บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
BH กำไร Q1/68 อ่อนแอ! INVX คงคำแนะนำ "Neutral" ราคาเป้าหมายใหม่ 214 บาท
P/E 17.33 YIELD 3.05 ราคา 164.00 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: กำไร Q1/68 ต่ำกว่าคาด
BH รายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 1.7 พันล้านบาท ลดลง 13% YoY และ 9% QoQ เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ INVX คาดการณ์ว่ากำไรจะลดลง 6% ในปี 2568 และผันผวนในปี 2569-2570 จากต้นทุนเริ่มแรกของโรงพยาบาลใหม่ในภูเก็ต INVX คงคำแนะนำ "Neutral" โดยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 เป็น 214 บาท/หุ้น (จาก 230 บาท/หุ้น) อ้างอิงวิธี DCF
ผลประกอบการและปัจจัยที่ส่งผลกระทบ
กำไร 1Q68 อ่อนแอจากรายได้และ EBITDA margin ที่ลดลง โดยรายได้รวมอยู่ที่ 6.1 พันล้านบาท ลดลง 6% YoY และ 5% QoQ หลักๆ เกิดจากบริการผู้ป่วยต่างชาติที่ลดลง 10% YoY และ 5% QoQ จากฐานสูงของรายได้จากการรักษาโรคซับซ้อนในปี 2566-1H67 และช่วงรอมฎอนที่ทำให้ผู้ป่วยจากตะวันออกกลางเข้ามาน้อยลง EBITDA margin อยู่ที่ 37% ใน 1Q68 ลดลงจาก 40.3% ใน 1Q67 แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 36.1% ใน 4Q67 INVX คาดว่ากำไร 2Q68 จะลดลง YoY จากฐานสูงของรายได้จากการรักษาโรคซับซ้อนและ EBITDA margin และจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ
การปรับประมาณการและคำแนะนำ
INVX ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 และปี 2569 ของ BH ลดลงปีละ 7% ปัจจุบันคาดว่ากำไรปกติจะลดลง 6% ในปี 2568 โดยอิงกับรายได้ในระดับทรงตัวและ EBITDA margin ที่กลับสู่ระดับปกติที่ 37.1% (จาก 39.4% ในปี 2567) กำไรจะผันผวนในปี 2569-2570 เนื่องจาก BH จะมีต้นทุนเริ่มแรกที่เกี่ยวข้องกับการเปิดโรงพยาบาลใหม่ในภูเก็ตในปี 2570 INVX คงคำแนะนำ "Neutral" สำหรับ BH โดยปรับราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 เป็น 214 บาท/หุ้น อ้างอิงวิธี DCF ใหม่ อ้างอิง WACC ที่ 7.5% และการเติบโตในระยะยาวที่ 3%
ความเสี่ยงและปัจจัยที่ต้องจับตา
ความเสี่ยงหลักคือการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจทำให้เกิดการชะลอการรักษาโรคที่ไม่เร่งด่วน และความไม่สะดวกของผู้ป่วยต่างชาติที่จะเดินทางมารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย ปัจจัยเสี่ยงด้าน ESG คือความปลอดภัยของผู้ป่วย (S) ซึ่ง BH ได้นำเอาระบบบริหารคุณภาพต่างๆ มาใช้สำหรับการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง