บทความ ข่าวสาร กิจกรรม
KKP กำไรทรุด! MST หั่นเป้าเหลือ 55 บาท หลังรายได้ลดเร็วกว่าต้นทุน
P/E 9.47 YIELD 6.30 ราคา 65.25 (0.00%)
ไฮไลท์สำคัญ: KKP กำไร Q1/68 ทรุด, MST ปรับลดราคาเป้าหมาย
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (MST) แนะนำ "ซื้อ" หุ้น KKP แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 55 บาท (จากเดิม 65 บาท) เนื่องจากรายได้ลดลงเร็วกว่าต้นทุนในไตรมาส 1/2568 แม้ว่าต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจะลดลงในครึ่งปีหลัง แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยรายได้ที่ลดลงได้
รายละเอียดการวิเคราะห์และเหตุผล
MST ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลงปีละ 10% เนื่องจากปรับลดสมมติฐานการเติบโตของสินเชื่อและ NIM (Net Interest Margin) คาดว่ารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะลดลง YoY จากผลขาดทุนจากการลงทุนในหุ้นเวียดนาม KKP มีเงินลงทุนในหุ้นเวียดนามราว 1.0-1.5 พันล้านบาท และอาจรับรู้ผลขาดทุนจากการปรับมูลค่าลงใน 2Q68 จากการปรับฐานของตลาดหุ้นเวียดนาม
CEO ของ KKP ระบุว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/68 ที่อ่อนแอ (-30% YoY) เป็นผลมาจากความไม่สอดคล้องกันของรายได้ที่ลดลงกับต้นทุน รายได้ดอกเบี้ยลดลงจากพอร์ตสินเชื่อที่เล็กลงและอัตราผลตอบแทนจากสินเชื่อลดลง MST คาดว่าต้นทุนทางการเงินจะเริ่มลดลงตั้งแต่ไตรมาส 2/68 เป็นต้นไปจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์
คุณภาพสินทรัพย์เริ่มฟื้นตัว โดยผลขาดทุนจากการขายรถลดลง 32% YoY และ 37% QoQ เหลือ 694 ล้านบาทใน 1Q68 เทียบกับค่าเฉลี่ย 4.8 พันล้านบาทต่อปีในปี 66-67 จากอัตราการขาดทุนต่อคันที่ลดลง (44% ใน 1Q68 เทียบกับ 52% ในปี 67) และจำนวนรถยึดที่ลดลง
ข้อสังเกตและกลยุทธ์ของ KKP
MST ยังคงชอบ KKP จากกลยุทธ์ในการเร่งขยายธุรกิจที่ให้ ROE สูง (ค่าธรรมเนียมบริหารความมั่งคั่ง) และชะลอธุรกิจที่ให้ ROE ต่ำ (สินเชื่อในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนต่ำ) ทั้งนี้ หุ้นมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 8.4% จากอัตราการจ่ายปันผลที่ 60% ของกำไรในปี 68 ความเสี่ยงหลักคือคุณภาพสินทรัพย์และการลดต้นทุนที่อาจต่ำกว่าคาด