บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
FSMART โชว์ผลงาน Q1/67 กำไรโตต่อเนื่อง เดินหน้าขยายธุรกิจสินเชื่อ และ New S-Curve สู่เป้าหมาย 2000 ล้านบาท
P/E 8.88 YIELD 3.43 ราคา 6.70 (0.00%)
FSMART โชว์ผลงาน Q1/67 กำไรโตต่อเนื่อง เดินหน้าขยายธุรกิจสินเชื่อ และ New S-Curve สู่เป้าหมาย 2000 ล้านบาท
1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**บริษัท Force Smart Service (FSMART) ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์ mai ด้วยทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท มีทุนชำระแล้วรวม 376 ล้านบาท ได้รับคะแนน CGR ในระดับดีมาก และเข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กรต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลักคือ Force Corporation ถือหุ้น 52.6% และกลุ่มอมตานนท์ 7.07%
ผลประกอบการในไตรมาส 1 บริษัทมีรายได้รวม 680 ล้านบาท กำไรสุทธิ 153 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.20 บาทต่อหุ้น สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนอยู่ที่ 0.58 เท่า บริษัทมีการจ่ายผลตอบแทนเป็นเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอทุกปี
2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**วิสัยทัศน์ของบริษัทคือนวัตกรรมที่ยั่งยืนเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น โดยแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม:
- กลุ่มธุรกิจการเป็นตัวแทนการรับชำระเงิน
- กลุ่มธุรกิจการเป็นตัวแทนธนาคารและสินเชื่อ
- กลุ่มธุรกิจในอนาคต (EV Charging และตู้เต่าบิน)
กลุ่มธุรกิจแรก FSMART เป็นแพลตฟอร์มให้บริการรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครื่องรับชำระเงินอัตโนมัติทั่วประเทศ โดยมีตู้บุญเติมมากกว่า 119,702 ตู้ และเคาน์เตอร์แคชเชียร์มากกว่า 3,800 สาขา มีลูกค้าใช้บริการผ่านช่องทางของบริษัททั้งหมดมากกว่า 14 ล้านคน โดยเฉลี่ยประมาณ 1 ล้าน transaction ต่อวัน
มูลค่าการเติมเงินผ่านช่องทางของบริษัทในไตรมาส 1 อยู่ที่ 8,998 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สำหรับการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินของการซื้อเติมเงินอินเทอร์เน็ต มีภาพรวมอยู่ที่ 1,926 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 5.1% แต่บริการเติมเงินอินเทอร์เน็ต (ตัว West) เพิ่มขึ้นถึง 47.4% ตัวบริการกระเป๋าเงิน เติมเงินเข้ากระเป๋าเงิน ในไตรมาส 1 รวมอยู่ที่ 2,287 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ธุรกรรมการโอนเงินผ่านช่องทางของบริษัทอยู่ที่ 3,671 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3.5%
กลุ่มธุรกิจที่สอง เป็นกลุ่มธุรกิจของ "การเป็นตัวแทนธนาคาร" ซึ่งมีการบริการโอนเงินผ่านตู้บุญเติม นอกจากนี้ยังมีธุรกิจสินเชื่อที่ให้สินเชื่อกับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยทำการขอวงเงินสินเชื่อผ่านออนไลน์ทั้งหมด ผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท (Line OA, เว็บไซต์, แอปพลิเคชัน) และใช้วิธีการหักชำระเป็นรายเดือน โดยตัดบัญชีธนาคาร
3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**บริษัทฯ ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ, สังคม, และการเมือง ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในอนาคต
4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**บริษัทมีทีมในการติดตามหนี้ของบริษัท ทำให้มีจุดแข็งในเรื่องของการติดตามหนี้และการให้วงเงิน ณ ไตรมาส 1 มียอดลูกหนี้คงเหลือ ณ สิ้นงวดอยู่ที่ 1,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึง 231% และเพิ่มขึ้น 12.0% เมื่อเทียบกับตอนสิ้นปี อัตราส่วนหนี้เสียลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่ที่ 2.6%
กลุ่มธุรกิจที่สาม เป็นธุรกิจในกลุ่มของธุรกิจอนาคต จะเป็น EV Charger ภายใต้แบรนด์ "กิ้งก่าชาร์จพอยท์" บริษัทฯ ยังคงขยายการติดตั้งตู้เครื่องกิ้งก่าทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยรูปแบบการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขายหรือร่วมลงทุนกับเจ้าของพื้นที่ต่างๆ ในไตรมาส 1 ติดตั้งได้รวมทั้งหมด 354 สถานี
บริษัทฯ ยังคงรักษาจำนวนตู้บุญเติมให้ครอบคลุมทั่วประเทศอยู่ที่ 120,000 จุด และมีช่องทางเคาน์เตอร์แคชเชียร์อีก 3,000 กว่าจุด มีเป้าหมายให้ทุกตำบลทุกอำเภอมีตู้บุญเติม และเพิ่มบริการหน้าตู้ ดูแลความสะอาดและคุณภาพการให้บริการ ปีนี้ยังเน้นเพิ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มต่างด้าวให้มาทำธุรกรรมผ่านตู้
ตัวธุรกิจสินเชื่อ มีการเติบโตค่อนข้างสูงในปีที่ผ่านมา พอร์ตเกือบ 1,200 ล้านบาท (1,182 ล้านบาท) วางเป้าให้ถึง 2,000 ล้านบาท และควบคุมคุณภาพหนี้ให้ NPL ไม่เกิน 3% โดยจะโฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีรายได้จากภาครัฐ และใช้วิธีการเก็บเงินผ่านบัญชี
5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**ธุรกิจที่เป็น New S-Curve เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า พยายามเพิ่มตู้เข้าไป จากเดิมปีที่ผ่านมา 200 กว่าเครื่อง ตั้งเป้าปีนี้ให้ถึง 1,000 จุด และเพิ่มรุ่นเพิ่มเติมเข้าไป เป็นตัว DC 40 กิโลวัตต์ ส่วนเต่าบิน ปัจจุบันมีอยู่ 7,000 กว่าเครื่อง สิ้นปีพยายามไปให้ถึง 10,000 ตู้ แนวโน้มไตรมาส 1 ดีขึ้นจากไตรมาส 4
พัฒนาการที่สำคัญของเต่าบินในปีนี้ จะมีการเพิ่ม product ใหม่เข้าไป คือ "เต่าปั่น" นำผลไม้สดของเกษตรกรไทยเข้ามา และเพิ่มตู้ในรูปแบบของตัวที่เป็นสไปรัล สามารถซื้อและกดได้ที่เครื่อง พอแก้วผลไม้สดออกมาก็เอาไปปั่นที่ตัวตู้ นอกจากนี้ จะมีเต่าบินที่ฝาหน้าค่อนข้างสวย สำหรับบางทำเล (คอนโด, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า) ที่ต้องการตู้ที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม สามารถที่จะไปเป็นจุดโชว์ได้
อีก product คือเครื่องโซดา ที่สามารถตั้งที่โต๊ะและกดโซดาได้ทันที เป็นโซดาที่ซ่าและเย็น คาดว่าจะตอบโจทย์ลูกค้าหรือกลุ่มร้านอาหารที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น งบลงทุนปีนี้อยู่ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท หลักๆ คือธุรกิจสินเชื่อ, เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า, และระบบ IT
มูลค่าการเติมเงินรวมของบริษัทในไตรมาส 1 อยู่ที่ 8,998 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน สัดส่วนมูลค่าการทำรายการผ่านช่องทางของบริษัท การเติมเงิน Mobile สัดส่วนลดลงเล็กน้อย แต่บริการโอนเงินเพิ่มขึ้นจาก 39 เป็น 41% เนื่องจากการขยายช่องทางการโอนเงินผ่านเคาน์เตอร์ และสัดส่วน vending machine เพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 6%
ยอดมูลค่าหนี้คงเหลือ ณ วันสิ้นงวดอยู่ที่ 1,324 ล้านบาท อัตราส่วน NPL อยู่ที่ 2.6% รายได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 71.7 ล้านบาท กำไรอยู่ที่ 42 ล้านบาท เปอร์เซ็นต์การตั้งสำรองของบริษัทมีการตั้งสำรองไว้มากกว่าที่หนี้ที่คาดว่าจะเสีย มากถึง 172%
รายได้ไตรมาส 1 รวมอยู่ที่ 680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 สัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นหลักๆ มาจากตัวของการโอนเงินและสินเชื่อ กำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 267 ล้านบาท หรือ 39% เพิ่มขึ้น 44.7% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 153 ล้านบาท หรือ 22% เพิ่มขึ้น 63.5% ส่วนหนึ่งมาจากการที่ตู้บุญเติมที่หมดอายุการใช้งานแต่ยังสามารถให้บริการได้ และจากสินเชื่อที่มีการขยายพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น
สินทรัพย์รวมของบริษัทรวมอยู่ที่ 3,347 ล้านบาท หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่ที่ 844 ล้านบาท หนี้สินอื่นๆ 1,059 ล้านบาท ทำให้ส่วนของทุนอยู่ที่ 1,444 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ 34% อัตราผลตอบแทนของสินทรัพย์อยู่ที่ 14.7% เนื่องจากการที่บริษัทสามารถบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้มีรายได้ได้อย่างสม่ำเสมอ
หนี้สินส่วนทุน (DE Ratio) อยู่ที่ 1.32 เท่า หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนทุนอยู่ที่ 0.58 เท่า เนื่องจากในไตรมาส 1 บริษัทมีการจ่ายชำระตัวหนี้เงินกู้ให้กับธนาคารไปบางส่วน ทำให้หนี้สินตรงนี้ลดลง สภาพคล่องของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีเงินสดจากการดำเนินงาน 153 ล้านบาท มีการเรียกเก็บชำระหนี้จากลูกหนี้ 103 ล้านบาท มีการขยายสินเชื่อเพิ่มใน 3 ไตรมาส รวมอยู่ที่ 141.05 ล้านบาท ทำให้มีเงินสดคงเหลือเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 33.3 ล้านบาท
6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 27.04]**คำถามและคำตอบส่วนใหญ่เน้นไปที่ธุรกิจสินเชื่อ โดยผู้บริหารได้ตอบคำถามเกี่ยวกับความกังวลใน 1-3 ปีข้างหน้า โดยเน้นที่การปรับตัวให้เร็วที่สุด และมีธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันมี 3 ธุรกิจ ซึ่งแต่ละธุรกิจก็เติบโต ธุรกิจตู้เติมเงินยังคงรักษาระดับยอดเติม รายได้ และกำไรไว้ได้ ส่วนธุรกิจสินเชื่อก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่ปีที่แล้ว และพยายามเติบโตอย่างมั่นคง
ธุรกิจอนาคตต้องใช้เวลาหน่อย โดยเฉพาะเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่คาดว่าอีก 2-3 ปี จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น และเครื่องชาร์จที่ลงทุนไปจะค่อยๆ เห็นภาพมากขึ้น อีก 2-3 ปี ก็อาจจะมีรายได้และกำไรที่เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น ส่วนเต่าบิน ที่ Smart ไปลงทุน 26% คาดว่าปีนี้จะมีตู้ที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น การปรับปรุงคุณภาพตู้และใส่เทคโนโลยีเข้าไป จะทำให้ตู้เต่าบินดีขึ้นเรื่อยๆ
