บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
SPALI กำไร Q1/68 ส่อแววอ่อนแอ! FSSIA หั่นเป้าเหลือ 14.20 บาท
P/E 7.04 YIELD 8.63 ราคา 17.40 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: FSSIA ปรับลดประมาณการกำไร SPALI
FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิของ SPALI ในไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 470 ล้านบาท ลดลง 76% (QoQ) และ 23% (YoY) เนื่องจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ลดลงและค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริหารยังกังวลเกี่ยวกับผลกระทบระยะสั้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการเก็บภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อเศรษฐกิจ FSSIA จึงปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568-2570 ลง 9-22% และปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 14.20 บาท
รายละเอียดผลประกอบการ Q1/68: กำไรต่ำสุดในรอบ 18 ไตรมาส
FSSIA คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/2568 ของ SPALI จะลดลงเหลือ 470 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 ไตรมาส และต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ สาเหตุหลักมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ที่อ่อนแอลง มูลค่า 3.5 พันล้านบาท ลดลง 60% (QoQ) และ 21% (YoY) โดยเฉพาะโครงการแนวราบที่ลดลง 63% (QoQ) และ 32% (YoY) เนื่องจากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่น้อยลง และการโอนกรรมสิทธิ์ที่เร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/2567 ก่อนมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์จะสิ้นสุดลง FSSIA คาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ 37.8% ทรงตัว (QoQ) แต่เพิ่มขึ้นจาก 36.3% ในไตรมาส 1/2567 จากการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดที่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่าย SG&A คาดว่าจะเพิ่มขึ้น (YoY) เนื่องจากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มากขึ้น ในขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุน (JVs) ในออสเตรเลียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 125 ล้านบาท (จาก 0.3 ล้านบาทในไตรมาส 1/2567) เนื่องจาก SPALI เริ่มรับรู้รายได้จาก 12 การลงทุนใหม่ในไตรมาส 4/2567
ความกังวลและความเสี่ยง: ผลกระทบจากปัจจัยภายนอก
ผู้บริหาร SPALI เชื่อว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อคอนโดมิเนียมสูงในระยะสั้น เนื่องจากยอดขายล่วงหน้าลดลงและผู้ซื้อบางรายกำลังพิจารณายกเลิกการจอง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือนในการฟื้นตัวมากกว่า 50-60% นอกจากนี้ ยังมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากการเก็บภาษีของทรัมป์ (Trump’s tariffs) ที่มีต่อเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประชาชน ตลาดคาดว่าจะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง ซึ่งจะกดดันอัตรากำไรเนื่องจากการส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม
คำแนะนำและราคาเป้าหมาย: ปรับลดลงสะท้อนมุมมองที่ระมัดระวัง
เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ช้ากว่าที่คาดไว้ FSSIA จึงได้ปรับลดประมาณการกำไรสำหรับปี 2568-2570 ลง 22%/10%/9% ตามลำดับ ส่งผลให้คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของ SPALI จะลดลง 30% (YoY) เหลือ 4.3 พันล้านบาทในปี 2568 โดยสะท้อนมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยมีสมมติฐานการโอนกรรมสิทธิ์ที่ 23.8 พันล้านบาท ลดลง 23% (YoY) ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของบริษัทที่ 30 พันล้านบาทถึง 21% SPALI มี Backlog ที่ต่ำกว่าที่ 8.2 พันล้านบาทที่จะรับรู้ในปี 2568 ซึ่งครอบคลุมประมาณการการโอนกรรมสิทธิ์ของ FSSIA เพียง 35% เท่านั้น เนื่องจากมีคอนโดที่สร้างเสร็จเพียงแห่งเดียว (มูลค่า 1.2 พันล้านบาท, ขายได้ 76%) ดังนั้น บริษัทจึงต้องพึ่งพายอดขายล่วงหน้าของโครงการแนวราบและสินค้าคงเหลือของคอนโด ซึ่งตลาดยังคงซบเซา
FSSIA ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 14.20 บาท จากเดิม 18 บาท อิงตาม P/E ที่ 6.4 เท่า (ค่าเฉลี่ย 5 ปี) แม้ว่า SPALI จะมีงบดุลที่แข็งแกร่ง แต่ราคาซื้อขายปัจจุบันสูงกว่าราคาเป้าหมายของ FSSIA แล้ว นอกจากนี้ ยังขาดปัจจัยกระตุ้นในระยะสั้นเนื่องจากผลประกอบการที่น่าเบื่อในไตรมาส 1/2568 และแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ช้าลงในปี 2568 ดังนั้น FSSIA จึงปรับลดคำแนะนำลงเป็น "REDUCE" จากเดิม "Hold"