MTC โชว์ผลงาน Q1/2568 โตต่อเนื่อง สินเชื่อคงค้างทะลุ 1.1 แสนล้านบาท พร้อมอัปเดตทิศทางธุรกิจปี 2568

P/E 10.79 YIELD 0.76 ราคา 33.00 (0.00%)

MTC โชว์ผลงาน Q1/2568 โตต่อเนื่อง สินเชื่อคงค้างทะลุ 1.1 แสนล้านบาท พร้อมอัปเดตทิศทางธุรกิจปี 2568

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 ของบริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมให้ข้อมูลและตอบคำถามนักลงทุน ได้แก่ คุณปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ และคุณสุรัช ฉายาวรเดช CFO

1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview)

  • ยอดสินเชื่อคงค้างในไตรมาส 1 อยู่ที่ 117,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.53% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 และเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2567
  • รายได้รวมในไตรมาส 1 อยู่ที่ 7,242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 แต่อาจติดลบนิดหน่อย 0.39% จากไตรมาส 4 เนื่องจากจำนวนวันทำการที่แตกต่างกัน (ไตรมาส 1 มี 90 วันทำการ, ไตรมาส 4 มี 92 วันทำการ)
  • กำไรสุทธิในไตรมาส 1 อยู่ที่ 1,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2567 และเพิ่มขึ้นเกือบ 2% จากไตรมาส 4 ปี 2567
  • Net Profit Margin ในไตรมาส 1 เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 21.69% จากเดิม 21.22% ในไตรมาสก่อนหน้า และ 20.95% ในไตรมาส 1 ปี 2567

2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities)

  • บริษัทให้ความสำคัญกับการขยายตลาด โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันการเงินต่างประเทศ
  • มีการออกหุ้นกู้เพื่อสังคม (Social Bond) และ USD Bond เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานและขยายธุรกิจ
  • บริษัทเปิดโอกาสให้สถาบันการเงินปล่อยเงินกู้ผ่าน Social Loan
  • มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น "เมืองไทย Capital 4.0" เพื่อสนับสนุนความต้องการของลูกค้า
  • บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 600 สาขาในปี 2568

3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges)

  • สภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า
  • การแข่งขันในตลาดสินเชื่ออาจเพิ่มสูงขึ้น
  • ความเสี่ยงด้านการดำเนินงานและการจัดการหนี้เสีย (NPL)

4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation)

  • บริษัทมีการปรับปรุงกระบวนการคัดกรองลูกค้าและการอนุมัติสินเชื่อ
  • มีการบริหารจัดการความเสี่ยงและควบคุมคุณภาพสินทรัพย์อย่างเข้มงวด
  • บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends)

  • บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็น World Class Thai Microfinance
  • บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
  • บริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session) [เริ่ม Q&A นาทีที่ 43:10]

  1. คำถาม: จากการที่ปล่อยสินเชื่อไม่มีหลักประกันลดลง อยากสอบถามว่ามีการปรับแนวทางการปล่อยสินเชื่อหรือไม่
  2. คำตอบ: ลูกค้าหลักยังคงเป็นสินเชื่อมีหลักประกัน ส่วนสินเชื่อไม่มีหลักประกันเป็นตัวเสริม โดยดูจากประวัติลูกค้า มีการปรับปรุงเพื่อให้รัดกุมขึ้น และไม่ให้ลูกค้ามีภาระหนี้เกินตัว
  3. คำถาม: อยากทราบ LTV (Loan to Value) หรือ Loan Size เฉลี่ย
  4. คำตอบ: LTV อยู่ที่ 50-70% ของมูลค่าหลักประกัน ส่วนวงเงินกู้เฉลี่ยอยู่ที่ 25,000-30,000 บาท
  5. คำถาม: แผนการจัดหาวงเงินกู้, การกู้ยืมจากต่างประเทศ, การออกหุ้นกู้ในไตรมาส 2-3 และมุมมองต้นทุนการกู้ยืม
  6. คำตอบ: เตรียมออกหุ้นกู้ 4 ปี, 5 ปี และ 7 ปี ดอกเบี้ย 4.30% มีการระดมทุนมาเสริมการเติบโตในไตรมาส 2 มีพาร์ทเนอร์กับธนาคารหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ ส่วนต้นทุนการกู้ยืมคาดว่าจะปรับตัวลดลง
  7. คำถาม: เหตุผลที่ออกหุ้นกู้อายุยาวขึ้น, พอร์ตลูกหนี้อายุเฉลี่ย, และต้นทุนทางการเงินปีนี้
  8. คำตอบ: เพื่อบริหารสภาพคล่องและให้เหมาะสมกับกระแสเงินสด ต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 4.4-4.6%
  9. คำถาม: NPL ลดลงจากสินเชื่อประเภทใด, การขายหนี้เพิ่มขึ้น, และแนวโน้ม NPL ในไตรมาส 2 รวมถึงปัจจัยที่น่ากังวล
  10. คำตอบ: ลดลงในทุกผลิตภัณฑ์ ไม่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ใดผลิตภัณฑ์หนึ่งโดยเฉพาะ ไม่มีการขายหนี้เพิ่มขึ้น และ NPL ที่ลดลงเป็นผลจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น เศรษฐกิจช่วงนี้มีความท้าทาย
  11. คำถาม: พอร์ตที่โตขึ้นมาจากลูกค้ากลุ่มไหน และทิศทางพอร์ตเช่าซื้อ
  12. คำตอบ: เน้นโตลูกค้ากลุ่มรายย่อยและมอเตอร์ไซค์ ไม่ได้เน้นโตเช่าซื้อ
  13. คำถาม: นอกจากการให้สินเชื่อ มีแผนขยายตัวในผลิตภัณฑ์ประกันภัยหรือไม่
  14. คำตอบ: มีการขายประกันภัยภาคบังคับและประกันอุบัติเหตุอยู่แล้ว โดยนำเสนอให้ลูกค้าที่ต้องการ และหากมีประกันใหม่ที่น่าสนใจก็จะพิจารณา
  15. คำถาม: อัปเดตโครงการคุณช่วยเราช่วย
  16. คำตอบ: เป็นโครงการที่ดีที่ช่วยลดภาระหนี้สินให้ประชาชน ซึ่งผลกระทบต่อบริษัทมีไม่มาก
  17. คำถาม: สัดส่วนอาชีพลูกค้า และผลกระทบจากเศรษฐกิจ
  18. คำตอบ: 70% เป็นเกษตรกร และมีอาชีพอิสระ ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากเรื่องค่าครองชีพ แต่รัฐบาลก็มีมาตรการช่วยเหลือ

โดยสรุป MTC ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมีการเติบโตของสินเชื่อและกำไรสุทธิ บริษัทมุ่งเน้นการบริหารจัดการความเสี่ยง การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น แม้จะมีความท้าทายจากสภาวะเศรษฐกิจ แต่บริษัทก็มีความพร้อมที่จะรับมือและเติบโตอย่างยั่งยืน

โพสต์ล่าสุด