ROIC และ WACC
ROIC ของ Smart อยู่ที่ 20% WACC อยู่ที่ 2-3%
ธุรกิจสินเชื่อและการค้ำประกัน
ธุรกิจสินเชื่อ ลูกค้ายินยอมให้หักบัญชีแล้วทำไมยังมี NPL เกิดขึ้นอยู่ ผู้บริหารอธิบายว่า 2 ปีแรก มีการปล่อยสินเชื่อแบบไม่ได้หักบัญชี ทำให้มีหนี้เสียเกิดขึ้นมาเยอะ และพยายามติดตามหนี้ ส่วนกลุ่มใหม่ที่หักบัญชี ถามว่ามีหักไม่ได้ไหม ก็มีบ้าง กรณีที่เงินในบัญชีไม่พอ หรือบางรายเงินเข้าก็เอาเงินออกเลย แต่เป็นส่วนน้อย และมีทีมตามหนี้ สเต็ป 2 พอหักไม่ได้ปุ๊บก็จะมีทีมโฟนโทรไปทวง มีทีมภาคสนามไปหาตามบ้าน มีทีมส่งจดหมายโนติส ทีมฟ้องศาล มีอีกหลายสเต็ป แต่การที่หักเงินไม่ได้มีส่วนน้อยมากๆ
เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อ
สินเชื่อเดิมมี 1,200 ล้าน พยายามให้เพิ่มไตรมาสละ 200 ช่วงพีคๆ เพิ่มเดือนละ 100 พยายามสิ้นปีมี 1,200 พยายามเพิ่มไตรมาสละ 200 เพื่อให้ปลายปีประมาณ 1,800-2,000 ล้านบาท ตอนนี้มีกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่อยู่กลุ่มหนึ่งที่มีล้านคน และได้มาอีก 2 กลุ่ม ที่ขนาดประมาณ 4-5 หมื่นราย และกำลังลุ้นเพื่อให้ทันเดือนหน้า เพื่อเป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ที่มีกว่า 5 แสนราย
แผนการเพิ่มทุน
Smart จะเพิ่มทุนเมื่อไหร่ อย่างไร การเพิ่มทุน 40 กว่าล้านหุ้น เท่ากับสิ่งที่เคยลดทุนมา กลับไปจำนวนหุ้นเท่าเดิมตอน IPO 40 กว่าล้านหุ้นที่จะเพิ่มเข้ามา ตอนนั้นซื้อหุ้นคืน ต้นทุนอยู่ที่ 7.50 บาท สิ่งที่ไม่ต้องการคือเราเพิ่มทุนราคาให้น้อยกว่า 7.50 บาท และปัจจุบันก็ต้องดูสถานการณ์หลายๆ เรื่อง คงจะติดตามเป็นระยะ และถ้ามีเรื่องของมติบอร์ดก็มาก็จะเร่งสื่อสาร อย่างน้อยๆ ราคาต้องเฉลี่ยปัจจุบันต้องไม่ต่ำกว่าต้นทุนที่เราได้มาที่ 7.50 บาท
ดอกเบี้ยเงินกู้
ดอกเบี้ยเริ่มลงแล้ว ต้นทุนทางการเงินเริ่มลงบ้างไหม ผู้บริหารตอบว่าลดลงมานิดนึง ต้นทุนดอกเบี้ยอยู่ที่ประมาณ 3 ต้นๆ ตอนนี้ก็ปรับลงมานิดหน่อย ถือว่ายังต้นทุนไม่ได้สูงมาก
องค์กรใหม่
องค์กรใหม่ที่จะบอกได้หรือไม่ ผู้บริหารตอบว่าเล็กๆ ได้มา 2 องค์กร ประมาณหลัก 50,000 สมาชิกต่อ 1 องค์กร เริ่มแล้ว แต่ยังไม่เยอะ ยังเพิ่งสมัครเข้ามายังไม่ถึง 1,000 ราย องค์กรใหญ่ที่คาดหวังที่มีองค์กรขนาดใหญ่ 500,000 รายขึ้นไป คาดหวังว่าพยายามให้จบภายในเดือนหน้า เหลืออีกนิดนึง ส่วนยอดจะเห็นเข้ามาเยอะๆ น่าจะเป็นช่วงไตรมาส 3
**สินเชื่อซื้อปุ๋ย**เห็นมีการปล่อยกู้ซื้อปุ๋ย Q1 วิธีการปล่อยเป็นอย่างไร ผู้บริหารตอบว่าเป็นการปล่อยเป็นวงเงินไปที่ร้านที่ขายส่งปุ๋ย แล้วเกษตรกรก็ไปเลือก แล้วก็ใช้วงเงินของเรา แล้วก็ปุ๋ยก็ไปส่งที่บ้าน ก็ผ่อนปกติ 2 ปี 3 ปี ตามวงเงิน ตามอายุผ่อนที่ตกลงกัน
**NPL ที่ลดลง**NPL ที่ลดลงเพราะบริษัทไลท์ออฟไปหรือคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้นจริง ผู้บริหารตอบว่าตั้งแต่ทำสินเชื่อมายังไม่เคยไลท์ออฟเลย นี่ก็จะเป็นการโชว์ตัว NPL ที่แท้จริงเลย
**การปันผล**การที่บริษัทมาเน้นปล่อยกู้เป็นธุรกิจเงินต่อเงิน จะให้การจ่ายเงินปันผลลดลงไหม ผู้บริหารตอบว่ามีด้วยกัน 3 ธุรกิจ ธุรกิจที่เป็นตู้ รายได้กำไร ปีที่ผ่านมาหรือเทียบกับปีนี้ จะเห็นว่ามันรายได้มันแทบไม่ตกเลย