https://aio.panphol.com/assets/images/community/6383_dc9b8a.png

AMATA: สรุปผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 และวิสัยทัศน์การเติบโตอย่างยั่งยืน

P/E 5.99 YIELD 4.91 ราคา 16.30 (0.00%)

AMATA: สรุปผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 และวิสัยทัศน์การเติบโตอย่างยั่งยืน

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568, AMATA ประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้รวม 3,390 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้คือการเพิ่มขึ้นของการขายที่ดินถึง 81% ในขณะที่รายได้จาก Utility ลดลงเล็กน้อย แต่ Rental เพิ่มขึ้น 10%

กำไรสุทธิ (ไม่นับรวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย) อยู่ที่ 829 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 79% จากปีก่อนหน้า นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน (Associate) อีก 230 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 49%

AMATA สามารถโอนที่ดินได้ 279 ไร่ในไตรมาสนี้ และมี Backlog (สัญญาที่ลงนามกับลูกค้าแล้ว) มูลค่าสูงถึง 21,491 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม AMATA ยังคงแข็งแกร่ง

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

AMATA มองเห็นโอกาสในการเติบโตจากโครงการใหม่ๆ ที่กำลังพัฒนา เช่น Amata City ชลบุรี 2 และ Amata City ระยอง 2 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Amata City ระยอง 2 ได้รับความสนใจจากลูกค้าชาวจีนเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการสร้างเมืองที่สมบูรณ์แบบและยั่งยืน โดยคำนึงถึงความยั่งยืน, เสถียรภาพทางการเงิน, และการออกแบบผังเมืองอย่างรอบคอบ

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

หนึ่งในความเสี่ยงที่ AMATA เผชิญคือผลกระทบจากการที่สหรัฐอเมริกาประกาศเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าจากไทยและเวียดนาม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความต้องการซื้อที่ดินของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ การลดลงของรายได้จาก Utility ในเวียดนามเนื่องจากลูกค้าบางรายมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่บริษัทต้องเผชิญ

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

AMATA วางแผนที่จะรับมือกับความเสี่ยงจากการเก็บภาษีของสหรัฐอเมริกาโดยการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและปรับกลยุทธ์ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะจัดหาตลาดใหม่สำหรับลูกค้าในเวียดนาม และเพิ่มการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้ารายอื่นเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป

AMATA ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศเพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน และสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

AMATA ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 30% ภายในปี 2573 และก้าวสู่การเป็นนิคมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon City) ภายในปี 2583 โดยจะมุ่งเน้นการจัดการพลังงาน, การอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ, การกำจัดขยะตามแนวคิด Zero Waste to Landfill, และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืน

บริษัทมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับชุมชนและระดับประเทศ

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม นาทีที่ 47:00]

  1. ผลกระทบจากการเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อความต้องการซื้อที่ดิน

    ผู้บริหารตอบว่า การเก็บภาษีอาจมีผลกระทบ แต่บริษัทยังไม่เห็นสัญญาณเชิงลบมากนัก ทั้งจากลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเป้าหมาย บริษัทยังคงได้รับการสอบถาม โดยเฉพาะการย้ายฐานการผลิตจากจีนแผ่นดินใหญ่ แนวโน้มธุรกิจยังคงมีเสถียรภาพ บริษัทจะติดตามสถานการณ์และปรับตัวตามความเหมาะสม

  2. ภาพรวมครึ่งปีแรก 2568

    ผู้บริหารตอบว่า แม้ยังไม่สิ้นสุดไตรมาส 2 แต่ยอดขายที่ดินรวมของกลุ่ม AMATA (ไทยและเวียดนาม) อยู่ที่ประมาณ 750 ไร่ ธุรกิจยังคงดำเนินไปได้ดีตามที่คาดการณ์

  3. เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ครึ่งปีหลัง

    ผู้บริหารตอบว่า บริษัทยังคงได้รับการสอบถามจำนวนมาก และมั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการได้ แนวโน้มยังคงเหมือนไตรมาส 1 และปีที่แล้ว โดยมีการสอบถามเกี่ยวกับโครงการ Data Center และ Electronics รวมถึง Automotive ตลาดชลบุรีและระยองยังคงน่าสนใจ บริษัทจะเตรียมพร้อมและตอบสนองความต้องการ

  4. เป้าหมายการขายที่ดินปี 2568

    ผู้บริหารตอบว่า ยังคงเป้าหมายเดิมที่ 3,500 ไร่ เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณเชิงลบจากลูกค้า บริษัทจะพิจารณาสถานการณ์ในไตรมาส 3 และ 4 อีกครั้ง หากจำเป็นก็จะปรับเป้าหมาย

  5. Backlog ปัจจุบัน

    ผู้บริหารตอบว่า Backlog รวมอยู่ที่ 21,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย ส่วนเวียดนามมีประมาณ 1,800 ล้านบาท

  6. ผลกระทบจากการชะลอการโอนที่ดิน

    ผู้บริหารตอบว่า ยังไม่เห็นผลกระทบจากการชะลอการโอนที่ดิน แต่จะติดตามสถานการณ์หลังกลางเดือนกรกฎาคม (หลังจากทราบผลสรุปเรื่องภาษีของสหรัฐฯ) อีกครั้ง

  7. ราคาขายที่ดิน

    ผู้บริหารตอบว่า บริษัทกำลังพิจารณาปรับราคาขายที่ดินในตลาดระยองขึ้น 10-15% เนื่องจากมองเห็นโอกาสจากราคาตลาด, ความต้องการ, และ Supply-Demand ที่สมดุล

  8. โครงการอมตะ Smart & Eco City นาม่อ (ลาว)

    ผู้บริหารตอบว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทำ Pre-sales และกิจกรรมการตลาด ส่วนใหญ่ได้รับการสอบถามจากจีน เนื่องจากที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนจีน ธุรกรรมส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีของสหรัฐฯ แต่บริษัทจะติดตามสถานการณ์และพิจารณามาตรการที่จำเป็น

  9. เป้าหมายการขายที่ดิน (รายประเทศ)

    ผู้บริหารตอบว่า เป้าหมายในประเทศไทยอยู่ที่ 2,500 ไร่ ส่วนเวียดนามและลาวอยู่ที่ 500 ไร่เท่ากัน

  10. การลงทุนที่ดินเพิ่มในไตรมาส 1

    ผู้บริหารตอบว่า การลงทุนที่ดินเพิ่มอยู่ในประเทศไทย ทั้งในชลบุรีและระยอง

  11. Data Center (รวมในเป้า 3,500 ไร่หรือไม่) และสัดส่วนลูกค้า

    ผู้บริหารตอบว่า เป้าหมายรวม Data Center แล้ว บริษัทได้รับการสอบถามจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับ Demand โดยทั่วไปโครงการ Data Center มีขนาด 50-100 ไร่ หรือมากกว่านั้น บริษัทคาดว่าจะสามารถปิดดีลกับลูกค้าได้หลายรายในปีนี้ ทำให้เป้า 300-500 ไร่เป็นตัวเลขที่สมเหตุสมผล

  12. ลักษณะธุรกิจของลูกค้า

    ผู้บริหารตอบว่า Data Center เป็น Demand ขนาดใหญ่ Electronics เป็นส่วนหลัก นอกจากนี้ยังมี Automotive และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น เหล็ก, พลาสติก, และยาง โดยส่วนใหญ่มาจากจีน

  13. แนวโน้มการลงทุนที่ดินในไตรมาส 2

    ผู้บริหารตอบว่า โดยปกติไตรมาส 2 จะเป็น High Season ของบริษัท ทั้งในแง่การโอนและการขาย บริษัทยังคงเป้าหมาย 50% ของ Backlog ที่ตั้งไว้

โดยสรุป, AMATA ประสบความสำเร็จในการสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 และยังคงมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต แม้จะมีความเสี่ยงและความท้าทายต่างๆ บริษัทก็พร้อมที่จะปรับตัวและใช้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ เพื่อสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย

โพสต์ล่าสุด