บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SUTHA Oppday: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 และโอกาสการเติบโตในอนาคต
P/E 26.04 YIELD 3.23 ราคา 2.48 (0.00%)
SUTHA Oppday: เจาะลึกผลประกอบการ Q1/2568 และโอกาสการเติบโตในอนาคต
ภาพรวมผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2568 ของบริษัท สุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) หรือ SUTHA พร้อมอัปเดตข้อมูลข่าวสารที่สำคัญและแนวโน้มของบริษัทในอนาคต
ผู้ถือหุ้นหลักของ SUTHA ประกอบด้วย 2 กลุ่มคือ กลุ่ม Camus ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายปูนขาวและหินปูนระดับโลก และกลุ่ม GP Group ซึ่งเป็นกลุ่มลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มีฐานอยู่ในประเทศไทยและเป็นเจ้าของธุรกิจในหลากหลายภาคส่วน เช่น โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว ธุรกิจอาหารเสริม การขายเชื้อเพลิง และเทคโนโลยี
1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):
- รายได้จากการขายในไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ 373 ล้านบาท ลดลง 10% จากปีก่อนหน้า
- สาเหตุหลัก: ยอดขายที่ลดลงจากตลาดก่อสร้างและตลาดอิฐมวลเบา เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศลดลง กลุ่มเหล็กลดลงจากการนำเข้าจากจีน กระดาษลดลง
- EBITDA ที่ไม่รวมรายการพิเศษอยู่ที่ 78 ล้านบาท ลดลง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
- สาเหตุหลัก: ยอดขายที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มขึ้น (ค่าขนส่ง) ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทรัพยากรบุคคลที่สูงขึ้น
- กำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ 32% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 1% และเพิ่มขึ้นจาก 2 ปีที่แล้ว (26%)
- สาเหตุหลัก: ต้นทุนเชื้อเพลิงที่นำไปเผามีแนวโน้มลดลง
- กำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ 30 ล้านบาท ลดลง 29%
- สาเหตุหลัก: ยอดขายที่ลดลง ค่าใช้จ่ายในการบริหารที่เพิ่มขึ้น (SG&A)
- สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสินทรัพย์หมุนเวียน ลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นจากยอดขายฤดูกาลน้ำตาล สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในเครื่องจักร
- หนี้สินหมุนเวียนลดลงจากเงินกู้ระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปีลดลง บริษัทได้ชำระเงินกู้ที่กู้เมื่อปี 2561 ครบถ้วนแล้ว
- หนี้สินไม่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นจากการกู้ลงทุนในเครื่องจักรใหม่ของบริษัทย่อย
2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):
- การเติบโตในอุตสาหกรรมเหล็ก น้ำตาล และวัสดุก่อสร้าง (อิฐมวลเบา)
- การขยายตลาดในกลุ่ม Non-Ferrous (อุตสาหกรรมเหมืองทอง) และ Chemical
- ศักยภาพในการใช้ปูนขาวหรือ Hydrate Lime ในการจัดการก๊าซพิษจากโรงเผาขยะที่เอาไปทำไฟฟ้า (Waste to Energy)
- โอกาสในอุตสาหกรรมกระจก โดยใช้หินโดโลไมท์
- ศักยภาพในวิศวกรรมโยธาและการก่อสร้าง
- การขยายกำลังการผลิต GCC (Ground Calcium Carbonate) โดยมีการลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มเติม
3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):
- ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว (GDP Growth ต่ำกว่า 2%) และอุปสรรคจากมาตรการกีดกันทางการค้า
- ต้นทุนพลังงาน (Energy Cost) ที่ยังคงสูง แม้จะมีแนวโน้มลดลง
- ค่าขนส่ง (Freight Cost) ทางทะเลที่ยังไม่ลดลง ทำให้การส่งออกมีอุปสรรค
- การชะลอตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์
- การสูญเสียลูกค้าในตลาดน้ำตาลเนื่องจากการแข่งขันด้านราคา
4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุน
- การขยายตลาดไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น Non-Ferrous และ Chemical
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
- การบริหารจัดการความเสี่ยงด้านราคาและต้นทุน
- การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):
- บริษัทมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดปูนขาว GCC และหินอ่อนในประเทศไทย
- การเติบโตอย่างยั่งยืนโดยเน้นวัตถุประสงค์ ESG (Environmental, Social, and Governance) ควบคู่ไปกับเป้าหมายทางธุรกิจ
- การลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์โดยใช้พลังงานทดแทนและ Biomass
- การพัฒนาความหลากหลายทางชีวภาพและดูแลสิ่งแวดล้อม
- การพัฒนา Green Industry และได้รับการรับรองในระดับสากล
6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session):
[เริ่ม Q&A Session ที่นาทีที่ 43:18]
ปัจจุบันยังไม่มีคำถามจากนักลงทุน แต่เปิดโอกาสให้นักลงทุนและผู้สนใจสามารถส่งอีเมลหรือโทรติดต่อบริษัทได้โดยตรง ข้อมูลติดต่อมีอยู่ในเว็บไซต์ของบริษัท
สรุป
SUTHA เผชิญกับความท้าทายในไตรมาสที่ 1 จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัจจัยภายนอกอื่น ๆ แต่ยังคงมีโอกาสในการเติบโตในอุตสาหกรรมที่หลากหลายและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึง ESG และสิ่งแวดล้อม
หัวข้อคำถามและคำตอบ:
- กลยุทธ์การเติบโตในอนาคต: บริษัทมุ่งเน้นการขยายตลาดไปยังอุตสาหกรรมใหม่ ๆ เช่น เหมืองแร่และเคมีภัณฑ์
- การจัดการต้นทุน: บริษัทให้ความสำคัญกับการลดต้นทุนพลังงานและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
- ความยั่งยืนและ ESG: บริษัทมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม