TSC ชูแผนขยายตลาดอเมริกาเหนือ สู่ผู้นำชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด ปี 2568

P/E 11.25 YIELD 8.00 ราคา 15.00 (0.00%)

TSC ชูแผนขยายตลาดอเมริกาเหนือ สู่ผู้นำชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด ปี 2568

สวัสดีค่ะ ทุกท่านเข้าสู่กิจกรรม Opportunity Day ของบริษัท ไทย สตีล เคเบิล จำกัด มหาชน หรือ TSC วันนี้ดิฉัน ภัทรา ชัยยศบูรณะ ผู้จัดการอาวุโส ส่วนงานปฏิบัติการธุรกิจ จะเป็นตัวแทนในการนำเสนอข้อมูลรายงานผลการดำเนินงานในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงรายงานข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ และตอบคำถามจากผู้รับชมไลฟ์

Agenda สำหรับวันนี้ประกอบด้วย:

  1. Company Overview
  2. Automotive Industry
  3. Performance ของ TSC
  4. Business Outlook รวมถึงโอกาสของ TSC

ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

TSC ก่อตั้งในปี 2521 และปีนี้เข้าสู่ปีที่ 47 ในปี 2524 ได้ร่วมทุนกับบริษัท ไฮ-เล็กซ์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งใน Global Company ในกลุ่มชุดสายควบคุมรถยนต์ และชุดควบคุมกระจก ในปี 2548 เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และปี 2553 ก่อตั้ง R&D Center เพื่อเพิ่มศักยภาพในการออกแบบและวิจัยงานใหม่ๆ ให้กับลูกค้า ในปี 2557 ขยายโรงงานเพื่อรองรับธุรกิจยานยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น

TSC ได้รับการรับรองจากแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทยครั้งแรกในปี 2559 และครั้งที่สองในปี 2565 ได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในระดับ 5 ดาวหรือดีเลิศมา 9 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2559 ถึงปีล่าสุด และได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืนในปี 2567 ที่ระดับแรงค์ A จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทแบ่งเป็น 2 ส่วน:

  1. รถมอเตอร์ไซค์: สายควบคุมบนรถมอเตอร์ไซค์ เช่น สายคันเร่ง, สายปรับบอก, สายเบรก และสายใหม่
  2. รถยนต์: สายเปิดฝากระโปรงหน้า-หลัง, สายเปิดปิดประตู, สายปรับเบาะ, สายเบรก, สายเกียร์ และ Window Regulator (ชุดควบคุมการเปิดปิดกระจก)

โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

ยอดผลิตรถยนต์ทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงหรือเติบโตในอัตราที่ต่ำ ประเทศไทยมียอดผลิต 1.47 ล้านคัน ลดลง 20% หลักๆ มาจากยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ สภาอุตสาหกรรมตั้งเป้าปี 2568 จะเติบโต 2-3% หรือผลิตประมาณ 1.5 ล้านคัน โดยเป็นยอดส่งออก 1 ล้านคัน และยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 500,000 คัน

ยอดขายในประเทศไทยปี 2567 ลดลง 27% ส่งผลให้ยอดผลิตรวมลดลง ส่วนหนึ่งมาจากการเข้ามาของรถยนต์ EV ที่แย่งส่วนแบ่งตลาดไปจากค่ายรถที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ

TSC มีสัดส่วนการตลาดในประเทศ:

  1. รถมอเตอร์ไซค์: ประมาณ 98%
  2. สายควบคุมในรถยนต์: ประมาณ 77%
  3. Window Regulator: 21%

TSC พยายามขยายตลาดส่งออกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันส่งออกไปแทบทุกภูมิภาค รวมถึงประเทศปากีสถาน และได้รับโอกาสใหม่ๆ ในตลาด North America (USA และ Mexico)

ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

รายได้ของ TSC ในครึ่งปีแรกลดลง 12% สอดคล้องกับยอดผลิตที่ลดลง แต่ Gross Profit ทำกำไรได้ดีขึ้น 1.17% และ Net Profit ดีขึ้น 1.59%

บริษัทมีนโยบายปันผลขั้นต่ำ 25% ของ Net Profit และยังคงยึดมั่นที่จะจ่ายปันผลให้ได้ตามเดิมในทุกๆ ปี

วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

TSC ดำเนินการเชิงรุกเพื่อรับมือกับความท้าทายในอุตสาหกรรมยานยนต์ และมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนี้:

  • ขยายตลาดต่างประเทศ: เพิ่มการส่งออกไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพ เช่น อเมริกาเหนือ
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่: ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และไฮบริด
  • ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต: นำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาใช้ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

เศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ต่ำ รวมถึงประเทศไทยที่คาดว่าจะเติบโต 1.6% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 2.6%

TSC มองเห็นโอกาสในการขยายตัวจากการลงทุนของค่ายรถยนต์จีนในประเทศไทย และได้ทำ Technical Agreement ร่วมกับบริษัท Chongqing Hilex Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักให้กับค่ายรถยนต์จีนในเมืองจีน ทำให้ TSC มีโอกาสเปิดธุรกิจกับค่ายรถยนต์เหล่านี้ได้เร็วขึ้น

Thailand EV Board กระตุ้นการผลิตรถแบตเตอรี่ EV และ Hybrid เพื่อสนับสนุนค่ายรถญี่ปุ่นที่ยังคงปรับตัวกับการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี โดยมีโครงการสนับสนุนในเรื่องของ Tax Incentive และลดภาษีสรรพสามิต

นอกจากนี้ รัฐบาลยังกระตุ้น Demand ในประเทศด้วยการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนและการปล่อยกู้ที่ยากลำบาก โดยมี Incentive ที่จะเข้ามาช่วย End User ในเรื่องของการทำ Pickup Truck Loan

TSC ยังมี Project ร่วมกับลูกค้าในระดับ Global เช่น Ford และมีโอกาสในการขยายตลาดไปสู่ North America Region

ไฮไลท์ของบริษัทในปี 2568:

  1. ขายสินค้าปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง (มอเตอร์ไซค์เคเบิล, Automobil Cable, Window Regulator)
  2. เพิ่มผลิตภัณฑ์และสินค้าใหม่ๆ (Absorber, Testing Service)
  3. พัฒนา System ที่ใช้คู่กับ Tailgate Cable สำหรับรถกระบะ

Opportunity ใหม่ๆ ของบริษัท:

  1. Door Module (Integrate Window Regulator)
  2. Power Liftgate (ระบบไฟฟ้าเปิดปิดประตูท้าย)
  3. Seat Actuator (ปรับเบาะด้วยไฟฟ้า)
  4. Seat Module (ประกอบสาย Mechanic สำหรับปรับเบาะ)

TSC พยายามนำเสนอและโปรโมทสินค้าเหล่านี้ให้กับ Major OEM ในประเทศไทย และได้เริ่มเดินสายโปรโมทให้กับลูกค้าหลายราย เช่น Toyota โดยนำสินค้าไปโปรโมทในงาน Exhibition

TSC ยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในภาวะเศรษฐกิจที่อาจจะดูว่าไม่มีความเติบโตอย่างมากมาย แต่โอกาสทางการขายของบริษัทยังคงมีอย่างมากมายในอนาคต ในปี 2568 ยังมีรถอีกหลายรุ่นที่ได้รับ Award และกำลังจะเปิดตัว และยังมีรุ่นใหม่ๆ ที่อยู่ในช่วงของการเสนอราคาหรือ Bid Project ร่วมกับลูกค้า

ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 49:30]

คำถาม 1: แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2568 เป็นอย่างไร และบริษัทจะมีการปรับตัวอย่างไร?
คำตอบ: ยอดผลิตในช่วง 4 เดือนแรกยังไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ แต่ด้วยโครงการที่รัฐบาล Launch ออกมาอย่างต่อเนื่อง และโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ คาดว่าในครึ่งปีข้างหน้าจะมีการ Catch Up ตลาดส่งออกเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ต้องพยายามขยายธุรกิจและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องไปยังลูกค้าอื่นๆ สิ่งที่ TSC ต้องทำคือการพยายามเสาะหาชิ้นส่วน ขยายฐานชิ้นส่วน และขยายในเรื่องของระบบสินค้าใหม่ๆ ทั้งในเรื่องของ EV และระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มมากขึ้น และปรับเปลี่ยนสายการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นำ Automation มาใช้ หรือระบบ Digital เพื่อเพิ่ม Productivity

คำถาม 2: บริษัทมีแผนลงทุนเพิ่มเติมเทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ EV หรือไม่?
คำตอบ: TSC และ Hilex Global มีการนำ Innovation ใหม่ๆ เข้ามาเติมในเรื่องของ Volume ที่หายไป หรือยอดขายหรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องหายไปจากเทคโนโลยีไฟฟ้าที่เข้ามาทดแทน มีการ Budget ขึ้นมาส่วนหนึ่งในการที่จะทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันกับทางบริษัทแม่ Hilex เพื่อที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพิ่มเติม ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่กำลังจะมาในอนาคต

คำถาม 3: รายได้ของบริษัทใน 2 ไตรมาสที่ผ่านมาลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาของ 2 ปีก่อน แต่ทำไม CP และ Net Profit ถึงเพิ่มขึ้น?
คำตอบ: รายได้ลดลงสอดคล้องกับยอดผลิตในประเทศ แต่ทุกๆ ค่ายจะต้องอยู่ในช่วงของการปรับตัว และพยายามที่จะเพิ่มยอดขายในช่วงไตรมาสหรือในช่วงครึ่งปีที่เหลือ จากการประเมินในปี 2568 ภาครวมธุรกิจภายใต้ความท้าทายของเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงนโยบายการค้าของทางสหรัฐด้วย ซึ่งส่งผลกระทบกับทั่วโลก ก็ไม่ได้มีแต่เรื่องที่ไม่ดี ในมุมของรายได้ก็เพิ่มโอกาสในการขายให้กับทางเราด้วยเช่นกันที่ มีโอกาสในการทำ Project ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

โดยรวมแล้ว TSC มุ่งเน้นการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยการขยายตลาดต่างประเทศ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตในระยะยาว

หากท่านใดมีคำถามเพิ่มเติม สามารถส่งมาได้ทางอีเมลที่ ir@tscplc.com ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมการถ่ายทอดสด และขอบคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำหรับการสนับสนุนกิจกรรมดีๆ ในวันนี้ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ

โพสต์ล่าสุด