https://aio.panphol.com/assets/images/community/6352_BB0F52.png

KTC ยังคงเป้าหมายเดิม แม้เศรษฐกิจชะลอตัว โบรกฯ PST แนะนำ "ซื้อ"

P/E 9.51 YIELD 4.71 ราคา 28.00 (0.00%)

Phillip Securities (Thailand) (PST) ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับหุ้น KTC โดยให้ราคาเป้าหมาย 50 บาท แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวและผลประกอบการไตรมาส 1/2568 จะต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

ไฮไลท์สำคัญ

  • KTC ยังคงเป้าหมายทางการเงินเดิม แม้ว่าตัวเลขหลายอย่างในไตรมาส 1/2568 จะต่ำกว่าเป้า
  • คาดว่าสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 2/2568 จากปัจจัยด้านฤดูกาลและการทำโปรโมชั่น
  • สภาพคล่องยังคงแข็งแกร่ง แม้ต้นทุนดอกเบี้ยอาจไม่ลดลงเร็ว

KTC ยังคงเป้าหมายทางการเงิน แม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ถึงแม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะยังชะลอตัวและผลประกอบการในไตรมาส 1/2568 จะยังต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ KTC ยังคงเป้าหมายทางการเงินทุกอย่างไว้เหมือนเดิม โดยมีเป้าหมายที่จะมีกำไรสูงกว่าปีก่อน (7.4 พันล้านบาท), สินเชื่อรวมเติบโต 4-5%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่ม 10%, สินเชื่อส่วนบุคคลเติบโต และรักษาระดับ NPL ไม่ให้เกิน 2% (ปัจจุบันอยู่ที่ 1.97%)

KTC มองว่าความต้องการสินเชื่อยังมีอยู่มาก แต่ในไตรมาส 1/2568 สินเชื่อยังชะลอตัวอยู่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการชะลอการปล่อยสินเชื่อของ KTC เองเพื่อควบคุมความเสี่ยง และเป็นปกติที่ไตรมาส 1 สินเชื่อจะมีการชะลอตัวลงเนื่องจากการชำระคืนหลังจากไตรมาส 4 ที่เป็น High season ของการปล่อยสินเชื่อ

ข้อสังเกตเกี่ยวกับต้นทุนดอกเบี้ยและสภาพคล่อง

KTC มีวงเงินระยะสั้นอยู่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 11% ของหนี้สินที่มีดอกเบี้ยทั้งหมด ทำให้ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลงไปแล้ว แต่ต้นทุนดอกเบี้ยของ KTC อาจจะไม่ได้ลดลงเร็ว อย่างไรก็ตาม KTC จะไม่มีปัญหาการขาดสภาพคล่อง เนื่องจากในวงเงินระยะสั้น 3 หมื่นล้านบาทนั้น ยังมีวงเงินเหลืออยู่ถึง 2.3 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ยังมีวงเงินระยะยาวเหลืออยู่อีก 2 พันล้านบาทด้วย

คำแนะนำและราคาพื้นฐาน

PST ยังคงประมาณการกำไรปี 2568 ของ KTC ไว้ที่ 7.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% YoY และยังคงราคาพื้นฐาน 50 บาท เนื่องจากยังมีส่วนต่างราคาหุ้นเหลืออยู่พอสมควรจึงยังคงแนะนำ "ซื้อ" อย่างไรก็ตาม การที่ KTC ถูกตัดออกจากการคำนวณดัชนี MSCI Global Standard ซึ่งจะมีผลในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 อาจจะทำให้ราคาหุ้นผันผวนในช่วงนี้ ดังนั้นการพิจารณาลงทุนหลังจากวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 จะมีความเหมาะสมมากกว่า

วิธีประเมินมูลค่า: P/E'68 (17x)

โพสต์ล่าสุด