กำไรกลับเพิ่มขึ้นด้วย การที่ธุรกิจตู้ ตู้บุญเติม 120,000 จุด อายุการใช้งานที่ตั้งไว้ประมาณ 8 ปี ปัจจุบันมันแทบจะเกินหมดแล้ว เท่ากับค่าเสื่อมแทบไม่มี เป็นกำไรที่เป็นเงินสดที่สม่ำเสมอ เป็นตัวที่เราสามารถที่จะจ่ายเงินปันผลในเรทที่ดีได้ เหมือนที่ผ่านมา
**ธุรกิจสินเชื่อ**ธุรกิจสินเชื่อ เป็นธุรกิจที่เราเพิ่งเพิ่งเริ่มขึ้นมา แล้วก็เติบโตได้ดี ช่วงแรกๆ ก็ต้องใช้เงินเยอะหน่อย จนเขาเรียกว่าพอร์ตโต Performance ดี Performance ดีเนี่ยเขาสามารถที่จะหมุนเงินของตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งตัวแม่ แล้วก็ปีหน้าก็จะมีแผนที่จะหลายเรื่อง การใช้เครื่องมือจัดการเงิน หรือว่าการทำอะไรต่างๆ เนี่ยเราจะมีอีกหลายตัว อาจจะมีอีกอีกหลายทางที่เราสามารถที่จะหาวงเงินมาเพิ่มให้กับธุรกิจสินเชื่อ
**เป้าหมายรายได้ปี 2567**Q1 มีพอร์ตสินเชื่อ Q1 มีแค่ 1,300 กว่าล้านเอง ปัจจุบัน 1,500 หรือยัง ผมพยายามเขาเรียกว่าเพิ่มขยายพอร์ตลูกหนี้แบบระมัดระวัง สิ่งที่เราตั้งใจเนี่ยก็คือปลายปีพยายามไปให้ถึง 1,800-2,000 ล้านบาท สิ่งที่เราเน้นสุดก็คือเรื่องของคุณภาพหนี้ เราพยายามจะกด NPL ให้ ให้ได้มากที่สุด ไม่เกิน 3% เต็มที่ หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องของหนี้ก้อนเก่าที่เราต้องไปตามกลับมา ก้อนใหม่ก็น้อยมากๆ ครับ ไม่ถึง 1% ตัว NPL พยายามระมัดระวังในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ตรงนั้นน่ะนะครับ แล้วก็ไตรมาส 1 ที่เราวางเป้าไว้ก็ประมาณสัก 200 ไตรมาสละ 200 ปลายปีก็ประมาณเกือบๆ 2,000
**พอร์ตลูกหนี้**Outstanding loan ที่มี และไม่มีหลักประกันสัดส่วนอย่างไร คือ Outstanding loan เราไม่มีหลักประกันเลย โดยเกือบๆ 100% เลย ที่ ที่ เราเป็นลักษณะของตัว พรีโลน ก็คือไม่ ไม่ มี หลัก ทรัพย์ ค้ํา ประกัน เราเป็นอย่างนั้น
**การเพิ่มทุน**หากการเพิ่มทุนไม่สำเร็จ จะมีผลกระทบอย่างไรบ้าง หรือ ลดราคาเพิ่มทุนไหมครับ สิ่งที่เราเตรียมตัวนะครับในเรื่องของวงเงินต่างๆ เพราะว่า ตัว ตัว พอร์ตลูกหนี้ปลายปีที่แล้วเนี่ยเรามีประมาณ 1,200 ล้านเนี่ยเราใช้เงินข้างในหมดเลยนะครับ ก็หลักๆ ก็คือเป็นการกู้ของ Smart นะครับ ก็มีเรื่องของการที่จะเพิ่มทุนนะครับ เอ่อเรื่องของการที่ Smart ช่วงปีหลัง ก็ไม่ได้จ่ายเงินผลนั้นนะครับ ก็คือทั้งสองเรื่องเนี่ยก็คือเก็บไว้สําหรับการปล่อย สินเชื่อก็จะเห็นว่ามันมีการเติบโตค่อนข้างมาก ปีที่แล้วเนี่ย ตัวสินเชื่อกําไร 80 นะครับ ไตรมาส 1 ที่ทุกท่านเห็นเนี่ยกําไรไตรมาสเดียว 42 นะครับ ก็คูณ 4 เข้าไป ก็ ก็ถือว่าเป็น อ่าหาเงินมานะครับ แล้วก็เซฟในส่วนของต้นทุนดอกเบี้ยนะครับ แล้วก็ไปเพิ่ม ตัว อัตรา กําไร ขึ้นมา นะครับ เพื่อ ที่ จะ ทํา ให้ ตัว ธุรกิจ สิน เชื่อ เนี่ย สามารถ ที่ จะ ต่อ ยอด ด้วย ตัว เขา เอง นะ ครับ พอ พอ พอ Performance ดี เนี่ย การ กู้ แบงค์ วง เงิน อะไร ต่างๆ ก็ จะ ได้ มา ค่อนข้าง มาก อ่า นะ ครับ
เป้าหมายสินเชื่อรถไฟฟ้า
สุดท้ายไม่ได้เพิ่มทุน หรือว่าราคาไม่ถึง ไม่เกิน 7.50 บาท เนี่ย ก็จะมีผลไหม จริงๆ เราก็มีวงเงินที่เราเตรียมไว้ อยู่ส่วนหนึ่งนะครับที่ตอนนี้แบงค์เริ่มปล่อยกู้ให้ตัว ลูกนะครับ แล้วก็มีวงเงินเพิ่มมากขึ้นเนี่ยตอนนี้ถึงสิ้นปีเนี่ย อ่า2,000 ล้านเนี่ยเราเตรียมเงินไว้ เพียงพอแล้ว