดมาจะเป็นการวิจัยและพัฒนา ด้วยความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและผู้บริโภค บริษัทได้พัฒนาสินค้าใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีผลิต ที่ผลิตจากวัตถุดิบชีวภาพ มีสัดส่วนมากถึง 43% มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้ดีขึ้น ถัดมาจะเป็นโครงการอนุรักษ์และพัฒนาคลองภาษีเจริญ มีการร่วมขุดคลอกวัชพืช เก็บขยะในลําคลอง และปรับภูมิทัศน์ ถัดมาจะเป็นการปฏิบัติตามระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14001 มีการจัดการขยะมูลฝอยที่ต้นทางอย่างยั่งยืน และการปลูกป่าในเขตฟื้นฟู ป่า และการดําเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน

ถัดมาจะเป็นด้านสังคม บริษัทให้ความสําคัญกับการส่งมอบผลิตภัณฑ์ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม คํานึงถึงความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทํางานของพนักงาน และสิทธิมนุษยชนอย่างรอบด้าน โดยโครงการที่บริษัททํา ได้แก่ โครงการ ซิลิค ปันกาวใจ เพื่อส่งมอบกาวให้แก่มูลนิธิขาเทียม และศูนย์พัฒนาอาชีพคนตาบอด โครงการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก โครงการความร่วมมือทางวิชาการ เพื่องานวิจัยและการศึกษา กิจกรรมสอนนวดไทยเพื่อต่อยอดและพัฒนาอาชีพให้คนในชุมชน ที่สอดคล้องกับธุรกิจของกลุ่ม Healthcare ส่งเสริมวิชาชีพ สร้างรายได้ และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างชุมชนและองค์กร

และด้านสุดท้ายด้านการกํากับดูแลกิจการ บริษัทมุ่งเน้นการเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ด้วยการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดําเนินงานให้มีธรรมาภิบาล ดําเนินธุรกิจตามหลักการกํากับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส เป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ โดยกิจกรรมที่บริษัทได้ทํานะคะก็ได้แก่การประเมินความสอดคล้องตามกฎหมาย ได้รับการประเมินที่ 100% และก็การประเมินความผูกพันในองค์กร ของพนักงานได้รับการประเมินที่ 81% นอก จากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกที่บริษัทได้จัดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เช่น การจัดการประชุม สามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งการประชุมนี้ก็จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2567 ถัดมาก็จะเป็นงาน Live convergence ทุกรอยปูดทุกรอยปวดมีเรื่องราวให้ชีวิตไปต่อซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นโดยบริษัท เทวกรรมโอสถ เพื่อตอกย้ําความเป็นผู้นําตลาดด้านผลิตภัณฑ์เพื่อการบรรเทาปวดและการดูแลร่างกายอย่างครบวงจร เรามีผลิตภัณฑ์ครบทุกรูปแบบและเข้าใจทุกความปวดของทุกคนที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมในชีวิตประจําวัน มุ่งยกระดับสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคด้วยความเชี่ยวชาญและความเข้าใจคนไทยที่สั่งสมมากว่า 80 ปี

ลำดับถัดไปขอเชิญคุณเก่งอัพเดทข้อมูล Financial performance ครับ

สวัสดีครับ ในส่วนของ Financial Performance นะครับ เดี๋ยวเราจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะครับ เป็นส่วนย่อยของแต่ละ Segment นะครับ แล้วก็เป็นส่วนที่เป็นรวมของทั้งกรุ๊ปนะครับ ส่วนแรกนะครับ ส่วนที่เป็น Segment นะครับ Segment แรกเราจะมาดูฝั่งที่เป็นกาวนะครับ รายได้รวมนะครับอยู่ที่ 146.6 ล้านบาทนะครับ ลดลงไป 3.4% จาก ไตรมาสที่แล้วนะครับ เพิ่มขึ้นมา 3.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วครับ สัดส่วนของการขายนะครับ ยอดรายได้ที่เป็นยอดขายในประเทศนะครับอยู่ที่ 85.5 ล้านบาทนะครับ ยอดขายที่เป็นของส่งออกนะครับอยู่ที่ 61.1 ล้านบาทนะครับ ลดลงมา 8.1% จากปีที่แล้วนะครับ แล้วก็ 2.9% จากคเตอร์ที่แล้วนะครับ ถ้าเป็นสัดส่วนเป็นเปอร์เซ็นต์นะครับ ส่งออกอยู่ที่ 42% ครับ ส่วนในประเทศนะครับอยู่ที่ 58% ครับ สัดส่วนของสินค้านะครับ จําพวกสินค้าที่ขายมีรายได้เยอะที่สุดนะครับ จะเป็นกลุ่มของกาวโซเวนท์นะครับ อยู่ที่ 43% ตัวรองลงมา จะเป็นตัว Hot Melt นะครับอยู่ที่ 41% แล้วก็รองลงมาจะเป็น Water Based อยู่ที่ 11% ครับ สรุปรวมนะครับ Financial result ของตัวกลุ่มกาวนะครับ Gross profit อยู่ที่ 42.5 ล้านบาทนะครับ ถ้า รวมเป็น Ratio นะครับ จะเป็น 28.9% S นะครับ จะเป็น 27.7 ล้านบาทนะครับ หรือว่า 18.9% นะครับ เมื่อเทียบจาก ไตรมาสที่แล้วเนี่ยครับ ก็จะขึ้นมา อันนี้ก็จะมาจากพวก เอ่อ Consultation ฟรีอะไรพวกนี้จากที่บริษัทมีการไหว้วานทําไปเมื่อตอนไตรมาสที่ 1 นะครับ ส่วนตัวพวก E อะไรพวกนี้ก็จะเป็น 22.7 ล้านบาทหรือว่า 15.5% นะ ครับ ตัว Net Profit อยู่ที่ 13.6 ล้านบาทหรือว่า 9.3% ครับ ถ้าเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วนะครับก็เพิ่มขึ้นมานะครับ แล้วก็ถ้าเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาก็จะลดลงไปนิดหน่อย อันนี้ก็จะอิงจากยอดขายด้วยครับ

ส่วนกลุ่มต่อไปนะครับเป็นกลุ่มสติ๊กเกอร์ รายได้รวมนะครับอยู่ที่ 220.8 ล้านบาทครับ เพิ่มขึ้นมา 2.2% นะครับ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว เมื่อเทียบกับปีที่แล้วเนี่ยเพิ่มขึ้นมานิดหน่อยประมาณ 0.2% ครับ Domestic sale ยอดรายได้ยอดขายที่ในประเทศนะครับอยู่ที่ 158.2 ล้านบาทนะครับ เพิ่มขึ้นมา 9.2% นะครับ เมื่อเทียบกับ คเตอร์ที่แล้วนะครับ ส่วนส่งออกนะครับอยู่ที่ 62.6 ล้านบาทนะครับ ลดลงไปประมาณ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ครับ เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้วกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วครับ สัดส่วนของการขายนะครับอยู่ที่ 72% คือในประเทศนะครับ แล้วก็ 28% คือส่งออกครับ ส่วน by Product Category นะครับ ตัว เอ่อ Face Stock ที่ตัวสติ๊กเกอร์ที่มี Face Stock เป็นกระดาษนะครับ เป็นตัวที่มีรายได้ยอดขายสูงที่สุดนะครับอยู่ที่ 54% รองลงมาจะเป็น Face Stock ที่เป็นตัวฟิล์มนะครับอยู่ที่ 22% แล้วก็ตัว Specialty อยู่ที่ 19% ครับ

กลุ่มสุดท้ายนะครับจะเป็นกลุ่ม Healthcare นะครับ รายได้รวมอยู่ที่ 199 ล้านบาทนะครับ ลดลงมาจาก เอ่อ ไตรมาสที่แล้ว 3.2% ครับ เมื่อเทียบจากปีที่แล้วนะครับ ในไตรมาสเดียวกัน ก็จะเพิ่มขึ้นมา 0.7% ครับ ยอดขายนะครับของไตรมาสที่ 1 นะครับ ในประเทศอยู่ที่ 163.5 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ คเตอร์เดียวกันปีที่แล้วนะครับอยู่ที่ 168 ล้านบาท อันนี้ลดลงมา เอ่อ มันมาจากที่ว่านักท่องเที่ยวจีนนะครับ ในช่วงตุตรุษจีนนะครับ ได้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยน้อยลงนะครับ ส่วนฝั่งที่เป็นส่งออกนะครับ อันนี้อยู่ที่ 35.5 ล้านบาท อันนี้ก็ขึ้นมา จากปีที่แล้ว 19.7% ครับ ส่วนถ้าเป็นสัดส่วนนะครับ รายได้ที่อยู่ในประเทศนะครับ 50 82% ครับ เอ่อ ส่งออกอยู่ที่ 18% ครับ เอ่อ สัดส่วนที่เป็น สินค้านะครับ สําหรับตัว Healthcare นะครับ ตัวที่มีรายได้สูงที่สุดนะครับ จะเป็นกลุ่มบรรเทาปวด พวก Pain relief นะ ครับ รองลงมาจะเป็นพวก เอ่อ พลาสเตอร์ First Aid ซิ่งต่างๆ นะ ครับ อยู่ที่ 26% กับ 74% ครับ

