บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ไฮไลท์สำคัญ:

บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) โชว์ผลงานไตรมาส 1 ปี 2568 กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นถึง 78.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หนุนโดยยอดขายที่ดินที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผลประกอบการที่โดดเด่น:

AMATA รายงานรายได้รวม 3,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.18% จากไตรมาส 1 ปี 2567 และมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 829 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจาก รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น 81.23% เป็น 1,913 ล้านบาท เนื่องจากการโอนที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดชลบุรี ระยอง และประเทศเวียดนามที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าสาธารณูปโภคลดลง 17.64% เป็น 1,172 ล้านบาท เนื่องจากการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมที่ประเทศเวียดนามลดลง ในขณะที่รายได้จากการให้เช่าเพิ่มขึ้น 9.62% เป็น 245 ล้านบาท จากการให้เช่าพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้น

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 AMATA มีสินทรัพย์รวม 69,662 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.27% จากสิ้นปี 2567 และมีหนี้สินรวม 40,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.45% เนื่องจากการกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อลงทุนในที่ดินเพิ่มขึ้น อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นรวม (D/E Ratio) อยู่ที่ 1.41 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 1.18 เท่าในไตรมาส 1 ปี 2567

ข้อสังเกตและแนวโน้ม:

แม้ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 จะขยายตัวจากการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น แต่ภาคการท่องเที่ยวปรับตัวลดลงเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่กังวลด้านความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การลงทุนโดยรวมยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) รายงานว่ายอดขอรับส่งเสริมการลงทุนในไตรมาสแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุน

AMATA ยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยพื้นที่ที่พัฒนาแล้วลง 30% ภายในปี 2573 นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมจำนวน 618 โครงการ เพิ่มขึ้น 43% และเงินลงทุนรวม 267,664 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62%

สรุปและแนวโน้ม:

AMATA ประสบความสำเร็จในการสร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า แม้ว่ารายได้จากค่าสาธารณูปโภคลดลงเนื่องจากการลดกำลังการผลิตของลูกค้าในเวียดนาม แต่บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อการเติบโตในระยะยาว