https://aio.panphol.com/assets/images/community/5297_dacb98.png

SUN หวานเจี๊ยบ! อนาคตสดใส ข้าวโพดหวานพร้อมทาน โกยยอดขาย Q1 ปี 2568 โต 8%

P/E 12.17 YIELD 8.28 ราคา 3.02 (0.00%)

SUN หวานเจี๊ยบ! อนาคตสดใส ข้าวโพดหวานพร้อมทาน โกยยอดขาย Q1 ปี 2568 โต 8%

  1. ภาพรวมผลกระทบต่อธุรกิจ (Business Impact Overview):

    บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) นำเสนอผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

    • บริษัทได้รับการประเมิน CG ในระดับ 5 ดาว
    • ทุนจดทะเบียนยังคงเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
    • บริษัทมีบริษัทลูกคือ Sunsweet International ทำธุรกิจซื้อมาขายไป (เทรดเดอร์) สินค้าที่ Sunsweet ไม่ได้ผลิตเอง
    • นโยบายการจ่ายปันผลยังคงเดิม ไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังสำรอง
    • ปี 2567 จ่ายปันผล 65% ของกำไร

    ธุรกิจหลักของ Sunsweet คือข้าวโพดหวาน ซึ่งมีรายได้ในกลุ่มนี้ประมาณ 80% ประกอบด้วย ข้าวโพดหวานบรรจุกระป๋อง, ถุงสุญญากาศ, แช่แข็ง, และสินค้าพร้อมทาน

    รายได้จากสินค้าพร้อมทานเริ่มมีสัดส่วน 20% และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง

    ตลาดข้าวโพดหวานทั่วโลกมีมูลค่าการซื้อขายเกือบ 60,000 ล้านบาท โดยประเทศไทยมีส่วนแบ่ง 9,640 ล้านบาท คิดเป็น 16% Sunsweet มีส่วนแบ่ง 2,832 ล้านบาท คิดเป็น 5% และมี Market Share เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนหน้า (4% เป็น 5%)

    ยอดขายไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

    การเติบโตของปริมาณการส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 22% แต่รายได้โต 8% เนื่องจากค่าเงินแข็งค่า

    กำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อยเนื่องจากการผลิตไตรมาส 1 ไม่ได้ตามเป้าหมาย ทำให้กำไรสุทธิลดลงตามไปด้วย

  2. โอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunities):

    บริษัทมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะทางเอเชีย

    บริษัทมีการทำตลาดในกว่า 4-50 ประเทศ และมีแผนที่จะขยายไปยังตลาดยุโรปมากขึ้น

    บริษัทมีกำลังการผลิตที่สามารถเติบโตได้อีกมาก

    Sunsweet ส่งออกข้าวโพดหวานไปทั่วโลกมากกว่า 54 ประเทศ มีลูกค้ามากกว่า 200 ราย ตลาดหลักยังคงเป็นเอเชีย (เกิน 50%) โดยมีญี่ปุ่นเป็นอันดับ 1 (30%) ตามด้วยเกาหลีและไต้หวัน (13%) นอกจากนี้ยังมีตลาดยุโรป, ตะวันออกกลาง, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และอเมริกาใต้อีกด้วย

  3. ความเสี่ยงที่กำลังเผชิญ (Risks and Challenges):

    เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน

    ค่าเงินมีการแข็งค่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้

    การผลิตในไตรมาส 1 ไม่ได้ตามเป้าหมาย ทำให้กำไรขั้นต้นลดลง

    สภาวะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร

  4. วิธีการแก้ไขปัญหาผลกระทบ (Problem-Solving and Mitigation):

    บริษัทเน้นการบริหารจัดการวัตถุดิบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการส่งเสริมให้เกษตรกรในประเทศปลูกพืชวัตถุดิบ

    บริษัทมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านค่าเงิน โดยการขาย USD ล่วงหน้า

    บริษัทมีการร่วมมือกับวิสาหกิจชุมชนในการผลิตสินค้า โดยมีการควบคุมคุณภาพและมาตรฐาน

    บริษัทมีการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดหวานที่ให้ผลผลิตสูงขึ้น

    บริษัทใช้ Contact Farming Model ในการรับรู้ข้อมูลและวางแผนการผลิต

    บริษัทใช้กลยุทธ์นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้แก่คู่ค้า เพื่อรักษายอดขายรวมให้คงที่

  5. แนวโน้มและอนาคต (Outlook and Future Trends):

    บริษัทยังคงมองเห็นโอกาสในการเติบโตของตลาดข้าวโพดหวานทั้งในและต่างประเทศ

    บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตและขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก

    บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

    บริษัทให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    บริษัทคาดว่ายอดขายจะเติบโต 10-15% ในปี 2568 และมีเป้าหมายที่จะใช้กำลังการผลิตเต็มที่ภายใน 3 ปี

  6. ช่วงถาม-ตอบ (Q&A Session): [เริ่ม Q&A นาทีที่ 43:19 ]

    • Q: แนวทางการบริหารวัตถุดิบช่วงขาดตลาด (43:27)

      A: วัตถุดิบค่อนข้างหลากหลาย ส่วนใหญ่ 100% สั่งซื้อในประเทศ ยกเว้นมันหวานเหลืองนำเข้าจากเวียดนาม เริ่มบริหารจัดการวัตถุดิบบางชนิดโดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเหมือนข้าวโพดหวาน เพื่อรองรับสินค้าที่ต้องการต่อเนื่อง และออเดอร์ที่เข้ามาสม่ำเสมอ

    • Q: Anti-dumping tariff (45:28)

      A: ให้ข้อมูล ตอบแบบสอบถาม แจ้งต้นทุนการผลิต transaction ต่างๆ ในเดือนมีนาคม สหภาพยุโรปจะเข้ามาตรวจเอกสารทั้งหมดในวันที่ 16 มิถุนายน และจะส่งเจ้าหน้าที่จากยุโรปเข้ามาตรวจสอบ และจะประเมินสรุปว่า ภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดจะยืดระยะเวลาออกไปอีก 5 ปี หรือจะยุติ รอผลสรุปช่วงไตรมาสที่ 2 ปลายๆ

    • Q: กำลังการผลิตสินค้าพร้อมทาน (46:52)

      A: ทำได้ 300,000 ชิ้นต่อวัน คาดว่าภายใน 3 ปีหลัง Mini Factory 2 เสร็จ จะใช้กำลังการผลิตเต็มที่ และในไตรมาส 2 น่าจะเริ่มแตะ 200,000 ชิ้น

    • Q: แผนการส่งออกสินค้าพร้อมทาน (47:47)

      A: วางแผนทำสินค้าเพื่อส่งออกด้วย ขยาย shelf life ให้อยู่ได้นานเพื่อใช้ในการส่งออก วางแผนสร้างมูลค่าการส่งออกกลุ่ม Ready to Eat ประมาณ 50% ของทั้งหมด โดยใช้ฐานลูกค้าเดิมที่มีการส่งข้าวโพดหวานกระป๋องหรือข้าวโพด pouch ไปในญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เสนอ New Product เข้าไปอย่างต่อเนื่อง

    • Q: ปัจจุบันการปลูกข้าวโพดหวานเป็นอย่างไร (48:33)

      A: ส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหวาน 300-400 ไร่ต่อวัน เพื่อให้ได้วัตถุดิบ 600-700 ตันต่อวัน

    • Q: ปัจจัยความเสี่ยง (48:55)

      A: ความผันผวนด้านภูมิอากาศค่อนข้างต่อเนื่อง ปุ๋ยยาต่างๆ ถึงแม้จะมีการปรับราคาบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้รับผลกระทบในด้านของเกษตรกรเท่าไหร่ และข้าวโพดหวานมีระยะเวลาการปลูกต่อรอบค่อนข้างสั้น ทำให้เกษตรกรมีความเสี่ยงน้อยลง เพราะใช้เวลาเพียง 75-80 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้

    • Q: ต้นทุนเพิ่มขึ้นไหม (49:47)

      A: ตั้งแต่ไตรมาส 1 เป็นต้นมา ประเทศไทยมีการปรับเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำ แต่ในส่วนของปัจจัยในการผลิตอื่นๆ ค่อนข้างทรงๆ ไม่ว่าจะเป็น packaging หรือ logistics ต่างๆ ก็ยังไม่มีการขึ้นราคา แต่คงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความผันผวนด้านของค่าเงินด้วย

โดยสรุป ซันสวีท ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการข้าวโพดหวานที่ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลาดต่างประเทศที่ขยายตัว และการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน และความเสี่ยงจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง

โพสต์ล่าสุด