https://aio.panphol.com/assets/images/community/6554_b8dc9a.png

ถอดรหัส Oppday TKN: เผยกลยุทธ์โตท่ามกลางวิกฤต เศรษฐกิจ ปี 2568

P/E 12.71 YIELD 12.57 ราคา 4.06 (0.00%)

โอเคครับ เริ่มเลยนะครับ

ถอดรหัส Oppday TKN: เผยกลยุทธ์โตท่ามกลางวิกฤต เศรษฐกิจ ปี 2568

1. **ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):**

ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจและสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดย TKN สามารถปิดยอดขายได้ 1,337.4 ล้านบาท แต่ Gross Profit ลดลงเหลือ 27% เนื่องจากราคาวัตถุดิบสาหร่ายที่ซื้อเมื่อปี 2567 สูงขึ้น 50% ทำให้ Net Profit อยู่ที่ 7.4% ของยอดขาย

ยอดขายลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว (Year-on-Year) โดยหลักมาจากตลาดต่างประเทศ แต่ตลาดในประเทศยังคงทำได้ดี

2. **โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):**

บริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตโดยใช้กลยุทธ์ 3 Go: Go Firm, Go Broad, และ Go Global โดยมีแผนการสื่อสารเรื่อง E-V-N (Efficiency, Volume, New Product) เพิ่มเติม

  • Efficiency: เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อลดต้นทุนและสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยการใช้ Automation และการลงทุนเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้าน BOI
  • Volume: เพิ่มปริมาณการขายโดยปรับ Pack Price ให้เหมาะสมกับแต่ละช่องทาง
  • Strategic Partnership: การเติบโตของบริษัทต้องอาศัย Strategic Partnership กับหลายๆ ที่ เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน

การหาลูกค้าใหม่ในต่างประเทศผ่านงาน Trade Fair และการสร้างสินค้าใหม่ (NPD) ที่เหมาะกับผู้บริโภคและ Lifestyle ในแต่ละประเทศ

3. **ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):**

บริษัทเผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่ทำให้ยอดส่งออกชะลอตัวลง ผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการบริโภคมาเน้นสินค้าราคาประหยัดและปริมาณน้อยลง

การแข่งขันในประเทศจีนสูงขึ้นจากสินค้าในประเทศที่มีราคาต่ำกว่า แม้คุณภาพอาจยังไม่เทียบเท่าแบรนด์นำเข้า

ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีบทบาทต่อยอดขาย

4. **วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):**

บริษัทไม่ได้ลดการใช้จ่ายด้านการสร้างแบรนด์และการเชื่อมต่อกับผู้บริโภค โดยยังคงจัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เทศกาลตรุษจีนและฮารีรายาในต่างประเทศ

การแก้ไขปัญหา Supply Short ในเกาหลีโดยการขยายพื้นที่เพาะปลูก

การปรับกลยุทธ์ด้านราคาและขนาดสินค้าให้เหมาะสมกับแต่ละช่องทาง

5. **แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):**

บริษัทยังคงมองการเติบโตในปี 2568 ที่ 7-9% โดยเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การเพิ่ม Volume การขาย และการสร้าง Strategic Partnership

คาดการณ์ว่าราคาขายเฉลี่ยสาหร่ายปี 2568 จะลดลงจากปี 2567 ประมาณ 10-12% แต่ยังสูงกว่าปี 2566

การขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ๆ ในอาเซียนและ CLMV รวมถึงตลาดยุโรป

6. **ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [00:38:14]**
  • **คำถามเกี่ยวกับแบรนด์ขนมขบเคี้ยวออนไลน์:**
    • **คำถาม:** ปัจจุบันมีแบรนด์ขนมขบเคี้ยวที่ขายออนไลน์เยอะมาก บริษัทมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อธุรกิจหลักหรือไม่?
    • **คำตอบ:** ตลาดขนมขบเคี้ยวในไทยมีมูลค่าเกือบ 5 หมื่นล้านบาท ผู้บริโภคมีพฤติกรรมเลือกขนมที่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น สาหร่ายมีภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย บริษัทมีผลิตภัณฑ์อบที่ตอบโจทย์ผู้หญิงและ First Jobber ที่ใส่ใจสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น สาหร่าย Topping และ Tempura ที่สร้างการเติบโต บริษัทเน้นสร้างแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ รสชาติอร่อย และใช้วัตถุดิบที่ดี
  • **คำถามเกี่ยวกับราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น:**
    • **คำถาม:** ราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น ทำไมไม่ปรับราคาจาก 39 บาท เป็น 49 บาท จะกระทบยอดขายหรือไม่?
    • **คำตอบ:** บริษัทปรับตัวมาตลอดตั้งแต่กลางปีที่แล้ว มีสินค้ากลุ่ม 5 บาท ที่พยายามตรึงราคาไว้ ลดต้นทุนทุกวิถีทาง เช่น เอา กล่องออก ใส่ถุงโลหะแทน มองเรื่อง Secter อื่นๆ เพื่อปรับราคาสำหรับผู้บริโภคที่อ่อนไหวต่อราคา ทำให้รักษา Volume ไว้ได้ Quarter แรกโต 16% มอง SKU แต่ละตัวว่า Target คือใคร เช่น นักท่องเที่ยว หรือ First Jobber แล้ว Balance เรื่อง Volume ในภาพรวม
  • **คำถามเกี่ยวกับจุดต่ำสุดในไตรมาส 1 และสินค้าคู่แข่ง:**
    • **คำถาม:** บริษัทมองว่าไตรมาส 1 เป็นจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง และสินค้าคู่แข่งมีสินค้าคล้ายคลึงกันมากขึ้น ผู้บริโภคจะเห็นความแตกต่างได้อย่างไร?
    • **คำตอบ:** Branding คือสิ่งสำคัญ ชื่อเถ้าแก่น้อยคือคุณภาพและความน่าเชื่อถือที่ผู้บริโภคให้มาตลอด มีความอร่อย ความสดใหม่ของสินค้า และวัตถุดิบที่ใช้แตกต่างอย่างชัดเจน ทุก Quarter จะมีสินค้าใหม่ออกมาให้ลอง บริษัททำวิจัยและมองผู้บริโภคว่าต้องการอะไร เช่น สาหร่ายอบมีการเติบโตสูงมาก Quarter หน้าจะมีสาหร่ายอบแบบใหม่ๆ ออกมาอีก รวมถึงการขยายสาหร่ายอบแผ่นใหญ่ (Giant)
  • **คำถามเกี่ยวกับ Distributor ในจีน:**
    • **คำถาม:** Distributor ในจีนวันนี้ยังมีรายเดียวหรือมีเจ้าใหม่เข้ามา?
    • **คำตอบ:** เพิ่งกลับจากงาน Seal ที่เซี่ยงไฮ้ ยังเนื้อหอม มีคนอยากทำสินค้าเยอะ แต่เจรจากับคู่ค้ารายหลักที่ทำกันมานานว่าจะเปลี่ยนวิธีการอย่างไรให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและช่องทางที่เปลี่ยนไป คุยกันในรายละเอียดว่าจะเพิ่มอะไรยังไง

โดยสรุป, TKN เผชิญความท้าทายจากปัจจัยภายนอกและต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน โดยการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละตลาด

โพสต์ล่าสุด