บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
บินสู่ฟ้าใหม่! สรุป Oppday การบินไทย THAI ไตรมาส 1 ปี 2568: ฟื้นฟู, เติบโต, และอนาคตที่ยั่งยืน
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 8.35 (0.00%)แน่นอนครับ นี่คือสรุปเนื้อหาการประชุม Oppday ของหุ้น THAI (การบินไทย) ไตรมาส 1 ปี 2568 ตามโครงสร้างที่คุณกำหนด:
บินสู่ฟ้าใหม่! สรุป Oppday การบินไทย THAI ไตรมาส 1 ปี 2568: ฟื้นฟู, เติบโต, และอนาคตที่ยั่งยืน
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
การบินไทยได้รับผลกระทบทั้งเชิงบวกและเชิงลบในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้:
- รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็น 51,625 ล้านบาท
- กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit) เพิ่มขึ้น 23.3% อยู่ที่ 13,661 ล้านบาท
- อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit Margin) อยู่ที่ 19.72% เพิ่มขึ้น 5.6 percentage points
- กำไรสุทธิอยู่ที่ 9,839 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 300%
ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตคือการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในทวีปเอเชีย ตลาดหลักอย่างออสเตรเลียและยุโรป
- EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามสัญญาเช่าเครื่องบินลดลง 8% อยู่ที่ 12,728 ล้านบาท เนื่องจากการรับมอบเครื่องบินใหม่ ทำให้ค่าเช่าเครื่องบินเพิ่มขึ้น
- Passenger Yield (รายได้ต่อผู้โดยสาร) อยู่ที่ 2.91 บาทต่อ RPK (Revenue Passenger Kilometers) ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 23 สตางค์
- Freight Yield (รายได้ต่อการขนส่งสินค้า) อยู่ที่ 8.58 บาทต่อ RFTK (Revenue Freight Ton Kilometers) ต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 28 สตางค์ เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม การบินไทยยังคงสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี โดยมีต้นทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 75% ของระดับก่อนโควิด
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
การบินไทยมองเห็นโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน:
การบินไทยมีแผนที่จะนำเครื่องบินรุ่นใหม่เข้ามาประจำการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการดำเนินงาน
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
การบินไทยยังคงเผชิญกับความเสี่ยงและความท้าทายหลายประการ:
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
การบินไทยมีแผนการรับมือกับความเสี่ยงและความท้าทายเหล่านี้:
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
การบินไทยมีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นสายการบินชั้นนำในภูมิภาค โดยมีเป้าหมายหลักคือการ:
การบินไทยคาดว่าแนวโน้มการเติบโตของการเดินทางทางอากาศจะยังคงดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 32.12]
ช่วงถาม-ตอบมีการสอบถามในหลายประเด็น ผู้บริหารได้ตอบคำถามต่างๆ อย่างละเอียด โดยสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้:
- Q: มุมมองต่อธุรกิจการบินและการแข่งขันในปัจจุบัน?
- A: ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังมีความต้องการเดินทางสูง ตลาดหลักของการบินไทยอยู่ในยุโรป เอเชีย และออสเตรเลีย รายได้จากผู้โดยสาร 83% มาจากเส้นทางต่างประเทศ 41,000 ล้านบาท และในประเทศ 2,200 ล้านบาท ครึ่งหนึ่งของรายได้จากต่างประเทศมาจากเอเชีย และ 15,600 ล้านบาทจากยุโรป การบินไทยยังคงเติบโตได้
- Q: คาดว่าจะกลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เมื่อไหร่?
- A: ขึ้นอยู่กับการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการและการทำตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะเป็นภายในเดือนกรกฎาคมหรือต้นเดือนสิงหาคม
- Q: มีข้อจำกัดในการจ่ายเงินปันผลหรือไม่?
- A: เมื่อล้างขาดทุนสะสมหมดแล้ว การจ่ายเงินปันผลจะเป็นอำนาจของบริษัทที่จะพิจารณา
- Q: มีนโยบาย Hedging ราคาน้ำมันหรือไม่?
- A: เริ่มทำ Hedging ในปีนี้ โดยทำได้ไม่เกิน 12 เดือนล่วงหน้า
- Q: มีความคืบหน้าเกี่ยวกับ MRO ที่อู่ตะเภาอย่างไร?
- A: อยู่ในช่วงศึกษาความเป็นไปได้กับพันธมิตร และจะพิจารณาผลการศึกษาต่อไป
- Q: การบินไทยมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงเครื่องบินอย่างไร?
- A: MRO ของการบินไทยไม่เพียงแต่ให้บริการเครื่องบินของการบินไทยเอง แต่ยังให้บริการสายการบินอื่นด้วย
- Q: มีแผนเพิ่มเที่ยวบินและจุดบินหรือไม่?
- A: ในซัมเมอร์นี้ยังไม่มีแผนเพิ่มเที่ยวบินหรือจุดบิน แต่จะเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน โดยเฉพาะเมื่อรับมอบเครื่องบิน Narrow Body ปลายปีนี้
- Q: รายการสำคัญที่ทำให้ขาดทุนในปีที่แล้วคืออะไร และจะมีรายการแบบนี้อีกหรือไม่?
- A: การปรับโครงสร้างหนี้และการแปลงหนี้เป็นทุนทำให้เกิดผลขาดทุน แต่รายการใหญ่ๆ แบบนี้ไม่น่าจะมีอีกแล้ว จะเป็นการดำเนินงานตามปกติ
- Q: มุมมองต่อธุรกิจการบินและการแข่งขันในปัจจุบัน?
- Q: แผนการฟื้นฟูกิจการและการกลับเข้าตลาดหลักทรัพย์?
- Q: นโยบายการจ่ายเงินปันผล?
- Q: การบริหารความเสี่ยงด้านราคาน้ำมัน?
- Q: ความร่วมมือกับท่าอากาศยานอู่ตะเภา?
- Q: การซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO)?
- Q: แผนการเพิ่มเที่ยวบินและจุดบิน?
- Q: ผลกระทบจากรายการพิเศษทางบัญชี?
โดยรวมแล้ว การบินไทยกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูที่แข็งแกร่ง โดยมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแผนการที่ชัดเจนในการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต