บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
TMC อุตสาหกรรม โชว์วิสัยทัศน์ปี 2568: พัฒนาเทคโนโลยี, ขยายธุรกิจใหม่, ใส่ใจสุขภาพ และ ESG
P/E -100.00 YIELD 0.00 ราคา 0.74 (0.00%)
TMC อุตสาหกรรม โชว์วิสัยทัศน์ปี 2568: พัฒนาเทคโนโลยี, ขยายธุรกิจใหม่, ใส่ใจสุขภาพ และ ESG
สวัสดีครับ ผม ดร. ยศกร บ่มไล่ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ และกรรมการบริหาร
สวัสดีค่ะ ดิฉัน กานต์ทินันท์ เรืองจันทร์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน
วันนี้ TMC อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) มีความยินดีที่จะนำเสนอผลประกอบการ Q1/2568 โดยรายละเอียดจะประกอบด้วย:
- Company Overview
- Business Update Project Progress
- Financial Performance
- Business Outlook
TMC อุตสาหกรรมก่อตั้งเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2545 โดยใช้ชื่อทวีมิตรการช่าง เริ่มต้นจากการผลิตเครื่องจักรกลขนาดเล็กสำหรับอู่ซ่อมรถ งานซ่อม และงานบริการต่างๆ รวมถึงการแปรรูปโลหะเบื้องต้น เช่น งาน Machine และรับจ้างงานเชื่อม
ในปี 2525 รัฐบาลส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ TMC มองเห็นโอกาสในการตอบรับการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ การประกอบรถยนต์ การคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ จึงได้ก่อตั้ง TMC อุตสาหกรรม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท สร้างเครื่องเพรสระบบไฮดรอลิกตั้งแต่ 1 ตันถึง 3,000 ตัน และเครนที่ใช้สำหรับติดรถในอุตสาหกรรมก่อสร้างและเคลื่อนย้าย
ตั้งแต่ปี 2525 ถึง 2547 TMC พัฒนาระบบการผลิตเพื่อรองรับ disruption ด้าน IoT โดยปรับปรุงเครื่องจักรให้เชื่อมโยงกันได้ระหว่างเครื่องจักรกับเครื่องจักร และเครื่องจักรกับอุปกรณ์ภายนอก ออกแบบเครื่องจักรที่เป็น Smart Manufacturing โดยเพิ่มระบบควบคุมจากภายนอกและสร้างระบบ PLC Link ไปสู่อุปกรณ์ที่เชื่อมโยง เช่น AGV และ RGV รวมถึงพัฒนาการเชื่อมโยงกับระบบ Planning เพื่ออัปเดตข้อมูลการผลิตและวางแผนระบบการผลิตให้สอดคล้องกัน หรือที่เรียกว่า CPPS (Cyber Physical Production System) ครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
ปี 2555 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI และเปิด Trade วันแรกเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2555
ปี 2562 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ 2 ส่วนหลัก:
ปี 2564-2566 บริษัทได้รับโอกาสที่ดีจากบริษัทผลิตยางอัดก้อน และปรับปรุงพัฒนาร่วมกันโดยยกเลิกการนำเข้าเครื่องอัดยางจากมาเลเซีย และมาร่วมวางระบบ Line การผลิตกับ TMC โดยใช้ระบบ Sequencer และ Automation ปัจจุบันได้เพิ่มผู้ผลิตยางอัดก้อนรายใหญ่อีก 2-3 ราย ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีของ TMC
นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ กทม. ในการออกแบบและผลิตโครงการสะพานโครงสร้างเหล็กย่านกะดีจีน ด้วยศักยภาพในการออกแบบเชิง Mechanical, Hydraulic และ IoT ก่อสร้างสะพานที่ย่านกะดีจีนยาว 12 เมตร แบ่งเป็น 2 ช่วง (6 เมตร และ 24 เมตร) ที่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยระบบ Hydraulic และ IoT โดยพนักงานสามารถสั่งการให้สะพานเปิดปิดได้โดยไม่ต้อง Operate เอง
TMC ยังได้วิจัยและพัฒนาเครื่องจักรรีไซเคิล โดยร่วมมือกับบริษัท Hayama Pump Industry Corporation (ญี่ปุ่น) และสวรรค์ EMC พัฒนาเครื่องจักรกลในการจัดการขยะที่เป็นกากอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็น RDF3 และใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงให้กับกลุ่ม SCG และติดตั้งทดสอบที่ สปป. ลาว รวมถึงศึกษาการเพิ่มกำลังการผลิตและปรับปรุงเครื่องจักรให้สอดคล้องกับวัตถุดิบที่ลูกค้ามี
ปี 2567-2568 ได้ร่วมมือด้านวิชาการในการศึกษาและออกแบบขั้นตอนการแปรรูปวัสดุเหลือทิ้งเป็นผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงตามแนวทาง BCG (Bio-Circular-Green Economy) พัฒนาการออกแบบเครื่องจักรโดยนำพลาสติกที่เหลือทิ้งและน้ำมันต่างๆ มาทำเป็น ไพโรไลซิส ซึ่งผลการตรวจสอบค่าที่ได้อยู่ในขั้นดีเยี่ยม และพัฒนาเตาไบโอชาของ TMC เอง โดยออกแบบและสร้างเตาไบโอชาเพิ่มเติมขนาด 200 ลิตร, 1,000 ลิตร และ 5,000 ลิตร และจัดทำขออนุสิทธิบัตรและบัญชีนวัตกรรม เพื่อเป็นผลประโยชน์จากการออกแบบและพัฒนาให้สอดคล้องกับ User และผลิตภัณฑ์ของลูกค้าที่มี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นค่าความร้อนที่ได้ พลังงานที่เสียไป หรือ RDF และวัสดุต่างๆ ที่หายไป
ในวันที่ 28 เมษายน 2568 TMC ได้ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในด้านการส่งเสริมความร่วมมือในการศึกษาวิจัยและพัฒนาทักษะของบุคลากร รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมองว่าการวิจัยและพัฒนาเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานและเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงในยุค Disruption
สินค้าของ TMC แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก:
TMC เริ่มต้นจากอุปกรณ์ Handling Equipment และพัฒนาเครื่องจักรกลในปี 2525 สร้างเครื่องเพรสระบบไฮดรอลิก และเครนระบบไฮดรอลิก โดยควบคุมการทำงานด้วยระบบ Push Button ต่อมาได้เปลี่ยนเป็นระบบ PLC ในการควบคุม และปี 2567 ที่มี Disruption ด้าน IoT เราได้เชื่อมโยงให้เครื่องจักรสามารถอ่านระหว่างกันได้ และเชื่อมโยงเครื่องจักรกับอุปกรณ์ภายนอก รวมถึงระบบในการบริหารจัดการด้านโปรแกรม ทำให้เกิด Smart Factory ในการทำงาน
TMC สามารถทำระบบ Line การผลิตที่เป็น Smart Manufacturing หรือ B2B Business ทางด้าน Inbound, Outbound และกระบวนการภายใน โดยบริหารจัดการด้วยระบบ SCADA และสร้างความเป็น Multi Site ผ่าน Smart Phone ในการบริหารจัดการ
TMC ยังได้พัฒนาเพิ่มเติมในเรื่องของกลุ่มสินค้า Green Product เพื่อให้ตอบรับในเรื่องของ Bio Circular Green Economy ด้วยศักยภาพในการออกแบบและพัฒนา ทำให้เรานำเครื่องจักรไปช่วยเหลือเกษตรกร และภาครัฐในการจัดการขยะชุมชน เพื่อเป็น By-Product และสามารถจัดการฟางข้าวเพื่อเอามาเป็นพลังงาน และการจัดการใบอ้อยเพื่อมาเป็นพลังงาน
ในกระบวนการผลิตของ TMC กิจกรรมหลักเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการหาข้อมูลกับลูกค้าในการตัดสินใจออกแบบร่วมเพื่อสร้าง Value Added ร่วมกัน และเข้าสู่กระบวนการที่เป็นห่วงโซ่อุปทาน
สำหรับปีที่ผ่านมา TMC ได้บริหารจัดการแบ่งการสร้างห่วงโซ่คุณค่าออกเป็น 2 ส่วน:
ในปัจจุบัน Q1 TMC ได้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการเซ็นและการอนุมัติออนไลน์ ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้ทุกที่และทุกวัน รวมถึงผู้บริหารก็สามารถตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่มีอยู่ และทำให้การทำงานรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
TMC ได้รับมาตรฐานระดับสากล ได้แก่ มาตรฐานการกำกับดูแลกิจการระดับ 5 ดาวในปี 2523 และ 3 ดาวในปี 2524 ซึ่งได้มีการตรวจสอบและพบว่ามีรายละเอียดบางรายการที่ยังไม่สอดคล้อง ซึ่งในปี 2568 TMC มองว่าสิ่งที่้ไม่สอดคล้องในปี 2567 เราได้มีการบริหารจัดการโดยคาดการณ์ว่าในปี 2568 เราน่าจะเข้าสู่การได้ระดับ 5 ดาวเหมือนเดิม ซึ่งเป็น Mission และพันธกิจของผู้บริหารและทีมงาน
นอกจากนี้ ยังได้รับมาตรฐานระบบ ISO 9001 Version 2015 และ ISO 14001:2015 ซึ่ง ISO 14001 ในปี 2015 เรามองเรื่องของการได้รับ Surveillance ไม่เกินเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนที่เป็นอย่างช้าเนื่องจากจะต้องมีการตรวจสอบ Stage 1 ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน หรือไม่ก็ต้นเดือนกรกฎาคม และมีส่วน Award 2 ส่วนคือการอนุรักษ์พลังงาน และรุณลักษณ์ ศรีเสา
TMC มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาเครื่องจักรที่สามารถเชื่อมโยงในเรื่องของการทำงาน และ Transform เทคโนโลยี ในปัจจุบันได้มีการเพิ่มเรื่องของ Predictive ในเรื่องของการดูแลเครื่องจักร โดยร่วมมือกับบริษัท ยัสสกาวา ประเทศไทย ในการพัฒนาเครื่องจักรกลให้มีความฉลาดมากขึ้น และสามารถทำการ Predictive และประหยัดพลังงาน โดยเปลี่ยน Induction Motor เป็น Inverter และ Servo Motor ที่ใช้กับเครื่องจักรกล
TMC ยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยผลิตเครื่องจักรไพโรไลซิส ซึ่งผลการทดสอบคุณสมบัติและการวัดวิเคราะห์องค์ประกอบ ถือว่าเครื่องจักรที่ TMC มีอยู่ดีเยี่ยม และได้ผลของ Performance ในเรื่องของวัตถุดิบที่กลับมาเป็นไพโรไลซิสอยู่ที่ 75-85% ขึ้นอยู่กับวัสดุแต่ละชนิด
ในส่วนของเตาไบโอชา TMC ได้ออกแบบและผลิตเตาไบโอชาขนาด 200 ลิตร ซึ่งได้มีการออกไปจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัท และมีเตาไบโอชาขนาด 1,000 ลิตร และ 5,000 ลิตรที่จะใช้สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันเราได้นำตัวผลิตภัณฑ์ที่เป็น By-Product หรือตัวไบโอชาที่เกิดจากฟางข้าว มาเป็นถ่าน และซื้อฟางข้าวมาตีป่น แล้วอัดก้อนเป็น Wood Pellet และเอามาทำเป็นไบโอชา ทำให้เกษตรกรที่เป็นชาวนา มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำนาเพียงอย่างเดียว
TMC ยังได้พัฒนาและอยู่ในระหว่างดำเนินการออกแบบกระบวนการผลิตไบโอชา เพื่อการออกแบบกระบวนการผลิตฟางข้าว ให้ออกมาเป็นพลังงานเชื้อเพลิง โดยเฉพาะในกลุ่มของไบโอชา และกลุ่มอุตสาหกรรมที่เอาไปใช้สำหรับ Soil Conditioner ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการออกแบบและการพัฒนาร่วม ซึ่ง TMC ได้เข้าไปพูดคุยกับทางภาครัฐ และเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อที่จะมาใช้เป็นข้อมูลในการออกแบบและการพัฒนา
TMC เล็งเห็นถึงการดูแลสุขภาพของคนไทยและคนทั่วโลก จึงได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยชื่อว่าบริษัท ฟาร์มเมร่า บีอิ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 และเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ที่ชั้น G อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ สุขุมวิท โดยมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชำนาญการทางด้านการดูแลรักษาสุขภาพ
การบริการของคลินิก ได้แก่ Wellness, Detox, Vitamin Drip, Vitamin และโปรแกรมที่ช่วยปรับสมดุลและฟื้นฟูสุขภาพด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยชาวต่างชาติสูงถึง 40% และนอกจากคลินิก TMC ยังได้เพิ่มธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อมาขายไปซึ่งยาและเวชภัณฑ์ และการให้เช่าเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท ฟาร์มเมร่า บีอิ้ง ให้มากขึ้น
สรุป TMC มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี การขยายธุรกิจใหม่ การใส่ใจสุขภาพ และ ESG เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสังคม
ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่มในนาทีที่ 43:48]
คำตอบ: ในส่วนของหน่วยงานพัฒนาธุรกิจ ได้มีการกำหนดกลยุทธ์ในเรื่องของการแข่งขัน และมีเป้าหมายในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการบริหารจัดการโครงการ ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการออกแบบและพัฒนาด้วยมีโครงการทั้งหมด 3 โครงการหลักด้วยกันคือ
- โครงการที่ร่วมกับทางด้านศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์ในการพัฒนาเตาเผาขยะติดเชื้อซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการวิเคราะห์และก็ดูผลกระทบและในส่วนของการดำเนินการ
- โครงการของบางระกำโมเดลโดยการนำวัสดุเหลือทิ้งจากภาคการเกษตรโดยเฉพาะฟางข้าวมาทำการออกแบบและพัฒนาโดยการนำฟางข้าวให้เป็นพลังงานเชื้อเพลิงที่เป็นวุธผลิตแล้วก็ สามารถไปสร้าง Value เพิ่มโดยการสร้างเป็นตัวไบโอชานะครับแล้วก็ไปทำซอยคอนดิชั่นเนอร์
- ส่วนหนึ่งที่ได้มีการร่วมกับทางจุฬาเพิ่มเติมก็คือว่าการสร้างทางด้านเกาะแอคติเวเต็ดคาร์บอนคือการคือการกระตุ้นถ่านนะครับเพื่อให้เกิดรูพรุนเพื่อไปใช้งานอย่างอื่นเพื่อเป็นที่เป็นอเนกประสงค์โดยทั่วไป
- โครงการทางด้านของการจัดการขยะนะครับที่เป็นกับอุตสาหกรรมที่ สปก. ลาวซึ่งอยู่ในระหว่างผลการดำเนินการและการนำเสนอในรายละเอียด
คำตอบ: ในกลุ่มที่เป็น BCG โมเดล เรามีพาร์ทเนอร์ที่ทำเรื่องของ BCG โมเดล เราได้มีการออกแบบและพัฒนาเครื่องจักรกลที่เป็นสินค้า By-Product และได้มีการนำไปจำหน่ายและมีผลตอบรับค่อนข้างที่จะสูง ไม่ว่าจะเป็นถัง 200 ลิตร ที่เป็นทำเป็นไบโอชา ถังไบโอชาขนาด 1000 ลิตร รวมถึง 5000 ลิตร ซึ่งในปัจจุบันได้มีการนำเสนอกันอยู่ และได้นำไบโอชาที่ออกมาเป็น By-Product เพื่อที่จะใช้เป็นถ่านสำหรับการใช้กับงานอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นดับกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นใช้ในการเป็นสารฟอกขาว เราก็เริ่มได้มีการดำเนินการและก็คิดว่าเร็วๆนี้เราน่าจะมีการ อ่า สู่ทางด้านของออนไลน์นะครับเพื่อให้ทางด้านของผู้สนใจเนี่ยนะครับเข้ามา อ่า เยี่ยมชมแล้วก็ เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำเรื่องของตัวตลาดต่อไปนะครับอันนี้ก็คือเป็น By Product ในส่วนของตัว อ่า ถ่านไบโอชานะครับ
อีกส่วนหนึ่งเราได้ร่วมมือกับทางด้านของบริษัท CP นะครับไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทางด้านของอาหารสัตว์นะครับที่เรา