บทความ ข่าวสาร กิจกรรม

ศุภาลัยรับผลกระทบมาตรการรัฐหมดอายุ ฉุดรายได้โอนกรรมสิทธิ์วูบ

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 กำไรสุทธิลดลง 34% เหลือ 404.80 ล้านบาท จาก 613.64 ล้านบาทในปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 3,699.66 ล้านบาท ลดลง 21% เมื่อเทียบกับ 4,674.33 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยฉุดกำไร! เร่งโอนกรรมสิทธิ์ปลายปี, ค่าใช้จ่ายพุ่ง, ต้นทุนการเงินเพิ่ม

สาเหตุหลักที่ทำให้รายได้และกำไรลดลง มาจากการลดลงของรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากช่วงปลายปีที่ผ่านมามีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ไปค่อนข้างมาก จากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองที่สิ้นสุดลง นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 11% เป็น 868.84 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 31% เป็น 189.46 ล้านบาท จากการขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ

จุดแข็ง! ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุนพุ่งกระฉูด Backlog แข็งแกร่ง

ถึงแม้ผลประกอบการโดยรวมจะลดลง แต่ SPALI ยังมีจุดแข็งที่น่าสนใจ โดยส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 50,519% จากการร่วมค้าและบริษัทร่วมในออสเตรเลียที่มีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/68 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดBacklog สูงถึง 13,240 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในอีก 9 เดือนข้างหน้าจำนวน 8,244 ล้านบาท และส่วนที่เหลือในอีก 3 ปีถัดไป

จับตาทิศทาง! SPALI เดินหน้าขยายการลงทุน แม้หนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้น

โดยสรุป ผลประกอบการของ SPALI ในไตรมาส 1/68 ได้รับผลกระทบจากการลดลงของรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังมี Backlog ที่แข็งแกร่งและส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมทุนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้ในอนาคต นอกจากนี้ อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Gearing Ratio) เพิ่มขึ้นเป็น 62% เนื่องจากการขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ นักลงทุนจึงควรจับตาทิศทางการดำเนินงานและผลประกอบการของ SPALI ในไตรมาสต่อๆ ไปอย่างใกล้ชิด