ใน ช่วงต่อไปนะครับ จะเป็น Financial Performance ของระดับกรุ๊ปนะครับ รายได้รวมของซิลิคทั้งกรุ๊ปนะครับ ในไตรมาสแรกของปีนี้นะครับอยู่ที่ 556.36 ล้านบาทครับ เพิ่มขึ้นมาจากไตรมาสที่แล้ว 0.03% นะครับ ถ้าดูเป็นยอดขายอย่างเดียวนะครับ เอ่อจะอยู่ที่ 555.2 ล้านบาทครับ เพิ่มขึ้นมาจาก ไตรมาสที่แล้ว 0.2% ครับ ส่วนถ้าดูเป็น Proportion นะครับ ก็จะเห็นได้ว่า เอ่อ กลุ่มธุรกิจที่มีรายได้สูงที่สุดในไตรมาส 1 นะครับก็คือกลุ่มสติ๊กเกอร์นะครับ ลองลงมาก็จะเป็นกลุ่ม Healthcare นะครับ แล้วก็ลงมาจะเป็นกลุ่มกาวครับ ส่วนฝั่งที่เป็น Market Destination นะครับ ในฝั่ง ของส่งออกนะครับอยู่ที่ 27% นะ ครับ ถ้า นับเป็นสัดส่วน สัดส่วน ส่วน ขายในประเทศนะครับ จะเป็น 73% ครับ เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วอ่ะครับ ก็จะเห็นได้ว่า เอ่อ ยอดของส่งออกนะครับ มันลดลงนิดหน่อยนะครับ อันนี้ก็เกิดจากว่าสภาวะของเศรษฐกิจทั่วโลกนะครับ ยังมีความผันผวนอยู่ เอ่อ อย่างเช่น เอ่อ เศรษฐกิจทางด้านฝั่ง ทวีป แอฟริกานะครับ ลูกค้าเราหลายเจ้าก็เป็นลูกค้าหลักทางด้าน กาวโซเวนท์นะครับ ก็จะเจอปัญหาที่ว่าค่าเงินในประเทศเขาเนี่ยมีการอ่อนตัวลงทําให้กําลังในการซื้ออ่ะลดลงค่อนข้างเยอะนะครับ ส่วนฝั่งที่เป็น สินค้า กลุ่มสติ๊กเกอร์นะครับ ก็จะเจอปัญหาการแข่งขันค่อนข้างสูงในเรื่องราคาแล้วก็เรื่องจํานวนผู้ขายในตลาดนะครับ แต่ อย่างไรก็ตามครับเราก็มี เอ่อ เจาะเข้าไปในกลุ่มตลาดใหม่ๆ ด้วยสินค้าที่มีอยู่แล้วก็สินค้าใหม่นะครับ เพื่อ ที่ว่า เอ่อ ปี เนี้ยใน ในปีที่ผ่านมาเราก็เริ่มเห็น เอ่อ Marketแชร์เพิ่มขึ้นนะครับ ในตลาดกลุ่มนั้นๆ นะครับ ในทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจเลยครับ ส่วนกําไรขั้นต้นนะครับ Gross profit ratio อยู่ที่ 33.2% นะครับ อันนี้ก็ เพิ่มขึ้นมาจากไตรมาส ที่แล้วกับปีที่แล้วนะครับ อันนี้ส่วนใหญ่ก็จะมาจากฝั่งที่เป็นกลุ่มกาวแล้วก็กลุ่มสติ๊กเกอร์ครับ ส่วน ตัว S นะครับ อยู่ที่ 113.3 ล้านบาทครับ เพิ่มขึ้นมาประมาณ 12.7 ล้านบาทจาก ไตรมาสที่แล้วนะครับ อันเนี้ยส่วนใหญ่ก็จะมาจาก เอ่อ ค่าใช้จ่ายที่เป็นฝั่งของการตลาดของกลุ่ม Healthcare นะครับ ที่ มีการทําต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ เอ่อ ไตรมาสที่ 2 ของปีที่แล้วนะครับ ถ้าดูจาก เอ่อ ช่องซ้ายสุดนะครับ Q1 ของปีที่แล้วเนี่ยมันก็จะยัง น้อยอยู่แล้วมันก็จะเริ่มเพิ่มขึ้นมาแล้วก็เป็นการทําต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ นะครับ ส่วนฝั่ง Profitability อ่ะครับ E ตอนนี้อยู่ที่ 91.4 ล้านบาทนะครับ หรือว่า ratio อยู่ที่ 16.4% ครับ ส่วน Net Profit อยู่ที่ 50.1 ล้านบาทหรือว่า 9% นะครับ อันนี้ก็จะมีการลดลงมานะครับจากไตรมาสที่แล้วกับ เอ่อ ต้นปีที่แล้วนะครับอันนี้ก็อย่างที่เรียนไปเมื่อเมื่อกี้นะครับมันก็มาจากการที่เรามีการลงทุนทางด้านการทำการตลาดนะครับอย่างต่อเนื่องครับ ในกลุ่ม Healthcare ครับ สรุปรวมนะครับ เอ่อรายได้รวมของกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของซิลิคอยู่ที่ 556.4 ล้านบาทในคอร์เตอร์ที่ ที่ 1 นะ ครับ ส่วน Gross profit อยู่ที่ 184.2 ล้านบาทนะครับ หรือว่าถ้าเป็น margin อยู่ที่ 33.2% นะครับ S อยู่ที่ 113.2 ล้านบาทนะครับ E 91.4 ล้านบาท Net Profit อยู่ที่ 50.1 ล้านบาทครับ หรือว่า เป็น margin 9% นะครับ เอ่อ ในฝั่งของ Leverage ratio นะครับ Total Death อยู่ที่ 1,615 ล้านบาทนะครับ Equity อยู่ที่ 1,723 ล้านบาทนะครับ ตัว interest bearing death นะ ครับ 799 ล้านบาท DE อยู่ที่ 0.94 นะครับแล้วก็ DE interest bearing death นะครับอันนี้ก็ 0.45 ก็ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีนะครับ เอ่อ ก่อนที่เราจะไปช่วง เอ่อ Q&A นะครับ ผมขอ แชร์ เอ่อ ช่องทางการติดต่อนะครับ สําหรับนักลงทุนที่อยากติดต่อเรานะครับ เอ่อสามารถติดต่อมาทางเบอร์โทรศัพท์ได้นะครับ 028073347 หรือว่าทางอีเมลนะครับ investor relation@scorp.com นะครับ หรือว่าทางช่องทางทางเว็บไซต์ก็ได้นะครับ http://www.corb.com ครับ ขอบคุณครับ

ช่วงถาม-ตอบ เริ่มต้น นาทีที่ 33:56

ถัดมาก็เป็นช่วงของการตอบคําถามนะคะ ก็เราเริ่มที่คําถามแรกเลยไหมคะ

ได้ครับ ข้อแรกกำไรลดลงจากอะไรครับ

  • หัวข้อ : สาเหตุที่กำไรลดลง

  • คำตอบ : สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะงบประมาณด้านการตลาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ แม้จะกระทบกำไรระยะสั้น แต่บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสร้างรายได้ที่มั่นคงและการเติบโตในระยะยาว และมีการติดตามประสิทธิภาพในแคมเปญและกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ อย่างใกล้ชิด

  • หัวข้อ : เหตุใดยอดขายจึงไม่เพิ่มขึ้นตามค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น และจะเห็นผลลัพธ์เมื่อใด

  • คำตอบ : การลงทุนในส่วนของการตลาดเป็นการลงทุนเพื่อผลในระยะกลางถึงระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้ การทำ New Market ใหม่ๆ และการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า บริษัทจะคอยดูแลติดตามอย่างใกล้ชิดและปรับกลยุทธ์ให้ทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น แคมเปญ "ทุกรอยปวดมีเรื่องราว" ที่มีคุณกรรชัยเป็นพรีเซนเตอร์ ทำให้แบรนด์ถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์มากขึ้นถึง 47% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนทำแคมเปญ

  • หัวข้อ : กลุ่ม Healthcare มีการทำการตลาดในช่วงที่ผ่านมา ไปลงทุนทางด้านไหนบ้าง

  • คำตอบ : การทำการตลาดของกลุ่ม Healthcare จะทำทั้งในส่วนของ Brand communication และการสร้าง Visibility ใหม่ๆ ให้กับลูกค้าและคู่ค้า ให้มีความทันสมัยและกระจายวงกว้างขยายฐานลูกค้ามากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้ทำทั้งในส่วนของออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งการเข้าร่วม Event ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และการร่วมสปอนเซอร์ในกิจกรรมออกกำลังกายต่างๆ เช่น งานวิ่ง เป็นต้น

  • หัวข้อ : ยอดขายทั้งปียังเป็นไปตามแผนหรือไม่ และ Q2 เป็นอย่างไรบ้าง

  • คำตอบ : จะผลักดันให้เป็นไปตามแผน ด้วยการสนับสนุนกิจกรรมการขายและการตลาดต่างๆ เพื่อผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมาย

  • หัวข้อ : ผลกระทบจากการตลาดจีนไม่มาไทย กระทบต่อบริษัทหรือไม่

  • คำตอบ : บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศอยู่แล้ว พยายามที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นตะวันออกกลาง ยุโรป CLMV ซึ่งส่วนนี้อยู่ในแผนปลายๆ ของเราอยู่แล้วว่าเราอยากกระจาย ลูกค้าของเราไปยังกลุ่มต่างๆ มากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป และก็ทําให้ธุรกิจเนี่ยสามารถเดิน หน้าได้อย่าง มั่นคงแล้วก็ ยั่งยืนในระยะยาว

  • หัวข้อ : ภาษีตามนโยบายของทรัมป์ ส่วนนี้กระทบของเราไหมครับ

  • คำตอบ : นโยบายภาษีที่ หรือ Tariff barrier ที่เกิดขึ้นก็ ทางเราเนี่ยมองว่าก็ เป็นโอกาส ของเราส่วนนึงเหมือนกันที่ทำให้เราเนี่ยหาโอกาสใหม่ๆ ทั้งการขยายตลาดในประเทศแล้วก็ภูมิภาคใกล้เคียงค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วเนี่ยยังมีอีกหลายประเทศเลยที่มีศักยภาพนะคะ แล้วก็อย่างไรก็ตามเนี่ยอย่างทุกที่ทุกท่านทราบข่าวกันว่านโยบายในส่วนนี้เนี่ยก็ยังได้มีความมี ความไม่แน่นอนค่อนอ่าอยู่ในหลายๆ ส่วนนะคะก็จากข่าวที่ออกมา ก็อย่างไรเนี่ยเราก็จะติดตามแล้วก็เฝ้าระวังนะคะในนโยบายแล้วก็ ปรับแผนรับมืออย่างต่อเนื่องค่ะ

  • หัวข้อ : หลังจากจัดงานอีเว้นท์ของเทวกรรม มีผลตอบรับ Feedback อย่างไรบ้างครับ

  • คำตอบ : ก็การจัดงาน Live convergence นะคะที่เทวกรรมได้จัดขึ้นเนี่ยค่ะก็เราได้ Feedback ที่ดีนะคะทั้งจากคู่ค้าพาร์ทเนอร์แล้วก็ลูกค้าของเราค่ะ เพราะว่างานนี้เนี่ยก็เป็นงานครั้งแรกเลยที่ที่ที่บริษัทได้จัดขึ้นนะคะมีทั้งการเปิดตัวสินค้าแล้วก็การเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ของเราด้วยแล้วก็ถือว่าเป็น การได้พบปะ ได้การสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้ารูกค้าของ เราแล้วก็สร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกคนด้วยค่ะ

  • หัวข้อ : เศรษฐกิจไทยปัจจุบัน ค่อนข้างแย่ จะกระทบแผนธุรกิจไหม มีแผนรับมือยังไงบ้าง

  • คำตอบ : ปัจจุบันนะครับ สภาวะก็ยัง มีความผันผวนอยู่นะครับ แต่ว่าเราก็จะใช้ความระมัดระวังนะครับ ในการดําเนินงานส่วน สถานะ สถานการณ์เราก็จะดู ไปตามไปตามหน้างานนะครับ ถ้าเราถ้ามันมีอะไรด่วนเราก็จะมีการปรับตัวไปตามสถานการณ์นะครับส่วนนอกเหนือจากนั้นเราก็จะมีการทําตลาดในกลุ่มใหม่ๆนะครับแล้วก็มีการทําการตลาดอย่างที่คุณ การว่าไปเมื่อกี้นี้ก็คือมีการตอกย้ําในความเป็นแบรนด์ของเราสินค้าของเราแล้วก็เราจะพยายามทําให้ดีที่สุดครับ

  • หัวข้อ : ธุรกิจของเราทั้ง 3 BU มีความเป็นฤดูกาลบ้างหรือไม่

  • คำตอบ : ถ้าในส่วนของกลุ่ม Healthcare ด้วยความที่สินค้าของเราก็จะ เกี่ยวกับ การออกกําลังกายบางส่วนเกี่ยวกับการออกกําลังกายแน่นอนว่าก็จะมีเรื่องของความซีซั่นอยู่แล้วโดยเฉพาะช่วงของหน้าฝนก็ถือเป็นช่วงโลซีซั่นของบริษัทเพราะว่าผู้บริโภคเนี่ยออกไปทํา กิจกรรม Outting นอกบ้านลดน้อยลงค่ะแต่ อย่างไรก็ตามเนี่ยเราก็มีสินค้าอื่นๆ ที่จะมารองรับในการใช้ชีวิตประจําวันอื่นๆอย่างเช่นนโอ่บันอะค่ะก็จะเป็น Product ที่ เหมาะกับทุกคนในชีวิตประจําวันปวดคอบาลัย อาจจากการทํางานต่างๆ อ่ะค่ะก็เราก็จะอ่ามันก็จะมีช่วงช่วงช่วงซีซั่นของมันอยู่บ้างค่ะสําหรับกลุ่มเฮลท์แคร์ค่ะ ใน ในฝั่งของกาวนะครับเอ่อ ปกติแล้วว่าหน้า High ของของกาวนะครับเราจะเป็นช่วงต้นปีกับสิ้นปีนะครับเอ่อ ฝั่งที่เป็น เอ่อ Food and Drink นะครับก็จะจะ High ประมาณช่วงเดือน 11 ไปจนถึงเดือน 4 นะครับก็คือเข้าสู่ช่วงฉลองต่างๆ นะครับแล้วไปจนถึงช่วงสงกรานต์เลยครับ ส่วนฝั่งที่มันเป็น เอ่อ สติ๊กเกอร์นะครับก็จะคล้ายๆ กันครับแต่ เอ่อ ส่วนใหญ่เนี่ยมันก็จะเป็นช่วง สิ้นปีกับช่วงประมาณกลางปีครับ ที่มีการทําเซลล์กระปุ่มมชนต่างๆ ครับ

  • หัวข้อ : รายได้ค่าสิทธิ์หรือแบรนด์น้ำมันมวยที่เราส่งไปขายยุโรป น่าจะหมายความว่าเรา เราได้ค่าลิขสิทธิ์หรือเปล่าสำหรับแบรนด์น้ำมันมวยที่เราส่งไปขายที่ยุโรป

  • คำตอบ : ได้ครับ

  • หัวข้อ : เป้า 2,400 ล้านบาท ยังเป็นไปตามแผนหรือไม่ หลังจากผ่านมา 5 เดือน

  • คำตอบ : ก็จะพยายามทําให้ดีที่สุดนะครับเราก็มีการตรวจสอบสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาแล้วก็เราพยายามทําตาม ทําตามแผนที่เรามีวางไว้นะครับอาจจะมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยแต่ว่าจะก็จะพยายามทําให้ดีที่สุดครับ

คำถามหมดแล้ว

ถ้าอย่างงั้นเราขอปิดจบเลยนะครับ ขอบคุณมากนะครับที่เข้ามาฟังครับ ค่ะ แล้วก็เจอกันในไตรมาสหน้าค่ะ ขอบคุณค่ะ ครับสวัสดีครับ

โดยสรุปแล้ว SELIC มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้า สร้างความแข็งแกร่งให้แบรนด์ และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน โดยยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและตอบแทนสังคม

โพสต์ล่าสุด