บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
ILM สรุปผลประกอบการ Q1/2568 โตเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาการเติบโต พร้อมลุยขยายสาขาและธุรกิจใหม่
P/E 9.42 YIELD 7.19 ราคา 13.90 (0.00%)
ILM สรุปผลประกอบการ Q1/2568 โตเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาการเติบโต พร้อมลุยขยายสาขาและธุรกิจใหม่
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 Index Living Mall มีรายได้รวม (Operating Revenue) 2,480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถือว่ายังมีการเติบโตเล็กน้อย โดย Gross Profit จากการขายอยู่ที่ 1,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% year-on-year ส่วน Net Profit อยู่ที่ 215 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% year-on-year
รายได้จากการขายเติบโต 1% หลัก ๆ มาจากช่องทางออนไลน์, Project Sale และ Inter Project ในขณะที่หน้าร้านมีการลดลงบ้างเนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
GPM ของ Revenue from Sale ทำได้ดีขึ้น โดยถ้าเทียบกับ Q4 จะขึ้นมาจาก 43.8% เป็น 46.3% เนื่องจากการปรับ Strategy ในการ Maintain Gross Profit, Control Discount และให้ Promotion ที่เหมาะสม
รายได้จากการให้เช่าและบริการ (Rental and Service) เป็นบวกทั้ง Year-on-Year และ Q-on-Q มาจากการปรับพื้นที่และเพิ่มพื้นที่ให้เช่าในเชียงใหม่และ Little Walk รัตนาธิเบศร์
GPM ของ Rental and Service ปรับตัวดีขึ้นจากการ Maintenance ระบบ ทำให้ใช้ค่าไฟน้อยลง
ในส่วนของ Sale by Channel, Retail ลดลงบ้างเนื่องจาก Purchasing Power ของลูกค้าน้อยลง แต่จังหวัดท่องเที่ยวก็ยังเป็น Positive Growth อยู่ ในขณะที่ Online ยังคงเติบโตได้ดีจากการ Launch Promotion และเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น
Project Year-on-Year ดีขึ้นเล็กน้อย แต่เทียบ Q-on-Q ลดลงเพราะ Q4 มีการ Hand Over มากที่สุดของปี
Sale by Product, Furniture ยังเติบโตได้ดี 2.7% หลัก ๆ จาก OEM ต่างประเทศและ Project ส่วน HDI Maintain ได้ แต่ Mattress ลดลงบ้างเพราะกำลังซื้อลดลง
S,G&A โดยรวมเพิ่มขึ้น 4.4% จาก Variable Expense ที่เป็น Marketing Fee ของ Online แต่ถ้าเทียบ Q-on-Q ลดลง 1.4% จากค่าขนส่งและติดตั้งที่ลดลง
ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 7% จาก Temporary Expense ที่มาจากการ Renovate คลังสินค้าและ Upgrade IT System
Net Profit ของ Q1 อยู่ที่ 215 เติบโต Year-on-Year 3.3% และ Q-on-Q 25.4% มาจากการ Control Promotion และ Discount รวมถึงได้ Incentive BOI จาก Solar Roof
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- Little Walk รัตนาธิเบศร์: ทยอยเปิดร้านค้าผู้เช่าตั้งแต่เดือนมีนาคม คาดว่าจะเปิดครบทั้งหมดในเดือนสิงหาคม
- สาขา Index Living Mall เชียงราย: พื้นที่ขาย 7,000 ตร.ม. คาดว่าจะเปิดในเดือนกันยายน
- Little Walk รามคำแหง: พื้นที่ขาย 5,000 ตร.ม. คาดว่าจะเปิดในเดือนกันยายน ปัจจุบันขายพื้นที่ OCC ได้ 80%
- Little Walk สาขาพรานเทพ (พรานนกตัดใหม่): พื้นที่ขาย 4,000 ตร.ม. คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปลายเดือนนี้ และเปิดในเดือนธันวาคม ปัจจุบัน Pre-Sale ได้ 80-90%
- Index Living Mall สาขาอุบลราชธานี: Relocation ไปสร้างสาขาใหม่ขนาด 10,000 ตร.ม. ใกล้ Central, HomePro, Thai Watsadu คาดว่าจะเปิดได้ใน Q1 ปีหน้า
- Flying Tiger: เปิดตัวธุรกิจใหม่ Flying Tiger จากประเทศเดนมาร์ก ซึ่ง Index ได้ Master License ในไทย สินค้าเป็นของใช้เบ็ดเตล็ดขนาดเล็กน่ารัก ราคา 1-5 ยูโร คาดว่าจะมาเติมเต็ม Portfolio ของ Index
แผนการเปิดร้าน Flying Tiger อาจจะเปิดในห้างสรรพสินค้าก่อน
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- เศรษฐกิจชะลอตัว: ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง และส่งผลกระทบต่อยอดขายในบางสาขา
- การแข่งขัน: การแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
- ค่าใช้จ่าย: ค่าใช้จ่ายในการ Renovate คลังสินค้าและ Upgrade IT System ที่เพิ่มขึ้น
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- Control Promotion และ Discount เพื่อ Maintain Gross Profit
- ปรับ Strategy ในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์
- Maintenance ระบบเพื่อลดค่าใช้จ่าย
- ขยายช่องทางการขายไปยัง Online และ Project
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
Index Living Mall มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยไม่ปิดกั้นโอกาสใหม่ ๆ ที่เข้ามา บริษัทให้ความสำคัญกับ ESG และพัฒนาสินค้าที่ Collaboration กับ Local Community นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะลดอายุของแบรนด์และขยายไปยัง Young Generation มากยิ่งขึ้น
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 21:04]:
-
การเพิ่ม GPM โดยการ Outsource และหันมาผลิตเอง:
บริษัทใช้กลยุทธ์นี้มาเรื่อย ๆ โดยพิจารณาว่าสินค้าตัวไหนสามารถผลิตเองได้คุณภาพดีกว่าและต้นทุนถูกกว่า ก็จะลองผลิตเอง เพื่อส่งต่อ Saving ให้ลูกค้าปลายทาง และยังได้ GP เพิ่มมากขึ้นด้วย
-
S,G&G Retail ลดลง แต่กำไร Q1 ไม่ลดลง:
บริษัทใช้ Data และ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ว่าสินค้าตัวไหนลดราคาแล้วไม่เพิ่มยอดขาย ทำให้ไม่จำเป็นต้องลดราคามากเกินไป และยังคงเปอร์เซ็นต์ GPM ไว้ได้
-
เริ่มรับรู้รายได้ Little Walk ทั้ง 3 ที่แล้วหรือยัง และหลังแผ่นดินไหว S,G&G กลับมา On Track ไหม:
บริษัทจะเก็บค่าเช่าเมื่อผู้เช่าเปิดร้านวันแรก แต่ก่อนเปิดอาจมีการเก็บเงินมัดจำ ซึ่งยังไม่ได้รับรู้เป็นรายได้ ส่วน S,G&G อาจจะติดลบบ้าง แต่ไม่เกี่ยวกับแผ่นดินไหว อาจเป็นเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า
-
การติดตั้ง Line การผลิตใหม่:
Line ตัวใหม่ใช้คนน้อยลง และใช้ระบบ Automation มากขึ้น ทำให้ผลิตได้แม่นยำมากขึ้น
-
เลิกทำธุรกิจกับ Flash:
บริษัททำคือประกอบติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ให้คนอื่น ส่วนการติดตั้งของ Index ยังใช้แผนกของตัวเอง เลยไม่เกี่ยวอะไรกับ Flash ส่วนผู้เช่าที่มาเช่าคลังสินค้าก็ทำสัญญา 3 ปีบ้าง 3+3 ปีบ้าง
-
GPM ของสินค้า Fur In Box ต่ำกว่า Index กี่เปอร์เซ็นต์:
ต่ำกว่าราว ๆ เกือบ 10% แต่บริษัทก็มีแบรนด์ Winner ที่เอามาสอดตรงกลางอีกอัน และ Fur In Box ก็ไม่ได้ Cannibalize Index แต่เป็นการทำให้ตลาดโตขึ้นมากกว่า
-
S,G&G QTD เป็นอย่างไรบ้าง:
บริษัททำ S,G&G QTD เราก็ Mid Single Negative นะครับ Mid Single Digit นะครับ น่าจะมาจากสภาวะ อ่าเศรษฐกิจมากกว่านะครับ จริงๆ แผ่นดินไหวผมมองว่า ส่วนมากแล้วเฟอร์นิเจอร์ไม่ค่อยเสียหายน่ะครับ หรือถ้าเกิดจะเสียหายจริงก็เป็น อ่าเป็นการ Built-in ตกแต่งภายในมากกว่าซึ่งก็ไม่ใช่เป็นสินค้าเกี่ยวกับของ บริษัท แล้วก็เลย เลยคิดว่าจริงๆ แล้วไม่น่าไม่ ไม่น่าจะมี Sentiment ด้านลบจาก จากตัวแผ่นดินไหวมากกว่า นะครับน่าจะมาจากตัว อ่าแต่กำลังซื้อถดถอยหรืออะไรอย่างนี้นะครับ ช่วงนี้นะครับ
-
นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยลดลง จะกระทบ S,G&G ของสาขาแหล่งท่องเที่ยวไหม:
ยังคงโอเค ยังคงบวกอยู่ แต่บวกน้อยลง นักท่องเที่ยวที่มาที่ Index ส่วนมากไม่ได้มาซื้อของ Index แต่เป็นชาวต่างชาติที่เป็น Expat หรือย้ายมาอยู่กึ่งถาวร มาลงทุน มาทำอะไรต่อ ต่อเนื่องนะครับ ซึ่งผมมองว่าก็ อาจจะ อาจจะมีผลในอีกในอีกในอนาคตข้างหน้านะครับ แต่ว่าตอนนี้เนี่ยผมมองว่าในท่องเที่ยวก็ยังบูมอยู่นะครับ กรุง อ่า นักท่องเที่ยวต่างๆ เนี่ยก็ เข้ามาลงทุนกันเยอะมากนะครับ
-
ความคืบหน้า The Walk รัตนาธิเบศร์ และ Central เปิดใหม่จะกระทบไหม:
Central เน้น Variety แต่ The Walk เน้น Convenient และยังอยู่คนละฝั่งด้วย ส่วน Occupancy ของรัตนาธิเบศร์ก็ประมาณ 80% แล้ว
-
ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสินค้าใน Website Index:
บริษัทมีบริหารกลยุทธ์ในแต่ละ Channel ไม่เหมือนกัน Marketplace จะเน้นสินค้า Basket Size ใหญ่ เพราะค่า Marketing สูง ส่วน Index มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่า
-
สินค้าใน Website หมด แต่หน้า Sale มี:
บริษัทมี Stock ทั้งใน DC และสาขา ถ้าสินค้าหมดจะจัดส่งจาก DC สาขามากที่ไปเอาจากสาขามาเพราะการ Double Handling อาจทำให้ GP ลดลง
-
การต่อรอง Supplier จีน:
ตอนนี้ต่อรองราคาได้ดีขึ้น เพราะบางเจ้าส่งออกไปสหรัฐไม่ได้ ก็มาหา Order เพิ่ม
-
อีก 5 ปีข้างหน้า อยากเห็นบริษัทเติบโตเป็นแบบใด:
เติบโตอย่างมั่นคง ไม่ปิดกั้น Opportunity ใหม่ ๆ ใช้ Internal Cash Flow หลีกเลี่ยงการกู้ และเติบโตไปเรื่อย ๆ ทุกปีทุกไตรมาส
-
สัญญาเช่าที่ดินที่จะหมดภายใน 5 ปี:
มี 2 ที่ และบริษัทจะ Relocate สาขา เช่น อุบลราชธานี
-
GPM ของ Project:
ตอบไม่ได้ เพราะแต่ละโครงการมีต้นทุนและ Scope งานไม่เท่ากัน แต่อาจน้อยกว่าช่องทางอื่นหน่อย เพราะยอดมันค่อนข้างเยอะ
-
สาขาเก่าอุบลจะหยุดดำเนินการเดือนไหน:
ถ้าเปิดแล้วยอดขายดี อาจจะเปิดคู่กันทั้ง 2 สาขาเลยก็ได้
-
พื้นที่ตลาด Index บางใหญ่:
ด้านซ้ายเป็น BB Market ด้านหลังเป็นที่จอดรถ ด้านขวาเป็นตลาดบางใหญ่ ไม่ใช่ของ Index
-
ไตรมาสนี้และภาพอนาคต มีอะไรทำให้กังวลไหม:
เศรษฐกิจฝืดเคือง คนอาจจะหยุดการใช้จ่าย
-
ปัจจุบันกลางไตรมาส 2 แล้ว รายได้แนวโน้มเป็นอย่างไร:
ยังค่อนข้าง Maintain กับ Year-on-Year ปีที่แล้ว โดยปกติไตรมาส 2 จะน้อยกว่าไตรมาส 1 แต่โดยรวมยัง Maintain ได้อยู่
-
เทรนด์เฟอร์นิเจอร์สไตล์ญี่ปุ่นมากขึ้น:
บริษัทมี Service ประกอบฟรีอยู่แล้วถ้าซื้อมากกว่าขั้นต่ำ ส่วน Collection ก็ออกมาหลากหลายแล้ว เช่น อาชิคาวะ
-
ศูนย์ออกแบบ Design ที่ทองหล่อ:
อาจจะช้าหน่อย ขายพื้นที่ได้ยากนิดนึง แต่ก็มีหลายเจ้าตกแต่งอยู่ รายได้ค่าเช่าอาจชะลอไปนิดนึง แต่มั่นใจว่าได้แน่นอน เพราะได้สัญญาขายยาวด้วย
-
เป้าหมาย Market Share ใน 3-5 ปี:
บริษัทเป็นเบอร์ 1 อยู่แล้ว และจะพยายามเป็นที่ 1 ต่อ โดยขยาย Channel ปรับปรุงการผลิต ออก Collection ใหม่ ๆ และลดอายุของแบรนด์ ขยายไปสู่ Young Generation มากขึ้น
-
ILM จะ Renovate และลงทุนระบบ IT System เสร็จใน Q ไหน:
Renovate คลังน่าจะ Q4 ถึง Q1 ปีหน้า ส่วน IT System คาดว่าจะเสร็จประมาณ Q3 ต้น Q4
-
สาขาเชียงรายจะมี Area ให้เช่าไหม:
ไม่มี เนื่องจากมีอยู่แค่ 7 ไร่กว่า ๆ ก็ทำเป็นพื้นที่ขายของ Index เองก็แน่นเอี้ยดแล้ว
โดยสรุป Index Living Mall ยังคงรักษาการเติบโตได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 แม้จะมีปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและรักษาความเป็นผู้นำในตลาด